/ ของเก่าเวลาได้มาก็ไม่ได้ดัดแปลงอะไร แค่เพียงทำความสะอาด
ผมว่าของเก่ามันต้องมีร่องรอยการใช้งานบ้างถึงจะมีเสน่ห์ /
คงจะดีไม่น้อยถ้าเรามีบ้านที่สามารถเป็นได้ทั้งที่พักอาศัย ที่ทำงาน และเป็นแกลเลอรี่ส่วนตัว แบ่งปันความสุขของการชื่นชมงานศิลปะให้กับผู้คนที่แวะเวียนมาเยี่ยมเยือน รวบรวม หล่อหลอม สะท้อนเรื่องราวประสบการณ์ที่ผ่านมาในชีวิต และเป็นแรงบันดาลใจที่ได้รับการถ่ายทอดออกมาอย่างละเมียดละไมด้วยความรัก จนกลายเป็นบ้านที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ได้ครบทุกมุมของชีวิต บ้านที่เรากำลังกล่าวถึงคือบ้านของคุณนิค – คุณภูริณัฐ ตันตินันท์ธนา หรือที่เรารู้จักกันดีกับร้านเค้กแสนอร่อยย่านซอยอารีย์ในนาม “Puritan” ก่อนหน้านี้ทีมงาน room เคยมาเยี่ยมบ้านหลังนี้เมื่อสามปีที่แล้ว และแนะนำร้านอีกครั้งหลังจากรีโนเวตเสร็จแล้วในคอลัมน์ On Air New Place เดือนสิงหาคม 2014 ที่ผ่านมา หากถามว่าทำไมถึงต้องกลับมาเยี่ยมบ้านหลังนี้อีกครั้ง นั่นก็เพราะบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ด้วยไอเดียที่ไม่หยุดนิ่งของคุณนิคเจ้าของบ้านสุดติสท์ผู้มีสไตล์ไม่เหมือนใครคนนี้
ก่อนหน้านี้คุณนิคเคยรีโนเวตและตกแต่งบ้านไปเพียงสองโซน แต่หลังจากซื้อบ้านหลังนี้จากเจ้าของแล้วจึงเกิดไอเดียอยากเชื่อมพื้นที่ทั้งสามส่วน ทั้งโซนบ้านสไตล์ยุโรป ลอฟต์ และโคโลเนียลเข้าด้วยกัน โดยมีแนวทางการตกแต่งธีมเดียวกัน โดยใช้ของสะสมเป็นตัวเชื่อมโยงเรื่องราว
“ช่วงแรกที่เปิดร้านลงทุนไม่เยอะ ปรับปรุงนิดหน่อย เพราะสัญญาเช่าเป็นแบบปีต่อปี ถ้าเกิดวันหนึ่งมีคนมาซื้อบ้าน เราก็ต้องย้ายออก ช่วงปีแรกก็ยังไม่มีคนมาซื้อ พอต่อสัญญาปีที่ 2 คุณป้าก็ถาม ๆ ว่าอยากได้บ้านหลังนี้ไหม ในที่สุดคุณป้าก็ขายให้ในราคาที่เราแฮปปี้ เพราะเขาเห็นเราปรับปรุงและตั้งใจทำให้บ้านสวย รักบ้านเขา ทั้ง ๆ ที่เป็นบ้านเช่าแต่เราก็อยากตกแต่ง และดูแลอย่างดี ๆ หลังจากรีโนเวตเสร็จ คุณป้าได้แวะมาเยี่ยมที่ร้าน พอเขาเห็นก็ชอบมาก บอกว่าตัดสินใจไม่ผิดที่ขายให้เราเพราะเรารักบ้านหลังนี้จริง ๆ”
บ้านหลังนี้มีพื้นที่ประมาณ 100 ตารางวา แบ่งพื้นที่ใช้งานหลักเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ ส่วนไพรเวทของคุณนิคบนชั้นสอง ประกอบด้วยห้องนอน ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น และส่วนพับลิคบริเวณร้านเค้ก แม้ทั้ง 3 โซนจะมีบรรยากาศและจุดเด่นต่างกัน แต่ทุกห้องก็สามารถเชื่อมถึงกันได้อย่างลงตัวด้วยเรือนกระจกตรงกลางที่เนรมิตให้เป็นสวนกึ่งเอ๊าต์ดอร์สามารถใช้งานได้อเนกประสงค์ มีบรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติ และมีสีสันแปลกตาเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลาตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ดูอบอุ่นและน่าอยู่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านในแถบยุโรปเลยทีเดียว
“ตั้งใจทำให้บ้าน 3 หลัง มีแนวทางการตกแต่งที่ต่างกัน คือ บ้านเดิมเป็นสไตล์โคโลเนียล มีร้านเค้กเป็นฝั่งบ้านสไตล์ยุโรป และตรงกลางรีโนเวตใหม่ให้เป็นเรือนกระจกสไตล์ลอฟต์สูงกว่า 7 เมตร เพื่อให้ลุคดูทันสมัยขึ้นมาอีกนิด เชื่อมทั้ง 3 ส่วน โดยใช้การตกแต่งและโทนสีที่มีภาพรวมเหมือนกัน”
เราสังเกตเห็นได้ว่าคุณนิคมีของสะสมหลากหลายสไตล์ ตั้งแต่ตุ๊กตาตัวเล็ก ๆ โคมไฟ ขวดน้ำหอม ภาพวาดสีน้ำมัน พรม กระเป๋า ตุ๊กตาปูนปั้นสไตล์ยุโรป สัตว์สตัฟฟ์ งานประติมากรรม รวมไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ เมื่อมารวมตัวอยู่ในบ้านหลังนี้ บอกได้เลยว่าดูตระการตาสุด ๆ คุณนิคเล่าว่าของสะสมแต่ละชิ้นได้มาไม่พร้อมกัน เริ่มจากทยอยซื้อ และค่อย ๆ เก็บสะสมมาเรื่อย ๆ แล้วนำมาตกแต่งผสมผสานกันอย่างลงตัว วันนี้ Puritan จึงโดดเด่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยซิกเนเจอร์ที่ไม่เหมือนใคร
“ตอนเราเปิดร้านก็ค่อย ๆ ตกแต่งจากของสะสมที่เรามีอยู่ คำว่า Puritan มาจากชื่อจริงของผม – ภูริณัฐ มาสมานกับนามสกุล – ตันตินันท์ธนา และ Nat คือชื่อข้างหลังของผมมาสลับเป็นนามสกุล Puritan มีความหมายแปลว่า บริสุทธ์นิยม เป็นความหมายที่ดี ผมจึงใช้ชื่อนี้มาตั้งแต่เป็น Supplier Cake”
ช่วงก่อนหน้าที่จะเปิดร้านคุณนิคเป็น Supplier Cake รับทำเค้กตามออร์เดอร์ส่งตามคาเฟ่ ร้านกาแฟ ช่วงนั้นเขาค่อนข้างจะรวยเวลา จึงมีเวลาไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ
“ผมชอบท่องเที่ยว ชอบไปยุโรป โดยเฉพาะประเทศฝรั่งเศส พอดีมีเพื่อนอยู่ที่นั่น เขาก็จะพาเที่ยวตามเมืองต่าง ๆ ชอบที่สุดคือเมือง Niece เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส มีตลาด Flea Market ที่มีของเก่าสวย ๆ ราคาไม่แพงให้เลือกชมมากมาย พอเจอของที่ชอบก็จะซื้อมาเก็บไว้เลย”
เมื่อได้เดินชมสัมผัสกับบรรยากาศสวย ๆ ของแต่ละมุมภายในบ้านหลังนี้ เราสัมผัสได้ว่าทุก ๆ ตารางเมตรภายในบ้านสามารถบอกเล่าเรื่องราว สะท้อนสไตล์ และตัวตนของคุณนิคผ่านข้าวของเครื่องใช้และของสะสมได้อย่างมีเอกลักษณ์ จนเราอดถามไม่ได้ถึงความรู้สึกที่เขามีต่อบ้านหลังนี้
“ความรู้สึก ณ จุดนี้ผมว่า ผมมีไลฟ์สไตล์ที่สะดวกสบาย ตื่นเช้ามาพออาบน้ำเสร็จก็ลงมาจัดของ ทำเค้ก พอปิดร้านก็ขึ้นบ้านนอน อ่านหนังสือ ชีวิตไม่ต้องดิ้นรนเยอะ ไม่ต้องออกไปผจญรถติด และผู้คนวุ่นวายข้างนอก ไลฟ์สไตล์เราชอบอยู่เงียบ ๆ นั่งคิดไปเรื่อย ๆ ว่าพรุ่งนี้จะทำเค้กอะไร”
ดังนั้นบ้านหลังนี้จึงเปรียบได้กับบ้านที่ครบครัน มีทั้งร้านเค้กแสนอร่อย ที่ทำงาน แกลเลอรี่โชว์ของสะสมและของเก่าหายาก นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่สร้างแรงบันดาลใจให้แห้ผู้มาเยือน ได้บรรยากาศการพักอาศัยที่อบอุ่นรื่นรมย์ ตามแนวทาง Slow Life ของการมีคุณภาพชีวิตที่ดีท่ามกลางเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย เป็นโลกทั้งใบที่เป็นทั้งชีวิตและจิตใจของคุณนิค ทำให้เราได้เห็นว่าแค่ทุก ๆ วัน เราได้มีความสุขกับการได้ทำในสิ่งที่รัก ชีวิตก็คงไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว…
เรื่อง : Sara’
ภาพ : จิระศักดิ์ ทองหยวก, นันทิยา บุษบงค์
คอลัมน์ : Room To Room
เล่ม : October 2014 No.140