“กล้วยไข่” พืชเศรษฐกิจที่สำคัญ

“กล้วยไข่” เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีตลาดส่งออกสำคัญคือ ญี่ปุ่น สิงค์โปร์ และฮ่องกง เนื่องจากเป็นพืชเขตร้อน จึงสามารถปลูกกล้วยไข่ได้ทุกพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะในจังหวัดกำแพงเพชร ถูกขนานนามว่าเป็นเมืองกล้วยไข่ เนื่องจากมีกล้วยไข่เป็นผลไม้ที่เป็นเอกลักษณ์ประจาจังหวัด และเป็นกล้วยไข่ที่อร่อยขึ้นชื่อที่สุดจนเป็นที่รู้จัก ด้วยผลผลิตมีเปลือกบางผิวตกกระ เนื้อแน่นเหนียว รสชาติหวาน ผลไม่เล็กไม่ใหญ่


ภัยธรรมชาติหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อการเพาะปลูกกล้วยไข่ของเกษตรกรก็คือ พายุฤดูร้อน ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อลำต้นและผลผลิตกล้วยไข่ ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของปัญหานี้ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ (ศนก.) นำองค์ความรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) เข้ามาแก้ปัญหาและตอบโจทย์ให้แก่พี่น้องเกษตรกร ประสบผลสำเร็จในการวิจัยพัฒนา กล้วยไข่กำแพงเพชรต้นเตี้ย ที่มีคุณสมบัติช่วยสู้พายุฤดูร้อน โดยพบว่าแปลงกล้วยไข่ระยะที่ยังไม่ตกเครืออายุต้น 6เดือน ที่ราดสารพาโคลบิวทราโซล สามารถต้านพายุฤดูร้อนได้ 100%

“…จากสถานการณ์ลมพายุฤดูร้อนบริเวณภาคกลางตอนบน เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2564 ได้ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อแปลงปลูกกล้วยไข่ของ นายช่วงชัย พุ่มใย เกษตรกรในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นแปลงทดลองราดสารควบคุมการเจริญเติบโตสำหรับผลิตกล้วยต้นเตี้ยเพื่อทดสอบการต้านลมพายุ ภายใต้โครงการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อเพิ่มผลผลิตและมูลค่าของผลผลิตกล้วยไข่เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจและรายได้ของเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตกล้วยไข่จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่ง วว. ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากสานักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)…” นายสายันต์ ตันพานิช รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ วว. กล่าว


คณะนักวิจัย วว. ได้สารวจความเสียหายที่เกิดขึ้นในแปลงทดลองที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติดังกล่าวพบว่า ต้นกล้วยไข่ที่ไม่ราดสารในระยะตกเครือเกิดการหักล้มเสียหายมากกว่า 95% ส่วนกล้วยไข่ต้นเตี้ยที่ราดสารพาโคลบิวทราโซลปริมาณ 5, 10 และ 15 กรัมต่อต้น สามารถต้านลมพายุและเกิดความเสียหายน้อยกว่า 40% โดยต้นกล้วยไข่ที่ราดสารลาต้นกล้วยไข่จะเอนแต่ไม่หัก สามารถยืนต้นเพื่อรอเวลาเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ โดยมีเพียงบางส่วน
นอกจากนี้ยังพบว่า ต้นกล้วยไข่ระยะที่ยังไม่ตกเครืออายุต้น 6 เดือนที่ราดสารพาโคลบิวทราโซล สามารถต้านพายุฤดูร้อนได้ 100% โดยต้นกล้วยไข่ที่ไม่ราดสารเสียหายมากกว่า 85%จากงานวิจัยนี้ส่งผลให้ นายช่วงชัย พุ่มใย เกษตรกรเจ้าของแปลงกล้วยไข่ เล็งเห็นประโยชน์จากการราดสารควบคุมเจริญเติบโตเพื่อผลิตกล้วยต้นเตี้ย จึงจะมีการขยายผลราดสารเพิ่มเติมให้แก่กล้วยไข่ทั้งหมดในแปลงวิจัยนี้ต่อไปดร.กุศล เอี่ยมทรัพย์ นักวิจัยอาวุโส ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ วว.กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะนักวิจัย วว. ได้แนะนำเทคนิคการฟื้นฟูต้นกล้วยไข่ที่ได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อนในแปลงวิจัย ดังนี้1.การปรับปรุงหน่อข้างให้สมบูรณ์แข็งแรง 2.ท าการตัดใบกล้วยออกหนึ่งในสามในช่วงฤดูฝนเพื่อลดการต้านลม 3.การราดสารซ้ำอีกครั้งในกล้วยอายุต้น 3 เดือนห่างจากครั้งแรกประมาณ 90 วัน หรือทดลองราดสารในต้นกล้วยไข่ที่มีอายุน้อยลง ทั้งนี้เพื่อจะผลิตกล้วยไข่ที่มีลักษณะต้นเตี้ยลงและแข็งแรงเพิ่มขึ้นร่วมกับการปรับปรุงระบบการให้ปุ๋ยมาใช้ในการปรับปรุงฟื้นฟูแปลงกล้วยไข่ที่โดนลมพายุ ซึ่งคาดว่าจะฟื้นฟูให้มีผลผลิตเหมือนเดิมในระยะเวลา 4-5 เดือนกล้วยไข่กำแพงเพชรต้นเตี้ย ที่มีคุณสมบัติช่วยสู้พายุฤดูร้อน เป็นผลการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมของ วว. ในการ เข้าไปช่วยแก้ปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ทั้งนี้หากมีการนำองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่พัฒนาโดย วว. เข้าไปใช้ในพื้นที่สวนอื่นๆต่อไป เชื่อมั่นว่าความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจะลดลง ผลผลิตจะเพิ่มขึ้น อันจะนำมาซึ่งความมั่นคงและยั่งยืนในการประกอบการเกษตรกรรมต่อไป