ต่อสายไฟ แบบอ่อนและแข็ง ด้วยเทคนิคพับ-พัน - ช่างประจำบ้าน โดย บ้านและสวน

ต่อสายไฟสายอ่อนกับสายแข็ง ด้วยเทคนิคการพับและพัน

การ ต่อสายไฟ ต่างประเภทกันมักจะหลุดง่าย คราวนี้เรามีวิธีการต่อสายไฟชนิดอ่อนและชนิดแข็งให้ใช้ได้นานมาฝากกัน

การ ต่อสายไฟ สองประเภทเข้าด้วยกันมักเกิดปัญหาหลุดง่าย และอาจเกิดอันตราย เรามีเคล็ดไม่ลับการต่อสายไฟชนิดสายอ่อน (สายฝอย) เข้ากับสายแข็ง แบบดึงไม่หลุดง่าย สามารถใช้งานได้นานและปลอดภัย 2 วิธีมาฝากกัน โดยสำหรับการ ต่อสายไฟ ให้ยาวตรงต่อเนื่องไป และการต่อให้สายไฟให้กลับมาทบกัน ซึ่งมีขั้นตอนคล้ายกัน มาดูทั้ง 2 วิธีกันเลย

ต่อสายไฟ วิธีที่ 1

ต่อสายไฟ

1. ใช้คัทเตอร์หรือคีมปอกสายไฟ ปอกฉนวนที่หุ้มสายแข็งออกประมาณ 5 เซนติเมตร และปอกฉนวนที่หุ้มสายอ่อนให้ยาวกว่าสายแข็งเล็กน้อย (ยาวประมาณ 7-8 เซนติเมตร) แล้วนำสายอ่อนมาพาดกับสายแข็ง โดยให้ชิดกับฉนวนให้มากที่สุด

2. จากนั้นพันสายอ่อนให้เป็นเกลียวรอบสายแข็ง ด้วยการพับสายทองแดงลงมาแล้วพันย้อนกลับขึ้นไป โดยให้สายทองแดงชิดมาทางด้านขวา

3. แล้วพันสายทองแดงวนรอบๆสายแข็งแบบแนบชิดติดกันอย่างต่อเนื่องจนสุดสาย จากนั้นใช้คีมจับพับสายแข็งส่วนปลายเข้ามาด้านใน แล้วบีบให้แน่น เราก็จะได้สายไฟที่ต่อเสร็จแล้ว อย่างแน่นหนาและไม่หลุดง่าย

ต่อสายไฟ วิธีที่ 2

ต่อสายไฟ

1. ใช้คัทเตอร์หรือคีมปอกสายไฟ ปอกฉนวนที่หุ้มสายแข็งออกประมาณ 4 เซนติเมตร และปอกฉนวนที่หุ้มสายอ่อนให้ยาวประมาณ 6 เซนติเมตร จากนั้นใช้มือบิดหรือหมุนสายอ่อนให้เป็นเกลียว

2. แล้วนำไปพาดกับสายแข็ง โดยให้อยู่กึ่งกลางของสาย จากนั้นพันสายอ่อนให้เป็นเกลียวรอบสายแข็ง ด้วยการพับสายทองแดงลงมาแล้วพันย้อนกลับขึ้นไป โดยให้ชิดมาทางด้านซ้าย แล้วพันวนไปรอบๆสายแข็งแบบแนบชิดติดกันอย่างต่อเนื่องจนสุดสายทองแดง

ต่อสายไฟ

3. ใช้มือหรือคีมพับครึ่งสายแข็งส่วนปลายเข้ามาด้านใน แล้วบีบให้แน่น จากนั้นออกแรงดึงสายไฟทั้งสองข้างแบบสุดกำลัง เราก็จะได้สายไฟที่ต่อเสร็จแล้ว อย่างแน่นหนาและไม่หลุดง่ายเช่นกัน

TIPS : เมื่อต่อสายไฟเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต้องหุ้มจุดต่อสายด้วยฉนวนเพื่อป้องกันไฟรั่ว ไฟดูด หรือไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งการหุ้มฉนวนที่นิยมคือ การหุ้มด้วยเทปพันสายไฟหรือท่อหดหุ้มสายไฟ โดยหาซื้อได้ตามร้านจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไป


  • เรื่อง : พจน์ ผลิตภัณฑ์
  • ภาพ : สุพัตรา ภู่ซ้อน

3 วิธีพื้นฐานการพันเทปพันสายไฟ

เทคนิคการต่อปลั๊กไฟตัวผู้ แบบดึงไม่หลุด

ติดตามบ้านและสวน www.facebook.com/baanlaesuanmag