สวนชนบทสไตล์ฝรั่งเศสในไทย ที่ใครเห็นก็ต่างตกหลุมรัก - บ้านและสวน

สวนชนบทสไตล์ฝรั่งเศสในไทย ที่ใครเห็นก็ต่างตกหลุมรัก

นอกจากทะเล ภูเขา น้ำตก เราเชื่อว่าคุณผู้อ่านต้องมีพื้นที่ที่ไหนสักแห่งที่ไม่ว่าจะกลับไปอีกครั้งก็ยังหลงรักและไม่เคยรู้สึกเบื่อเลยเช่นเดียวกันกับเจ้าของบ้านหลังนี้

สวนแห่งนี้ คุณศักดิ์-ศักดิ์ เรืองพร้อม ผู้ออกแบบและจัดสวนขออาสาพาทีมงาน “บ้านและสวน” เดินชมบรรยากาศภายในสวนชนบทสไตล์ฝรั่งเศสพร้อมอธิบายถึงที่มาที่ไปของการจัดวางผังของสวนอย่างไรให้ลงตัวและตอบโจทย์เจ้าของบ้านให้มากที่สุด “หากลองสังเกตให้ดี ๆ ที่ที่เรากำลังยืนอยู่มีลักษณะเป็นเนินเขาคล้ายลักษณะของภูมิประเทศทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นที่ตั้งของเขตเมืองโปรวองซ์ ความลาดชัดของพื้นที่ หากเป็นไปตามธรรมชาติระหว่างสองข้างทางเต็มไปด้วยสวนและทุ่งดอกไม้หลากสีสีนคงสวยงามตามจินตนาการ แต่ในการใช้งานจริงเกรงว่าความชันอาจทำให้ใช้งานไม่สะดวก ผมจึงทำการถ่ายระดับทำสเตปขั้นบันไดแทน”

ออกแบบ-จัดสวน : บริษัท สวนลีลา จำกัด โดยคุณศักดิ์ – คุณลีลาวดี เรืองพร้อม โทรศัพท์ 08-7051-8000

หยอดโทนสีชมพูอย่างพู่จอมพลตัดกับไม้ดอกสีม่วงอมฟ้า เช่น พยับหมอก ฟ้าประดิษฐ์ ต้องติ่งฝรั่งเมื่ออยู่บนลานกรวดสีเอิร์ธโทนจำขับสีสันของดอกไม้ให้ดูเด่นชัดมากขึ้นกว่าเดิม
สนามหญ้าที่กว้างและทอดยาวพอจะทำให้การวิ่งและเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระเสรีที่สุดปลายทางปลูกกระบกต้นใหญ่เป็นจุดรับสายตาได้เป็นอย่างดี โดยมีสนมังกรที่อยู่ข้างๆ ใช้ลักษณะเด่นและฟอร์มของต้นไม้ที่แตกต่างกันแต่จัดวางรวมกันได้อย่างลงตัวและน่าสนใจ
เพิ่มกลิ่นอายความเป็นสวนสไตล์ยุโรปด้วยอ่างน้ำล้นที่มีรูปปั้นหญิงสาวยืนอยู่ตรงการพร้อมกับมีสายน้ำที่ไหลออกมาจากภาชนะให้เห็นการเคลื่อนไหวและเสียงน้ำเบาๆ ในสวน และเป็นจุดรับสายตาเมื่อมองลงมาจากมุมต้อนรับหรือในโรงเรือนหลังเล็ก

“จุดเริ่มของสวนอยู่ใกล้กับที่จอดรถซึ่งอยู่ระดับเดียวกับตัวบ้าน จากจุดนี้สามารถมองเห็นภาพมุมกว้างของสวนที่อยู่ด้านล่างได้ทั้งหมด ต้อนรับด้วยลานคอบเบิลสโตน (Cobble Stone) ที่มีพุดกังหันสูงราว 3 เมตร เป็นพระเอกของมุมนี้ ขยับเข้าไปอีกนิดมีมุมชิงช้าที่ซ่อนตัวอยู่หลังแนวรั้วชาฮกเกี้ยนผมตั้งใจให้เป็นจุดเซอร์ไพรส์เล็กๆให้เจ้าของบ้านได้เปลี่ยนบรรยากาศการนั่งชมสวน ดูหมอกตอนเช้ารับลมหนาวพร้อมไกวชิงช้าเพลินๆ ค่อยๆ ซึมซับบรรยากาศและรู้สึกผ่อนคลายไปทีละนิดแบบไม่รู้ตัว พอลุกจากมุมนี้ก็ลงไปสู่สนามหญ้าที่อยู่ด้านล่าง โดยมีรูปปั้นสิงโตทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์แทนซุ้มประตูคอยต้อนรับอยู่

“แล้วจึงพบกับโซนที่สองซึ่งเป็นความตั้งใจของเจ้าของบ้านที่อยากให้มุมนี้เป็นพื้นที่ส่วนกลางของครอบครัวในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ขณะเดียวกันสังเกตว่าต้นไม้ส่วนใหญ่ถูกจัดวางไว้ตามแนวรอบรั้วทั้งหมดให้ความรู้สึกที่ดูกว้าง โปร่ง โล่ง สบายตา เห็นแล้วก็อยากจะลงไปวิ่งเล่นเหมือนตอนเด็ก ๆ อีกครั้ง (คุณศักดิ์กล่าวด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม) แต่ก็ยังโปรยที่นั่งกระจายตัวอยู่ตามมุมต่าง ๆ เผื่อไว้ทั้งใช้งานได้และเป็นส่วนตกแต่งสวนอีกด้วย ยกตัวอย่างกระบะปลูกต้นแจงที่ผมตั้งใจออกแบบให้เป็นที่นั่งไปด้วยในตัว เมื่อมองสนามหญ้าที่ดูทอดยาวออกไปจนสุดทางของระยะสายตาก็จะเห็นกระบกต้นใหญ่เป็นฉากหลังให้กับสวนขนาบคู่อยู่กับแนวของสนมังกรที่สูงราว 4-5 เมตร กลมกลืนไปกับทิวเขาจางๆเมื่อประกอบกับรูปแบบของตัวอาคารแล้วผมว่าได้บรรยากาศเหมือนอยู่ในโปรวองซ์ไม่มีผิด” เมื่อนึกภาพตามอย่างที่คุณศักดิ์บอกไว้ ผมเองก็เห็นด้วยทุกประการ ความสวยงามของสวนและวิวธรรมชาติที่อยู่รอบ ๆ ทำให้ผมเคลิ้มตามคำบอกเล่าของผู้ออกแบบอย่างไม่รู้ตัว ขณะเดียวกันเราเหลือบไปเห็นแปลงปลูกดอกกุหลาบตลอดแนวระเบียงของบ้านและโรงเรือนหลังเล็กที่อยู่หลังบ้านจึงเอ่ยถามถึงที่มา “แปลงกุหลาบที่เห็นเป็นหนึ่งในความต้องการของเจ้าของบ้านฝ่ายหญิงซึ่งข้อดีของการทำกระบะหรือยกแปลงปลูกแบบนี้จะช่วยแก้ปัญหาดินท่วมขังแฉะจากการรดน้ำโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน กุหลาบชอบดินร่วนหรือดินร่วนปนทรายที่มีความโปร่งระบายน้ำได้ดีจึงทำให้มีดอกตลอดทั้งปีและต้องอยู่ในตำแหน่งที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมง

เลือกใช้โทนสีเขียวไล่เฉดสีแตกต่างกันอย่างสนเกรวิลเลียชนิดเลื้อย ใบสีเงินเมื่อโดนแสงตกกระทบทำหน้าที่เป็นฉากหลังให้กับม้านั่งเหล็กสไตล์ยุโรปตัวนี้เป็นอย่างมาก ตัดตรงกลางระหว่างสีเขียวของสนามหญ้า รั้วต้นไทรเกาหลี และพุ่มของชุมแสงได้อย่างลงตัว
แจง ไม้โตช้ามีความสูงของต้นประมาณ 5-10 เมตร ออกดอกช่วงเดือนธันวาคมถึงมีนาคม เป็นไม้ประธานที่ให้ร่มเงากับมุมนี้ ด้านล่างจึงทำเป็นกระบะล้อมสูง 45 เซนติเมตร ใช้เป็นที่นั่งเล่นหลบร่มใต้ต้นไม้หรือนอนเอนได้อย่างสบาย
เพื่อให้พื้นที่เกิดพื้นที่ใช้สอยมาขึ้น แต่ยังคงความสวยงามและรูปแบบของสวนคุณศักดิ์ใช้วิธีจัดกลุ่มพรรณไม้แบบขนาดและรูปแบบของฟอร์มเอาไว้ตามขอบรั้วของสวนได้อย่างน่าสนใจ มีทั้งการปูแผ่นหินธรรมชาติแทรกตัวอยู่บนผืนหญ้าโดยมีไม้พุ่มแทรกผสมอยู่รอบ ๆ และเพื่อไม่ให้มุมนี้ดูจม จึงเพิ่มไม้ระดับบนอย่างชุมแสงถึง 3 ต้น และใส่ที่นั่งไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่

“ส่วนโรงเรือนหลังเล็กเดิมเจ้าของบ้านตั้งใจให้เป็นมุมปลูกและดูแลกล้วยไม้แต่หลังจากที่สร้างเสร็จแล้วกลายเป็นตำแหน่งที่เหมาะกับการนั่งเล่นส่วนตัวเพราะเงียบสงบจึงกลายเป็นเรือนจิบชายามบ่ายแทน จากมุมนี้กำลังจะเปลี่ยนถ่ายไปยังโซนหลังบ้านซึ่งทางเดินเป็นลานกรวดที่ลัดเลาะไปตลอดแนวสาเหตุที่โรยกรวดเพื่อแก้ปัญหาในช่วงหน้าฝนที่น้ำหลากทำให้น้ำระบายและซึมลงดินได้เร็วมขึ้น ลดการดูแลเพราะหากเป็นสนามหญ้าที่ต้องเจอกับน้ำท่วมขังก็จะส่งผลให้หญ้าอาจตายเป็นหย่อมหรือทั้งผืนได้ในที่สุด การโรยกรวดเป็นผืนใหญ่ก็ยังสามารถใช้เทคนิคการจัดสวนที่ปลูกต้นไม้เป็นหย่อมหรือแทรกขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจเลียนแบบพุ่มไม้ที่ขึ้นเองตามธรรมชาติก็ช่วยสร้างเรื่องราวและบรรยากาศของสวนได้เป็นอย่างดี ยิ่งถ้าจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่มีสีสันหรือรูปปั้นและของแต่งสวนต่างๆ ก็จะช่วยให้ของที่จัดวางดูโดดเด่นมากกว่าเดิม อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาให้กับบริเวณที่แสงแดดไม่เพียงพอและทำให้สวนของเราดูเรียบร้อยและการเก็บกวาดใบไม้ก็เป็นเรื่องง่าย

“สุดท้ายสวนแห่งนี้จึงไม่ได้เพียงแค่สวยในตัวมันเองแต่บรรยากาศและธรรมชาติที่อยู่โดยรอบต่างส่งเสริมมุมมองซึ่งกันและกันกลับยิ่งทำให้ทุกอย่างสวยงามมากขึ้น การที่เจ้าของได้กลับมาสัมผัสกับลมหนาว สายหมอกที่มาพร้อมกับแสงแดดอ่อนๆในตอนเช้า ภาพทิวเขาและต้นไม้ที่โอบล้อมตลอดมุมมอง 360 องศา ไม่ว่าใครที่เคยได้มาเยี่ยมชมที่นี่ หากมีโอกาสได้มาอีกครั้งไม่ว่าเจ้าของบ้านหรือแม้แต่ตัวผมเองก็ยังหลงรักและชื่นชอบที่นี่ทุกครั้งที่กลับมาเสมอ” เป็นคำอธิบายปิดท้ายของคุณศักดิ์ที่เราสัมผัสและรับรู้ได้ถึงความละเมียดละไมของการจัดสวนอย่างลึกซึ้งและสวยงามอย่างที่ตาเห็น

รูปแบบของชิงช้าที่แตกต่างกันไป ซึ่งคุณศักดิ์ชอบใช้วัสดุที่มีกลิ่นอายของความเก่าหรือย้อนยุค เช่น ร่องรอยของไม้เนื้อแข็งที่ดูหนาพอทนต่อแดดและฝนผสมกับโซ่เหล็กตันและโครงเสาเหล็กที่ผสมกับไม้ หรืองานหล่อเสาคอนกรีตที่ตกแต่งด้วยปูนขาวฉาบพื้นผิวแบบไม่เรียบเสมอกัน หรือการผสมสีของวัสดุโดยใช้เสาไม้ทำสีขาวขัดเสี้ยนส่วนคานด้านบนใช้ไม้โทนสีเข้มตัดกันอย่างชัดเจน เพิ่มรายละเอียดด้วยการหุ้มโคนเสาด้วยอิฐมอญอีกชั้นนอกจากจะช่วยเสริมความแข็งแรงแล้วยังทำให้ได้ชิงช้าแบบใหม่จากการเลือกใช้วัสดุหลากหลายที่จับมารวมตัวกันได้อย่างลงตัว
ทางเดินจุดเชื่อมต่อระหว่างบ้านกับโรงเรือนใช้แผ่นหินธรรมชาติเพื่อให้ชื่อมโยงกับวัสดุที่ใช้ก่อแนวขอบกระบะแปลงปลูกของกุหลาบและลานหินที่อยู่ตรงสนามหญ้า อีกทั้งพื้นผิวที่หยาบยังช่วยลดการลื่นในขณะเดินได้เป็นอย่างดี
หินทีละก้อนมาต่อเป็นจิ๊กซอว์เพื่อให้ได้ผลงานแต่ละชิ้นคือความใส่ใจของคุณศักดิ์ที่อยากได้ภาพของสวนที่แตกต่างออกไปจากเดิม นอกจากเลือกวัสดุจากธรรมชาติแล้วยังต้องเลือกโทนสีที่เข้ากับอาคาร ข้อดีของการเลือกใช้หินในการทำลานหรือบันไดในสวนคือสามารถรับน้ำหนักการกดทับได้มาก แต่การนำมาใช้งานต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสม อาจไม่เหมาะกับทางเดินที่มีเด็กหรือผู้สูงอายุที่ต้องใช้งานตลอดเวลา เพราะอาจเกิดการสะดุดหกล้มเนื่องจากพื้นผิวที่ไม่สม่ำเสมอกัน ในส่วนของงานก่อผนังหรือขอบกันแนวดินยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้างและยังทำให้ภาพรวมของสวนดูเป็นส่วนเดียวกันอย่างลงตัว
มักปรับเปลี่ยนไปตามฟังก์ชั่นขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งาน ตั้งแต่ช่องเปิดทั้งสี่ด้านสามารถทำได้ทั้งแบบปิดแต่เปิดช่องแสง หรือเปิดโล่งเพื่อให้อากาศถ่ายเท หากเป็นในลักษณะของเรือนเพาะชำต้นไม้จำเป็นต้องเปิดช่องแสงจากด้านบนหรือใช้วัสดุพรางแสงตามความต้องการของพืชชนิดนั้น หรือหากใช้สำหรับเป็นมุมพักผ่อนหรือรับแขกอาจดูทิศทางการตั้งที่เหมาะสมอย่างเช่น พอมีลมพัดผ่านบ้าง ไม่ทึบหรือร้อนอบอ้าวจนเกินไป

เรื่อง : อิสรา

ภาพ : อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม

บ้านและสวน ฉบับที่ 540 (สิงหาคม 2564)

อ่านเพิ่มเติม และ สั่งซื้อได้ที่นี่