บ้านทรอปิคัลโมเดิร์น ที่ออกแบบด้วยแนวคิด “เรือนหมู่” - บ้านและสวน

บ้านทรอปิคัลโมเดิร์นที่ออกแบบด้วยแนวคิด “เรือนหมู่”

บ้านทรอปิคัลโมเดิร์นสำหรับครอบครัวขยายที่รีโนเวตและสร้างบ้านใหม่ต่อจากบ้านเดิม โดยออกแบบเผื่อลูกหลานมีครอบครัวของตัวเอง และอยู่ร่วมบ้านเดียวกับคุณพ่อคุณแม่ได้ ซึ่งเป็นแนวคิดเดียวกับ “เรือนหมู่” ของคนไทยโบราณ แต่ซ่อนรูปอยู่ในบ้านร่วมสมัยที่ออกแบบด้วยดีเทลและวัสดุสมัยใหม่

DESIGNER DIRECTORY
ออกแบบ: Space Story Studio

บ้านทรอปิคัลโมเดิร์น
บ้านไทยร่วมสมัยทรงจั่วที่ยกระดับหลังคาช่วยระบายความร้อนใต้หลังคา กรุผนังด้วยไม้ฝาไฟเบอร์ซีเมนต์แบบไม่ทำสี เก็บขอบมุมด้วยอะลูมิเนียมที่เป็นดีเทลสมัยใหม่
บ้านทรอปิคัลโมเดิร์น
รีโนเวตบ้านหลังเดิมอายุเกือบ 20 ปี เพื่อรองรับการพักผ่อนในบั้นปลายชีวิต และเผื่อการมีครอบครัวของลูกหลานและรองรับการรวมญาติ โดยออกแบบชั้นล่างให้เปิดโล่งได้คล้ายใต้ถุนบ้าน

บ้านทรอปิคัลโมเดิร์น

ครอบครัวขยายเป็นวิถีของคนไทยในทุกยุคสมัย แต่กาลก่อนเมื่อลูกสาวมีครอบครัว ฝ่ายชายจะย้ายมาอยู่บ้านฝ่ายหญิง โดยปลูกเรือนเชื่อมต่อกับชานเรือนพ่อแม่ หรือปลูกเรือนอยู่ในบริเวณเดียวกัน มีลักษณะแบบ “เรือนหมู่” ที่เดินไปมาหาสู่และพึ่งพากันได้สะดวก เช่นเดียวกับ บ้านทรอปิคัลโมเดิร์น หลังนี้ ที่ดูภายนอกไม่ต่างจากบ้านทั่วไป แต่ภายในกลับซ่อนสเปซแบบเรือนหมู่ ซึ่งออกแบบเผื่อการมีครอบครัวของลูกหลานและรองรับการรวมญาติในแต่ละสัปดาห์ได้อย่างสะดวกสบาย

บ้านทรอปิคัลโมเดิร์น

บ้านทรอปิคัลโมเดิร์น

จากครอบครัวเดี่ยวสู่ครอบครัวขยาย

ภายในพื้นที่ 200 ตารางวานี้ เดิมมีบ้านสองชั้นอายุประมาณ 20 ปีซึ่งโครงสร้างหลักยังแข็งแรงดี แต่เมื่อครอบครัวที่มีคุณพ่อ คุณแม่ คุณตา คุณยาย และลูก 3 คน ที่เติบโตจนสำเร็จการศึกษาและพร้อมสร้างครอบครัวของตนเอง จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการทำบ้านแบบครอบครัวขยาย โดยมีโจทย์สำหรับสถาปนิกคือ เป็นบ้านที่ทุกคนยังสามารถอยู่รวมกันได้ในบริเวณเดียวกัน โดยยังพื้นที่ส่วนตัวและดูแลบุคคลที่อยู่ร่วมกันภายในบ้านได้ทั่วถึง รวมทั้งรองรับญาติมิตรที่มาเยี่ยมเยียนได้อย่างเหมาะสมในทุกช่วงเวลา

บ้านทรอปิคัลโมเดิร์น
ชั้นล่างของบ้านเดิมรีโนเวตเป็นพื้นที่ส่วนกลางแบบโอเพ่นแปลนสำหรับนั่งเล่น รับประทานอาหาร และวางเครื่องออกกำลังกายให้หันหน้าไปเห็นวิวสระว่ายน้ำ

การแยกเพื่อรวมกัน

บ้านทรอปิคัลโมเดิร์น รูปตัวแอล (L) เปิดคอร์ตด้านหน้าเป็นสระว่ายน้ำ และเปิดโล่งถึงภายในบ้านที่มีทางเดินและชานเชื่อมอาคารสองหลังเข้าด้วยกัน คุณท็อป-พิพล ลิขนะไพศาล สถาปนิกแห่ง Space Story Studio เล่าถึงการออกแบบว่า “เป็นการรีโนเวตบ้านเดิมและสร้างบ้านใหม่อีกหลังในที่ว่างข้างบ้านเผื่อการมีครอบครัวของลูกในอนาคต และเพื่อการพักผ่อนในบั้นปลายชีวิต โดยออกแบบให้ทั้งสองหลังมีความเชื่อมโยงกันมากที่สุด แต่ก็คิดเผื่อปรับเปลี่ยนการใช้ที่ดินหรือการแบ่งกรรมสิทธ์ที่ดินซึ่งเป็นเรื่องไม่แน่นอนในอนาคต โดยเว้นพื้นที่ว่างระหว่างหลังไว้ ออกแบบวางผังให้ส่วนบ้านเดิมเป็นพื้นที่ส่วนกลางสำหรับรับแขก ออกกำลังกาย รับประทานอาหาร ห้องครัวหลัก ชั้นบนเป็นยูนิตของคุณพ่อคุณแม่ที่มีห้องนอนและห้องนั่งเล่นซึ่งเชื่อมกับชานของอีกหลัง  ส่วนหลังที่สร้างใหม่ออกแบบเป็นห้อง 3 ยูนิต แบบดูเพล็กซ์ที่มีฟังก์ชันครบในตัวเอง พื้นที่ชานจึงเป็นทั้งการเชื่อมต่อและแยกสัดส่วนพื้นที่ให้เป็นส่วนตัว”

บ้านทรอปิคัลโมเดิร์น
พื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบสเปซแบบชานเรือนไทย แต่อยู่ในร่มจึงสามารถใช้งานได้ตลอดเวลา มีทางเดินเชื่อมไปยังห้องของลูกๆ ที่แบ่งเป็น 3 ยูนิต
บ้านทรอปิคัลโมเดิร์น
ชานยังเชื่อมต่อไปยังบ้านหลังเดิมของคุณพ่อคุณแม่ซึ่งจัดเป็นส่วนพักผ่อนและเล่นดนตรี เป็นพื้นที่เชื่อมต่อที่ให้สมาชิกสมาชิกครอบครัวได้ออกมาทำกิจกรรมร่วมกัน

บ้านทรอปิคัลโมเดิร์น

ดีเทลโมเดิร์นในสไตล์ไทย

“เจ้าของชอบบ้านแบบไทยๆ แต่เลือกใช้วัสดุสมัยใหม่ที่มีการใช้งานคงทนและราคาเหมาะกับยุคปัจจุบัน อย่างการเลือกใช้อะลูมิเนียมกับไม้เทียมทำผนังบ้าน ซึ่งเหมาะกับชีวิตปัจจุบันที่มีการเปิดแอร์ ป้องกันอากาศรั่วไหลได้ดีกว่าไม้จริง ใช้ไม้เทียมเป็นส่วนตกแต่งผนังภายนอกโดยติดตั้งบนผนังก่ออิฐอีกชั้น ทั้งเพื่อความสวยงามและเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันความร้อน แต่เลือกโชว์เนื้อวัสดุที่ไม่ทำสี แล้วทาเคลือบแทน และออกแบบการจบรอยต่อด้วยฉากอะลูมิเนียมที่ดูบางเบาและทำงานง่าย ส่วนประตูหน้าต่างและผนังบางส่วนเป็นงานอะลูมิเนียมลายไม้ที่ยังคงดูอบอุ่นคล้ายไม้จริง แต่ทนทานและใช้งานได้ดีกว่า รวมถึงการใช้โครงสร้างเหล็กร่วมกับไม้และคอนกรีต เป็นการลดทอนรายละเอียด แต่ยังคงองค์ประกอบแบบบ้านไทย”

ยูนิตของลูกทั้ง 3 คน เป็นห้องดูเพล็กซ์ที่มีสองชั้น และมีฟังก์ชันครบในตัวเอง โดยให้แต่ละคนเลือกตกแต่งในสไตล์ที่ตัวเองชอบ ยูนิตนี้ใช้โทนสีเทา น้ำตาล ดำ โถงชั้นล่างเป็นมุมแพนทรี่และรับประทานอาหาร
ห้องชั้นล่างทำเป็นประตูบานเฟี้ยม จึงสามารถปรับเป็นห้องนั่งเล่น หรือห้องนอนอีกห้องก็ได้
วางแปลนให้ห้องลูกๆ หันหน้าไปยังบ้านเดิมและทำผนังกระจกใส เพื่อสร้างความเชื่อมต่อทางสายตา

ใต้ถุน ครัวไทย และแกงใต้

ด้วยการออกแบบที่ดียังทำให้บ้านหลังนี้เป็น “บ้าน” ที่มีหลายองค์ประกอบร่วมกันได้ “เป็นครอบครัวที่สนิทกันมาก ก่อนนั้นทั้ง 5 คนก็อยู่พร้อมหน้ากันในบ้านหลังเดิม แต่พอขยายบ้านให้ใหญ่ขึ้นอาจทำให้รู้สึกห่างกัน จึงออกแบบบ้านให้มี Sense of Place ที่ทำให้รู้สึกว่ายังมีคนอยู่ในบ้านด้วยกัน มีความผูกพันเกิดขึ้น มีการเปิดมุมมองจากห้องแฟมิลี่ไปยังห้องพักของลูกๆ ซึ่งทำเป็นผนังกระจกให้มองเห็นกันได้ วางแปลนให้หันหน้าเข้าหากัน ทำพื้นชานไม้เว้นร่องที่พอจะมองเห็นกันได้บ้าง และรู้สึกได้เมื่อมีคนเดินแม้จะอยู่กันคนละชั้น”

ออกแบบขอบสระให้สูงเท่าระดับพื้นเฉลียงของบ้านเดิม และทำขอบสระด้วยกระจกนิรภัยทำให้มุมนั่งเล่นริมสระดูเหมือนจมอยู่ในสระน้ำ เป็นทั้งมุมออกกำลังกายและพักผ่อนสุดโปรดของทุกคน

แม้ลูกๆ จะแยกไปมีชีวิตส่วนตัวในบ้านของแต่ละคน แต่ทุกเช้าหรือเย็นก็ยังคงไปนั่งเล่น ออกกำลังกาย และรับประทานอาหารร่วมกันที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งออกแบบผนังบ้านให้เปิดโล่งมีสเปซแบบใต้ถุนบ้านที่อยู่สบาย ตามความชอบของคุณพ่อคุณแม่ที่ตอนกลางวันอยู่แบบเปิดบ้านโล่งมากกว่าเปิดเครื่องปรับอากาศ ส่วนหลังบ้านมีทั้งครัวฝรั่งและครัวไทยที่คุณแม่ลงมือทำอาหารเองด้วยรสมือคนปักษ์ใต้ทั้งอร่อยและคุ้นเคย บางวันลูกๆ อาจยกสำรับตักแกงในหม้อแยกไปรับประทานส่วนตัวแบบครอบครัวเดี่ยว แม้จะนั่งกันคนละมุมบ้าน แต่ก็อิ่มท้องอิ่มใจด้วย “รสมือแม่” เสมอ ในชามแกงร้อนๆ จึงอาจเป็น “บ้าน” ที่เชื่อมโยงครอบครัวอย่างแท้จริงก็เป็นได้


เรื่อง : ศรายุทธ ศรีทิพย์อาสน์

ภาพ : สิทธิศักดิ์ น้ำคำ

สไตล์ : วรวัฒน์ ตุลยทิพย์

คืนชีวิตให้บ้านเก่ากลายเป็นบ้านไทยใต้ถุนสูงเจือกลิ่นโมเดิร์น

บ้านไทยพื้นถิ่น จากวัสดุสมัยใหม่ที่ผสานกันอย่างลงตัว