Planet Planter จักรวาลของคนรักต้นไม้ คาเฟ่แห่งใหม่ย่านตลิ่งชัน
ร้านกาแฟของคนรักต้นไม้ หรือร้านต้นไม้ของคนที่หลงใหลในกาแฟ เราก็นิยามไม่ถูกเหมือนกัน แต่ที่นี่คือ Planet Planter ร้านกาแฟแห่งใหม่ในย่านตลิ่งชัน – พุทธมณฑลสาย 2 ที่บอกเลยว่าทั้งคนรักต้นไม้และคอกาแฟต้องห้ามพลาด เพราะไม่เพียงที่นี่จะมีกาแฟรสชาติดีพร้อมขนมอร่อยๆ เสิร์ฟอยู่ตลอดแล้ว ยังมีต้นไม้น้อยใหญ่พร้อม Accessories ในดีไซน์เฉพาะของทางร้านวางจำหน่ายอีกด้วย รวมทั้งสายกิจกรรมก็รอเวิร์คช็อปต้นไม้จากทางร้านได้เลย และที่สำคัญ แสงสวยสุดๆ เพราะทางร้านออกแบบโดยเน้นให้พื้นที่ภายในได้รับแสงธรรมชาติ ผสานกันกับการเลือกใช้วัสดุภายในร้านที่ลงตัวอย่างไม้แท้และไม้สังเคราะห์จนแทบแยกไม่ออก ซึ่งในวันนี้เราก็ได้มีโอกาสมาพูดคุยถึงที่มาที่ไปและแรงบันดาลใจด้านการตกแต่งดีไซน์ กับหนึ่งในเจ้าของร้านแห่งนี้ คุณ ต้น คณิน สิทธิประสงค์
จุดเริ่มต้นของ Planet Planter จนมาถึงร้านแห่งนี้
คุณต้นเล่าถึงที่ไปที่มาของร้านแห่งนี้ไว้ว่า “ย้อนไปประมาณ 5 ปีที่แล้ว เราเริ่มจากการไปออกร้านที่บ้านและสวนแฟร์ เริ่มจากการขายต้นไม้และของตกแต่งสวน หลังจากนั้นเราก็เริ่มไปออกร้านตามสถานที่ต่างๆ มากขึ้น เรามีหลายๆ ผลิตภัณฑ์ที่ตอนนั้นนำมาขาย ปรับไปปรับมาจนตอนนี้ของที่เรานำมาขายมาจากที่สิ่งเราดีไซน์เอง หรือเลือกให้เข้ากับสไตล์ของร้าน เพราะว่าเราเป็นกราฟฟิคดีไซเนอร์ ก็ชอบมองอะไรที่คุมธีมไปในทางเดียวกัน พอถึงจุดนึง ด้วยว่าเรามีที่ดินอยู่แล้ว ก็เลยมารวมเป็นโปรเจกต์ร้านแห่งนี้
ร้านนี้ก็เป็นทั้งบ้านด้วย ร้านกาแฟด้วย และแน่นอนก็เป็นร้าน Planet Planter ที่ขายต้นไม้ และอุปกรณ์แต่งสวน ด้วยความที่เป็นร้านที่เริ่มโดยเราเองกับ บอย (ณัฐพล โง้วสุวรรณ) รูปแบบของร้านก็จะเป็นในแบบของเราสองคนเอง 100%
ถ้าถามว่าได้แรงบันดาลใจมาจากไหน ก็คือเราเริ่มจากร้านในงานแฟร์ แล้วก็มีโอกาสได้เดินทางไปต่างประเทศ เราก็ได้ไปเห็นว่าที่ญี่ปุ่นก็มีร้านที่เป็นรูปแบบนี้ คือ กาแฟ-แต่งสวน-ต้นไม้ เราก็คิดว่าองค์ประกอบนี้น่าจะเป็นเรื่องที่ลงตัว พอโอกาสเหมาะก็เริ่มทำ ซึ่งพอมีความเป็นร้านกาแฟเข้ามา มันก็ทำให้ ลูกค้าใช้เวลาอยู่ในร้านได้มากขึ้น มีกิจกรรมได้มากขึ้น อาจจะเป็นเวิร์คช็อปเกี่ยวกับต้นไม้ หรือ อาจจะเปิดให้คนที่ชอบต้นไม้แบบเดียวกัน สนใจอะไรคล้ายๆ กันได้มาใช้เวลาพูดคุยกันที่ร้านได้”
ร้านขายของต้นไม้ที่ตั้งใจขายดีไซน์
คุณต้นเล่าว่า “เราชอบเดินจตุจักรนะ พอทำร้านของตัวเองก็อยากใส่สไตล์ของเราลงไปด้วย ซึ่งก็จะเป็น Earth Tone มีความเป็น ไม้จริง สีเทาปูน และ โลหะอย่างสังกะสี ซึ่งสไตล์เหล่านี้ก็ถ่ายทอดออกมาเป็นร้าน Planet Planter ที่ไปในทางเดียวกัน ภาพตั้งแต่เดินเข้าร้านมาก็จะเป็นภาพเดียวกัน คือเหมือนเรา”
ไม้ – ความอบอุ่นที่ไปด้วยกันกับต้นไม้
ร้านนี้จะเน้นวัสดุที่ดูเป็นธรรมชาติอย่างปูน หรือโลหะ และที่สำคัญคือไม้ เพราะความรู้สึกของไม้ที่มีความวอร์ม และอบอุ่น แต่จะชอบไม้ที่เปิดผิวให้เป็นธรรมชาติ ทั้งเฟอร์นิเจอร์ วงกบ กรอบบาน ตู้ ชั้นวางต่างๆ ก็จะเลือกเป็นไม้ ในส่วนที่ลูกค้าจะสามารถสัมผัสได้เราก็จะเลือกเป็นไม้จริงทั้งหมด
ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่มีแค่ไม้จริงอย่างเดียว แต่ร้านยังเลือกใช้ไม้สังเคราะห์ผสานเข้าไปด้วยในบางจุดที่ต้องการคุณสมบัติเฉพาะ เช่นในส่วนที่อยู่เหนือเคาน์เตอร์บาร์ ซึ่งเดิมเป็น Skylight ก็จะมีความร้อนจากแสงแดดค่อนข้างมาก เพราะทางคุณต้นอยากให้ลูกค้าเข้าดึงธรรมชาติให้มากที่สุด และเพราะว่าร้านมีขายต้นไม้ด้วย การได้รับแสงธรรมชาติจึงเป็นกฎการออกแบบหลักๆ ของทาง Planet Planter โดยจะเห็นได้ว่ามี Skylight อยู่แทบทุกจุดของร้านเลย ซึ่งก็ดีต่อทั้งต้นไม้ และถ่ายรูปสวยด้วย แต่ผลที่ตามมาก็คือความร้อนจากแสงแดด
คุณต้นเล่าเพิ่มอีกว่า “พอเจอปัญหานี้ ตอนแรกเราตัดสินใจว่าจะเลือกปิด Skylight ไปเลย แต่ถ้าปิดไปมันคงทึบน่าดู หรือจะเลือกเป็นผ้าใบ มันก็ไม่ได้ธีมร้าน สุดท้ายก็มาสรุปที่เลือกใช้ไม้สังเคราะห์ระแนงฝ้า รุ่น G7625 จาก Tree Concept สี Teak เพราะเค้าสามารถช่วยกรองแสงแดดที่สาดลงมาตรงพื้นที่ Bar ได้อย่างดี และเพราะพื้นที่ส่วนนี้มีการใช้งานที่ค่อนข้างเยอะเมื่อเป็นร้านกาแฟ คือเราต้องยืนทำกาแฟอยู่ตลอด และมีลูกค้ามายืนรอรับกาแฟเช่นกัน การจัดการให้พื้นที่มีร่มเงาที่สบายขึ้นจึงสำคัญ อีกทั้งเมื่อเป็นร้านกาแฟ การเลือกใช้ ไม้สังเคราะห์ระแนงฝ้า ทำให้สามารถ Maintenance จัดการกับงานระบบต่างๆ ได้ง่ายขึ้น เช่น ติดตั้งก็ง่าย เบา และไม่ต้องมาจัดการกันปลวกทีหลังเหมือนไม้จริง และยังช่วยซ่อนระบบไฟได้เนียน ช่างที่มาทำให้ก็เนี๊ยบจบงานได้ดั่งใจ เพราะทุกนาทีของความเป็นร้านกาแฟก็มีเรื่องต้นทุนกำไรอยู่ตลอด ถ้าจะต้องหยุดส่วน Bar ไปก็เหมือนต้องปิดร้าน การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดูแลรักษาได้ง่ายจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นอกจากจะใช้งานได้ดีแล้ว เวลาบอกว่าส่วนนี้เป็นไม้สังเคราะห์ก็มักจะแปลกใจเพราะเลือกสีมาได้เข้ากันกับวงกบและชั้นวางแทบจะไม่แตกต่างกันเลย”
เมื่อพูดถึงไม้สังเคราะห์แล้วอีกส่วนหนึ่งที่คุณต้นเลือกใช้คือในส่วนของพื้นที่ภายนอก ทั้งระแนงฝ้าส่วนซักล้างที่อยู่ภายนอกก็ใช้ในการกรองแสงแดดเช่นเดียวกัน และส่วนผนังกั้นโซนซักล้าง รวมทั้งม้านั่งที่หน้าร้าน นอกจากความทนทานของไม้สังเคราะห์ที่ทนต่อสภาวะอากาศทั้งแดด และฝนแล้ว ไม้สังเคราะห์จาก Tree Concept ยังวางใจได้ว่าจะไม่กรอบแตก หรือ ลอกล่อนอีกด้วยเรียกว่าใช้ไปได้ยาวๆ เพิ่มความสบายใจให้กับเจ้าของร้านที่สามารถเอาเวลาไปใส่ใจส่วนอื่นของร้านได้เพิ่มขึ้น
คุณต้นเพิ่มเติมมาอีกด้วยว่า “อีกอย่างที่เลือก Tree Concept ก็เพราะว่าตัวไม้สังเคราะห์ของเค้ามีความใกล้เคียงไม้จริงเป็นอย่างมาก ทั้งสีสันและพื้นผิวของวัสดุที่มีเนื้อสีตลอดจนเกรนไม้ลงลึกถึงเนื้อวัสดุเลย พอทำเสร็จออกมาจึงลงตัวไปกับ Concept ของร้านได้เป็นอย่างดี ซึ่งต่อไปก็อาจจะทำระแนงฝ้าแบบนี้เพิ่มที่ชั้นบน”
และนี่ก็คืออีกหนึ่งร้านไม้ธรรมชาติของคนรักธรรมชาติที่ชื่อ Planet Planter กับบรรยากาศอบอุ่นในแบบ Earth Tone ที่เติมเต็มด้วยแสงธรรมชาติและพื้นผิวของวัสดุไม้ ถ้าใครอยากลองแวะไปนั่งอาจจะต้องรอซักนิดเพราะช่วยนี้เขาปิดปรับปรุงเล็กน้อยและจะพร้อมเปิดให้ทุกท่านได้ไปเยี่ยมเยือน Planet Planter ได้ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน
สนใจไม้สังเคราะห์สอบถามที่ Polymer Master Co.,Ltd Tree Concept
โทร : 02 956 1048-9
website : www.treeconcept.com
Email : [email protected]
Inbox : m.me/polymermaster
Line@ : lin.ee/iCMyhuX (@treeconcept)
Instagram : @treeconcept_th
ขอขอบคุณร้าน Planet Planter
facebook.com/planetplanter
โทร 094 323 5454
ภาพ อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม
เรื่อง Wuthikorn Sut