ในช่วงที่ฝนตกเกือบทุกวันและสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยให้ได้ออกเดินทางไปซื้อต้นไม้ที่ไหน ทำให้เราเริ่มมองเห็นความสวยงามของธรรมชาติใกล้ตัวที่อาจเคยละเลยไป ดอกไม้ข้างทางหลายชนิดเริ่มออกดอกบานสะพรั่งในช่วงนี้ ซึ่งหลายชนิดหากนำมาปลูกดีๆก็สามารถออกดอกสวยงามและมีความน่ารักเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ที่สำคัญดูแลง่ายมาก ผู้ปลูกแทบไม่ต้องทำอะไรเลยก็สามารถขยายพันธุ์และโตเองได้เรื่อยๆ จะมีต้นอะไรที่เราเก็บมาฝากนั้น ตามมาดูกันเลยครับ
สาบแร้งสาบกา
ชื่อวิทยาศาสตร์ Ageratum conyzoides (L.) L.
วงศ์ Compositae
ต้นไม้ล้มลุก มีอายุเพียงหนึ่งปี สามารถสูงได้ประมาณ 30-70 เซนติเมตร ชอบแสงแดดจัด เจริญเติบโตได้ในดินทุกชนิด พบขึ้นทั่วไปตามที่รกร้างว่างเปล่าหรือตามริมถนน ดอกเป็นช่อตามง่าม ดอกเป็นสีฟ้า สีม่วงน้ำเงิน หรือสีขาว ดอกคล้ายสาบเสือ แต่ดอกเล็กและกลีบสั้นกว่า ทุกส่วนของต้นมีกลิ่นฉุน ใบและบริเวณส่วนยอดของลำต้นเป็นสมุนไพร ใบแก้ไข้หวัด เจ็บคอ ปวดบวมตามข้อ ห้ามเลือด หรือต้มน้ำดื่มแก้ไข้มาลาเรีย รากตำคั้นน้ำดื่มแก้บิด ท้องเสีย หรือทาตามตัวเพื่อลดไข้
มะแหลบ
ชื่อวิทยาศาสตร์ Peucedanum dhana A. Ham.
วงศ์ Apiaceae
จัดเป็นต้นไม้ล้มลุกอายุหลายปี สูงได้ถึง 40-100 เซนติเมตร โตเร็ว ชื่นชอบดินทรายหรือดินทั่วไป ในธรรมชาติพบตามพื้นที่โล่ง ป่าผลัดใบที่ระดับความสูง 600 เมตรขึ้นไป พบบนดอยทางภาคเหนือ เมล็ดใช้เป็นเครื่องเทศแต่งกลิ่นอาหาร นิยมใส่ในลาบหรือน้ำพริกลาบของชาวเหนือ ในอินเดียกิน รากที่คล้ายหัวแครอท เป็นยาบำรุงและยาแก้ไข้
กระดุมหยก
ชื่อวิทยาศาสตร์ Centratherum punctatum Cass.
วงศ์ Compositae
ไม้ล้มลุก สูงได้ถึง 10–50 เซนติเมตร มีขนสั้นนุ่มตามลำต้นและใบ ใบสีเขียวอ่อนเป็นรูปไข่ ขอบใบเป็นรูปฟันปลา ช่อดอกแบบช่อกระจุกแน่นออกเดี่ยว ๆ ที่ปลายกิ่ง ดอกชั้นในสีเขียวมีแต้มสีม่วงแดง ดอกชั้นนอกยาวกว่าดอกชั้นใน ชอบน้ำปานกลาง และแสงแดดเต็มวัน ชอบขึ้นในบริเวณที่มีความชุ่มชื้นหรือพื้นที่ริมน้ำ น้ำมันที่สกัดจากใบเป็นยาปฏิชีวนะ
หญ้าเกล็ดปลา
ชื่อวิทยาศาสตร์ Phyla nodiflora (L.) Greene
วงศ์ Verbenaceae
ไม้ล้มลุกหลายปี เกาะเลื้อยปกคลุมดิน สูงได้ถึง 60 เซนติเมตรลำต้นเรียวยาว มีสิ่งปกคลุมสีม่วงประปรายติดที่กลางขน ดอกช่อรูปช่อเชิงลด ออกที่ซอกใบ ดอกมีใบประดับเป็นรูปหัวใจ กลีบดอกสีม่วงซีด ชมพูหรือขาว มีคอหลอดดอกสีเหลือง พูกาง 5 พู รูปทรงกระบอก เจริญเติบโตได้ดีในดินปนทราย ชอบอากาศชื้น ทนต่อแสงแดดจัดได้ดี มักพบขึ้นตามที่ลุ่ม ริมน้ำหรือพื้นที่ชุ่มชื้น ทั้งต้นเป็นสมุนไพรช่วยแก้ริดสีดวงทวาร
ฮ่อม
ชื่อวิทยาศาสตร์ Strobilanthes hamiltoniana (Roxb.) Nees
วงศ์ Acanthaceae
ไม้ล้มลุก สูงได้ถึง 1.5 เมตร ใบ เดี่ยว เรียงตรงข้ามกัน รูปหอก พบในป่าธรรมชาตินป่าธรรมชาติที่ชุ่มชื้นของภาคเหนือตอนบน มีถิ่นกำเนิดมาจากแถบเทือกเขาหิมาลัย ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ นิยมนำใบมาทำสีย้อมผ้า ให้สีน้ำเงินเข้มเกือบดำ กลีบดอกเชื่อมติดกันรูปทรงกระบอกยาว ออกในช่วงเดือน กรฎาคม-กุมภาพันธ์ ดอกมีความสวยงาม ปลูกเป็นไม้ประดับได้ดี ขยายพันธุ์จึงทำได้โดยการปักชำ
เสี้ยนฝรั่ง
ชื่อวิทยาศาสตร์ Cleome spinosa linn.
วงศ์ Capparaceae
ต้นไม้ล้มลุกที่นำมาขยายพันธุ์และปลูกเป็นต้นไม้ประดับจำนวนมาก สูงได้ถึง 1 เมตร ใบเป็นใบประกอบแบบนิ้วมือ มีใบย่อย 5 ใบ เป็นรูปใบหอกปลายแหลม จุดเด่นคือดอกที่มีหลายสีทั้ง สีขาว ชมพู และ สีม่วง ออกเป็นช่อที่ปลายยอด มีกลีบดอก 4 กลีบ รูปขอบขนานปลายแหลม โคนเรียว เหมือนปลูกรวมกันแล้วดูสะดุดตา
หงอนไก่ไทย
ชื่อวิทยาศาสตร์ Celosia argentea L.
วงศ์ Amarathaceae
ต้นไม้ล้มลุกอายุสั้น สูงได้ 60-150 เซนติเมตร รูปใบหอกแคบยาว ช่อดอกเป็นแท่งกลม ตั้งตรงขึ้น ยาว 5-15 เซนติเมตร ดอกย่อยอยู่ติดกับแกนช่อดอกหนาแน่น ส่วนปลายกลีบสีชมพูม่วงหรือม่วงแดง โตเร็ว ชอบแสงแดดตลอดวัน พบตามริมทาง ชายน้ำ ป่าโปร่ง ชายทะเล เป็นสมุนไพร ใบ ใช้ห้ามเลือด ทาแก้ผดผื่นคัน ดอกและเมล็ดใช้ห้ามเลือด รักษาอาการเลือดกำเดาออก รากแก้หืดและมีเสมหะ
บัวตอง
ชื่อวิทยาศาสตร์ Tithonia diverifolia (Hemsl.) A. Gray
วงศ์ Compositae
ต้นไม้ล้มลุก อายุหลายปี สูงได้ 1-5 เมตร ใบรูปรีถึงขอบขนานขนาดใหญ่ ออกดอกเป็นช่อเดี่ยวหรือเป็นกลุ่ม ขนาด 10-13 เซนติเมตร ดอกวงนอกสีเหลืองสด มี 10-13 กลีบ ดอกวงในสีเหลืองเข้มเป็นกระจุกกลม สามารถออกดอกได้ตลอดปี แต่ดกมากในฤดูหนาว โตเร็ว จัดเป็นวัชพืชบนที่สูง มีมากทางภาคเหนือ พบตามริมทางและไร่ร้างทั่วไป มีถิ่นกำเนิดในเม็กซิโกแล้วกระจายไปทั่วโลก ปลูกเป็นไม้ประดับได้ ชอบอากาศเย็น
ต้อยติ่ง
ชื่อวิทยาศาสตร์ Ruellia tuberose L.
วงศ์ Acanthaceae
ไม้ล้มลุก สูงประมาณ20–30เซนติเมตรใบเดี่ยวเรียงกันเป็นคู่ๆ ลักษณะมนรี ออกดอก เป็นช่อตามง่ามใบส่วนยอดของต้น ดอกสีม่วง ผล เป็นฝักยาว ผลแก่เมื่อได้รับความชื้นจะแตกออก และดีดเมล็ดออกมา พบได้ง่ายตามที่รกร้างว่างเปล่าชอบดินชื้นแฉะ สวยในฤดูฝน และฟุบในฤดูหนาว ทนร่มมาก แต่กลางแจ้งพบดอกมากกว่า ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด เหมาะสําหรับปลูกคลุมดินเป็นลานกว้าง หรือปลูกเป็นกลุ่มใต้ต้นไม้ใหญ่ ดอกสีม่วงอ่อนๆจะดูขับกับพื้นสีเขียวสะดุดตายิ่งขึ้น
ตีนตุ๊กแก
ชื่อวิทยาศาสตร์ Tridax procumbens L.
วงศ์ Compositae
ไม้ล้มลุก ทอดเลื้อยชูยอดเหนือดิน สูง ประมาณ30เซนติเมตร ทุกส่วนของต้นมีขนละเอียดสีขาวเกาะติดหนาแน่น ลําต้นกลมสีเขียวเหลือง เปราะหักง่าย ใบเดี่ยวรูปใบหอก ออกดอกเป็นช่อที่ ซอกใบ ก้านช่อดอกยาวมาก อาจยาวถึง20เซน- ติเมตร ดอกเพศเมียอยู่รอบนอกมีสีขาวแผ่เป็นกลีบ ส่วนในเป็นดอกสมบูรณ์เพศ ผลมีขนสีน้ําตาลปกคลุมเมล็ดรูปเข็มสีน้ําตาลดํามีปุยขน ขยายพันธุ์โดย ใช้เมล็ดและปักชํา ดอกมีขนาดเล็ก ให้ผิวสัมผัส ละเอียดมากเหมาะสําหรับปลูกเป็นลานหรือ บนเนินให้มีดอกเล็กๆกระจายเป็นผืน หรือปลูก แทรกไปกับไม้คลุมดินชนิดอื่นให้ขึ้นอย่างเป็ น ธรรมชาติในสไตล์สวนอิงลิชคอตเทจ
บุษบาริมทาง
ชื่อวิทยาศาสตร์ Asystasia gangetica (L.) T. Anderson
วงศ์ Acanthaceae
ไม้คลุมดินหรือไม้พุ่มรอเลื้อยขนาดเล็ก สูง 1–1.50เมตร ใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม รูปไข่ถึงรูป หัวใจ ผิวใบด้านบนสีเขียวสดถึงเขียวเข้มเป็นมันผิวใบด้านล่างมีขนสั้นนุ่ม ดอกมีสีขาว สีครีม และ สีม่วงอ่อน ออกเป็นช่อแบบช่อกระจะที่ปลายกิ่ง เจริญเติบโตเร็ว สามารถปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างได้ ดอกสวยออกตลอดปีในที่ความชื้นสูง แสงแดด เต็มวัน–ร่มรําไร เหมาะสําหรับปลูกปกคลุมสิ่งที่ไม่น่ามองในสวน หรือปลูกเป็นกลุ่มเพิ่มสีสันในสวน สไตล์หวานๆ
หญ้าละออง
ชื่อวิทยาศาสตร์ Vernonia cinerea (L.) Less
วงศ์ Compositae
วัชพืชล้มลุก ลําต้นตั้งตรงแตกแขนงน้อย สูงประมาณ20–70เซนติเมตร ใบเดี่ยวออกจาก ลําต้นแบบสลับรูปรีหรือรูปไข่ ใบที่เกิดใกล้ปลายยอดจะเรียวยาว ส่วนใบที่โคนต้นจะมีรูปร่างป้อม ดอก ออกเป็นช่อชนิดเฮดที่ปลายยอด แต่ละช่อดอก มีดอกย่อยประมาณ20ดอก รูปร่างเรียวแหลม ลักษณะเป็นหลอดสีม่วงอมแดงอ่อนๆ ปลายกลีบ ดอกแยกเป็น5กลีบ เมื่อดอกบานเต็มที่จะเปลี่ยน เป็นสีขาว ออกดอกตลอดปี มีเมล็ดจํานวนมาก ขนาดเล็กและมีขนยาวสีขาว ช่วยในการแพร่กระจายพันธุ์ หาง่าย พบขึ้นทั่วไปในไร่ในสวน สนามหญ้า และพื้นที่ทั่วทุกภาคของประเทศ ประโยชน์เป็นสมุนไพร เหมาะสําหรับปลูกให้ขึ้น แทรกกับแปลงดอกไม้อย่างเป็นธรรมชาติ หรือปลูก ตามซอกหินให้ขึ้นเป็นกระจุก