บ้านไม้ผสมปูน หลังนี้ได้รับ ‘รางวัลสถาปัตยกรรมที่ควรค่าแก่การเผยแพร่’ ของกรรมาธิการสถาปนิกล้านนา สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นสิ่งยืนยันว่าบ้านหลังนี้ไม่เพียงแต่สวยงามด้วยรูปลักษณ์ แต่ยังหมายถึงวิธีคิดและเรื่องราวที่สวยงามด้วย
เจ้าของ-ออกแบบตกแต่ง : คุณกวิน ว่องวิกย์การและคุณวิยะดา เจริญศุข ว่องวิกย์การ
บ้านหลังนี้เกิดจากการตัดกันของเส้นทางชีวิตของคนสองคน ไม่ว่าจะด้วยความบังเอิญหรือฟ้าเป็นคนเขียนบท คุณกวิน ว่องวิกย์การ และ คุณวิยะดา เจริญศุข ว่องวิกย์การ ก็ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกันมานานกว่า 7 ปีแล้ว มีบางสิ่งเชื่อมโยงให้ทั้งคู่พบกันที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในหน้าที่ของการเป็นอาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ แล้วผมก็ต้องแปลกใจเมื่อทราบว่าทั้งคู่ไม่ใช่คนเชียงใหม่ แต่พอได้มาอยู่และทำงานที่นี่ ต่างก็หลงรักเสน่ห์ของเมืองแห่งนี้เข้าอย่างจัง
ตอนนี้คุณวิยะดาลาออกจากการเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัย ปัจจุบันเป็นสถาปนิกที่บริษัทสถาปนิก 49 จำกัด สาขาเชียงใหม่ ส่วนคุณกวินยังคงสอนหนังสืออยู่ “ตอนแรกไม่ได้คิดจะมาลงหลักปักฐานที่เชียงใหม่ คงเป็นเพราะเจอช่วงเวลาที่พอดี เจอคนและสถานที่ที่พอดี เลยเกิดความคิดอย่างนี้ขึ้น ซึ่งคุณพ่อของคุณกวินมีที่ดินตรงนี้อยู่แล้ว ประจวบกับมีคนรู้จักกำลังจะขายบ้านไม้เก่า เราไปเห็นเข้าก็สนใจ จึงขอซื้อมาทำเป็นโครงสร้างไม้ของบ้านชั้นบน สภาพไม้ยังดีอยู่ แค่นำมาทาสีเคลือบและปรับช่วงเสานิดหน่อยก็ใช้ได้แล้ว”
หลังจากแต่งงานมาประมาณ 3 ปี ทั้งคู่ตัดสินใจสร้าง บ้านไม้ผสมปูน หลังนี้ด้วยแนวคิดที่อยากให้เป็นบ้านที่อยู่สบาย ไม่จำเป็นต้องเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา และสามารถคุมงบประมาณการก่อสร้างได้ พื้นที่ใช้สอยถูกกลั่นกรองจนเหลือแต่พื้นที่ที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตจริงๆ
ชั้นล่างประกอบด้วยชานไม้ขนาดใหญ่ ต่อเนื่องไปเป็นส่วนโถงทางเข้า ห้องอเนกประสงค์ พร้อมด้วยห้องครัว ห้องน้ำ และห้องนอนเล็กเผื่อไว้สำหรับแขกและญาติมิตร บริเวณโถงบันไดมีประตูทางออกสู่ชานหลังบ้านเล็กๆ ใช้เป็นพื้นที่ซักล้างและส่วนบริการได้อย่างลงตัว ชั้นบนประกอบด้วยห้องนอน 2 ห้อง พร้อมห้องน้ำในตัว ห้องทำงาน และที่ขาดไม่ได้คือชานทั้งด้านหน้าและหลังของบ้าน
“บางวันเราใช้เวลาทำกิจกรรมต่างๆตรงชานนี้มากกว่าภายในบ้านเสียอีก ยิ่งช่วงหน้าหนาวก็มีลมเย็นสบายพัดมาตลอด ไม่ว่าจะนั่งทำงาน นั่งเล่น พูดคุยกันในครอบครัว หรือแม้แต่รับแขก จนบางครั้งคิดกันว่าเราน่าจะทำชานให้ใหญ่กว่านี้นะ“ (หัวเราะ)
ตัวบ้านถูกแบ่งด้วยโถงบันไดกลางบ้าน โถงบันไดที่เหมือนไม่มีตัวตนชัดเจนนัก ทว่าเจ้าของบ้านบอกกับเราว่าโถงนี้มีความสำคัญมาก ในวันที่อากาศดีๆ เพียงแค่เปิดประตูด้านหน้าและด้านหลังของโถงบันไดทั้งสองชั้น ก็จะมีลมไหลเวียนผ่านทางโถงนี้ตลอดเวลา ทำให้บ้านไม่ร้อนและระบายความชื้นของส่วนครัวและห้องน้ำได้เป็นอย่างดี
บ้านไม้ผสมปูน
พื้นทั้งภายในและภายนอกเป็นไม้จริง ผนังทำเป็นปูนผิวขัดมัน ไม้กับปูนเปลือยนอกจากเป็นความชอบส่วนตัวของทั้งคู่แล้ว ในแง่ของการใช้งาน วัสดุเหล่านี้ก็ดูแลรักษาง่ายและทนทานกว่าวัสดุสังเคราะห์หลายแบบที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน ส่วนสไตล์หรือรูปแบบของสถาปัตยกรรม เจ้าของบ้านไม่ได้จำกัดรูปแบบของบ้าน เพราะทั้งคู่เชื่อว่าสไตล์ไม่สามารถทำให้บ้านนั้นเป็นบ้านที่อยู่สบาย หากแต่เป็นเพียงเปลือกนอกที่ห่อหุ้มคุณค่าของอาคารนั้นๆไว้
“ตอนที่ออกแบบก็ไม่ได้คิดหรอกว่าจะต้องมีกลิ่นอายล้านนาหรืออะไร คิดเพียงว่าทำอย่างไรให้คนที่อยู่ในบ้านสามารถอยู่กับพื้นที่ทุกส่วนในบ้านอย่างเหมาะสมและมีความสุขที่สุด กล่าวคือไม่รู้สึกอึดอัด ไม่รู้สึกว่าอยากออกจากบ้านเพื่อหาพื้นที่ที่สบายกว่า แต่สร้างเสร็จแล้วตรงกับสไตล์ไหน ก็คงแล้วแต่ใครจะกำหนด เช่น อยากให้บ้านไม่ร้อน ไม่โดนแดด เราก็ยื่นชายคาให้บังแดดเยอะๆ หากไปตรงกับรูปลักษณ์ของบ้านล้านนาซึ่งมีหลังคายื่นคลุมเยอะกว่าปกติ ก็เป็นเรื่องบังเอิญ เพราะเราคิดว่าบ้านหรืออาคารที่ดีไม่จำเป็นต้องมีสไตล์ก็ได้
“มีการปรับแบบอยู่หลายครั้ง เพราะด้วยความคิดที่ต่างกัน แต่ก็ต้องทำความเข้าใจกันและคิดถึงผลลัพธ์ที่จะได้รับเป็นหลัก แต่สุดท้ายเมื่อสร้างบ้านเสร็จ ก็พอใจและดีใจกันทั้งคู่ เพราะบ้านหลังนี้เกิดจากการร่วมกันออกแบบของเราสองคน”
เรื่อง : คุณลมัด
ภาพ : สังวาล พระเทพ