ปลูกผักแสนง่ายและปลอดภัย ด้วยพีทมอส วัสดุปลูกที่มีประโยชน์มากมาย
พีทมอส หนึ่งในวัสดุปลูกที่ดีที่สุดสำหรับการเพาะเมล็ดและต้นกล้าของผักทุกชนิด เช่นเดียวกับต้นเคล(Kale) ผักใบสวยน่ารักและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ซึ่งนิยมปลูกกันมากในเวลานี้ มาเรียนรู้วิธีการปลูกเคลแสนอร่อยควบคู่ไปกับค้นพบคุณสมบัติแสนวิเศษของพีทมอสกัน
ทำไมต้องใช้พีทมอส?
- เพราะพีทมอสสะอาด ต่างจากวัสดุปลูกทั่วไป ปราศจากเชื้อจุลินทรีย์ ไม่มีแบคทีเรียหรือเชื้อรา ไม่มีวัชพืช เหมาะกับการนำไปเพาะต้นกล้าที่อ่อนไหวต่อสิ่งรอบตัวมาก ต้นกล้าอาจติดเชื้อโรคหรือตายได้ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นแหล่งที่อยู่ของแบคทีเรียชั้นดีสำหรับการงอกของเมล็ดและต้นอ่อนด้วย
- เก็บความชุ่มชื้นได้ดี ด้วยคุณสมบัติอุ้มน้ำดีทำให้พีทมอสเหมาะกับเพาะต้นกล้า ทำให้ต้นไม้ได้ทั้งความชุ่มชื้น และเติบโตได้ดี แต่ร่วนซุยไม่ติดกันเป็นก้อน น้ำไหลผ่านได้ดี
- หาซื้อง่าย มีหลายขนาด ได้แก่ โดยสามารถสั่งซื้อได้ที่ www.ct-homegarden.com หรือ Facebook : Chia Tai Home Garden หรือ Line: @homegarden (สำหรับ 5 ลิตร และ 20 ลิตร) ขนาดอื่นสามารถหาซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายหรือร้านค้าเกษตรใกล้บ้าน
พีทมอส คือ อะไร?
พีทมอสวัสุดปลูกประเภทหนึ่ง มีลักษณะเป็นเส้นใยสีดำ เกิดจากการที่ซากพืชที่ทับถมกันมานานเป็นเวลาหลายพันปี โดยเฉพาะมอสตระกูลสแฟคนั่ม (Sphagnum) ที่ตายแล้ว และทับถมกันมาเป็นเวลาหลายพันปี เราจะพบพีทมอสอยู่ชั้นล่างของสแฟคนั่มมอสที่ยังมีชีวิต การที่จะเกิดพีทมอสได้หนาประมาณ 2-3 ฟุต ต้องใช้เวลาสะสมและย่อยสลายกว่า 1000 ปี พีทมอสจะพบได้ที่ภูมิประเทศที่มีอากาศหนาวตามหนองน้ำและบึง โดยพบที่ประเทศรัสเซียและประเทศแคนาดาเป็น 2 ประเทศที่มีพีทมอสมากที่สุด
ซึ่งพีทมอสในธรรมชาตินั้นมีเพียง 3 % เท่านั้นเมื่อเทียบกับพื้นดินบนโลก การขุดพีทมอสจึงเป็นเรื่องที่เคร่งครัดในหลายๆประเทศ
วิธีการปลูก
เคล เป็นผักที่ปลูกและดูแลง่ายชอบแสงแดดตลอดวัน แต่ถ้าอาศัยอยู่ในพื้นที่แค่ระเบียงคอนโด ที่ว่างข้างบ้านหรือหน้าบ้าน ขอเพียงมีแสงแดดส่องถึงบ้างก็เพียงพอ แต่ที่สำคัญเคลเป็นผักที่ต้องการน้ำสม่ำเสมอ
1.เพาะเมล็ดในถาดหลุม โดยใช้พีทมอสเป็นวัสดุปลูกสำหรับเพาะเมล็ดนำไปใส่จนเต็มถาดหลุม
2.หยอดเมล็ดเคลลงในถาดหลุม หลุมละ 2 เมล็ด จากนั้นรดน้ำให้ชุ่ม แล้วนำถาดเพาะเมล็ดไปวางไว้ในที่ร่มนาน 2-3 วัน รดน้ำเช้า-เย็น ใช้เวลาประมาณ 3-7 วัน เมล็ดจะเริ่มงอก
3.จากนั้นจึงย้ายต้นกล้า นำไปปลูกในกระถางหรือแปลงปลูกที่ต้องการ เมื่อต้นกล้ามีอายุ 15-18 วัน
4.เก็บเกี่ยวโดยทยอยตัดใบล่างไปรับประทานได้ตั้งแต่ต้นเคลอายุได้ 45 วันเป็นต้นไป
Tip เก็บแต่ละครั้งควรเหลือใบบนต้นสัก 6-7 ใบ เพื่อให้ต้นสังเคราะห์แสงและพร้อมแตกยอดใหม่ให้เก็บในรอบถัดไป
ประโยชน์ของเคล
เคลเป็นผักที่ได้รับฉายาว่า “ราชินีแห่งผักใบเขียว” จัดเป็นพืชผักในวงศ์ Brassicaceae เช่นเดียวกับคะน้า กะหล่ำปลี บร็อคโคลี่ และกะหล่ำดอก มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Brassica oleracea L. Acephala group แม้เคลเป็นผักต่างประเทศ แต่มีหลายสายพันธุ์ที่เติบโตได้ดีและให้ผลผลิตงามในบ้านเรา สามารถปลูกได้ตลอดปี แต่จะโตได้ไว มีทรงพุ่มสวยสมบูรณ์ ใบหยิกฟูและมีสีจัดมากที่สุดในช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือนตุลาคมถึงมกราคม นอกจากสามารถเก็บมารับประทานได้ทุกวันแล้วยังประดับสวนได้สวยไม่แพ้ไม้ประดับทีเดียว
เคลมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมด้วยวิตามิน โดยเฉพาะวิตามิน K , A และ C มีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ทั้งโปรตีน แคลเซียม เหล็ก โพแทสเซียม แมงกานีส มีใยอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แคโรทีนอยด์ ฟลาโวนอยด์ โฟเลต และลูทีน ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง โรคกระดูกพรุน บำรุงเลือด ช่วยลดริ้วรอย ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และกำจัดสารพิษที่สะสมออกจากร่างกาย ทั้งยังแคลอรี่ต่ำ มีแป้งและไขมันต่ำมาก นิยมรับประทานสดเป็นสลัดและทำเครื่องดื่มน้ำปั่นเพื่อสุขภาพ
สามารถสั่งซื้อเมล็ดพันธุ์และพีทมอส จาก เจียไต๋ โฮมการ์เด้น ได้ที่ ร้านค้าเกษตร , ร้านโมเดิร์นเทรดสาขาใกล้บ้าน หรือ สั่งซื้อทางออนไลน์ได้ที่
เว็บไซต์ www.ct-homegarden.com
Line : @homegarden
Facebook : Chia Tai Home Garden