How to ไล่สัตว์ไม่พึงประสงค์ ไม่ให้มากวนตัว กวนใจ และกวนบ้าน - บ้านและสวน

จัดการปัญหาสารพัดสัตว์ไม่พึงประสงค์ในบ้าน

ปัญหาสารพัดสัตว์กวนใจ ทั้งที่เลี้ยงไว้ในบ้านอย่าหมาแมว และสัตว์ไม่ได้รับเชิญอย่างงู หนู จิ้งจก ฯลฯ ล้วนสร้างความปวดหัวชวนให้หัวเสียไปจนถึงขวัญผวา

ไล่สัตว์ไม่พึงประสงค์ สามารถทำได้ เราได้หยิบยกเอาคำแนะนำอ่านสนุกจากในคอลัมน์ฮิตของนิตยสารบ้านและสวนอย่าง “รู้เหนือรู้ใต้” ที่มีสโลแกนว่า “อยากรู้แต่ไม่รู้จะค้นที่ไหน อยากถามแต่ไม่รู้จะถามใคร สงสัยแต่เกรงใจ อย่าลืมว่าคุณมีเพื่อนชื่อ ‘บ้านและสวน’ เราคงไม่รู้ไปทุกเรื่อง แต่ที่แน่ๆคือเราชอบหาคำตอบ ถึงไม่มีคำถามเราก็จะบอก” เอาล่ะ…ไปอ่านวิธีจัดการปัญหากันเลยเถอะ
หนอนปลอก

1.”หนอนปลอก” ดัชนีวัดความสกปรกภายในบ้าน

เจอแมลงประหลาดอยู่ที่พื้นและกำแพงบ้าน เหมือนหนอนที่มีกระดองเป็นของตัวเอง
ด้านนอกเป็นสีเทาๆ น้ำตาลๆ
รูปทรงหมือนใบไม้อ้วนๆ ข้างในเป็นหนอนยืดๆ หดๆ เข้าออกจากปลอกได้
มีขนาดตั้งแต่ 2-3 มิลลิเมตรไปจนถึงประมาณ
1 เซนติเมตร มันคือตัวอะไรเนี่ย

ไปสืบค้นมาจึงรู้ว่าเป็น “หนอนปลอก” ชนิดหนึ่ง เมื่อโตเต็มที่จะกลายเป็นผีเสื้อกลางคืน ซึ่งไม่ได้สร้างอันตรายอะไรกับเรา เพียงหยิบไปทิ้งหรือกวาดออกไปก็พอแล้ว (ไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลงให้เกิดสารตกค้างในบ้าน) แต่ถ้าอยากกำจัดหนอนเหล่านี้ที่ต้นตอ ก็ต้องหมั่นหันมาทำความสะอาดบ้านกันอย่างสม่ำเสมอ เพราะอาหารโปรดของหนอนเหล่านี้คือฝุ่นทั้งหลายในบ้านนั่นเอง ถ้ามีหนอนเหล่านี้มากๆก็แสดงว่าบ้านเรามีฝุ่นมาก เป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ของเจ้าน้องหนอน แต่ถ้ามีน้อยแสดงว่าฝุ่นขาดแคลน ดังนั้นถ้าเริ่มเห็นเจ้าตัวเหล่านี้หนาตาขึ้นก็แสดงให้เห็นว่าถึงเวลาต้องเก็บกวาดบ้านกันแล้วล่ะ


แมงมุม

2. วิธีกำจัดแมงมุม

ที่บ้านมีใยแมงมุมและหยากไย่เต็มไปหมด จิ้งจกก็มีเยอะนะ
แต่ทำไมมันไม่กินแมงมุม เห็นยังอยู่สบายกันเหมือนเดิม

แมงมุม (มี 8 ขา ถ้ามี 6 ขา จึงจะเรียกว่าแมลง) ไม่กลัวจิ้งจกเท่าไร เพราะมันเกาะอยู่บนใยของมันซึ่งจิ้งจกเข้ามากินไม่ได้ ถ้าเป็นตุ๊กแกอาจพอไหว แต่ผมเกลียดแมงมุมน้อยกว่าตุ๊กแกเยอะ… มันยังไม่ใช่คำตอบครับ

แมงมุมคล้ายจิ้งจกตรงที่มันจับกินแมลงเล็กๆเป็นอาหาร ถ้าไม่มีแมลงในบ้านมันก็บ่มีอาหารกิน แล้วก็จะย้ายไปที่อื่น วิธีป้องกันคือต้องรักษาความสะอาดในบ้าน อย่าให้รกมากนัก เก็บอาหารให้มิดชิด เพราะอาหารคนก็เป็นแหล่งอาหารของแมลงเล็กๆ แมลงเล็กๆก็เป็นอาหารของแมงมุม… โอเค?

แมงมุมแอบเข้ามาในบ้านตามซอกประตูหน้าต่าง เพราะฉะนั้นก็ออกไปซื้อที่กันฝุ่นกันแมลงสำหรับติดรอบประตูหน้าต่างเดี๋ยวนี้เลยครับ รักษาความสะอาดบริเวณนอกชาน โรงรถ โดยเฉพาะบริเวณหน้าประตูเข้าบ้านให้ดีๆ แมงมุมชอบแอบซ่อนตามมุมที่รกๆ และคอยย่องเข้าบ้านตามเรา ระวัง!

นอกจากรักษาความสะอาด ปัดกวาด ดูดฝุ่นเป็นประจำแล้ว การเปลี่ยนหลอดไฟเฉพาะจุดก็ช่วยได้นะ อย่างไฟที่นอกชานหน้าบ้าน แทนที่จะใช้หลอดไฟนีออนที่มีแสงสีฟ้าๆ ซึ่งเป็นที่นิยมชมแสงของหมู่แมลง ก็เปลี่ยนมาใช้ไฟสีเหลืองๆ เช่น หลอดไฟโซเดียม (หลอดแบบเดียวกับที่ใช้กับเสาไฟส่องถนน) ซึ่งไม่ยั่วแมลงให้บินมาใกล้ๆ

ผมลองหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตว่ามีสมุนไพรอะไรที่ไล่แมงมุมได้บ้าง พบว่าคนอเมริกันหลายคนเชื่อว่าผลของต้น Osage Orange (Maclura pomifera) มีกลิ่นที่แมงมุมวิ่งหนี แต่รัฐบาลเคยออกมาประกาศว่าไม่มีคำรับรองทางวิทยาศาสตร์ ห้ามโฆษณา ส่วนสมุนไพรไทยๆผมหาไม่เจอเลย ผู้ใดรู้เห็นโปรดแจ้งมาทีนะครับ


3. Save โซฟาจากน้องแมว

เพิ่งซื้อโซฟาใหม่เข้าบ้าน กลัวแมวจะขึ้นมานอนจนขนติดไปทั้งตัว
หรือข่วนจนขาด มีเคล็ดลับดีๆไหมเอ่ย

เห็นใจนะเนี่ย โซฟาตัวใหม่จะให้หาอะไรมาคลุมก็เสียสวยหมด มีวิธีที่ฟังดูใจร้ายแต่มีคนบอกว่าได้ผลในระยะยาว นั่นคือการลงโทษด้วยการตีทุกครั้งที่มันขึ้นไปนอนในที่ที่มันไม่ควรนอน หรือข่วนในที่ที่มันไม่ควรทำ แต่ต้องทำเป็นประจำจนมันเข็ดหลาบนะ แต่จริงๆก็อย่าใช้วิธีนี้เลยนะครับ 

ส่วนอีกวิธีที่เป็นแบบที่ศิวิไลซ์หน่อย ใช้ได้กับสุนัขแต่อาจไม่ได้ผลกับแมวทุกตัว คือทำเบาะที่นอนให้มันใหม่ ทำปลอกเป็นผ้าลายเดียวหรือลายที่เข้ากันได้กับโซฟา เอาให้สวยเลย วางไว้มุมหนึ่งของโซฟา ยกให้เขาไปเลย ทุกครั้งที่เขากระโดดขึ้นมาก็จับไปวางตรงนั้น ถ้าออกมานอกเขตก็ทำโทษ เวลามีแขกไปใครมาก็ค่อยยกที่นอนนั้นออก ได้ผลอย่างไรก็มาบอกกันนะครับ


ไล่หนู

4. ไล่หนู…แบบไม่ต้องเห็นภาพสยอง

ซื้อไม้ไล่หนูมาใช้ในครัวไทยหลังบ้าน เห็นแล้วหมดอารมณ์ทำอาหาร
แถมหนูหายไปแป๊บเดียวก็กลับมาใหม่
เปลี่ยนมาใช้กาวดักหนู
แต่ทนเห็นภาพสยองไม่ได้ มีวิธีไหนอีก ช่วยบอกที

พี่ในฝ่ายศิลปกรรมท่านหนึ่งแนะนำให้ใช้ “เหล้าสะระแหน่” ซึ่งเป็นยาไทยแผนโบราณที่ใช้รับประทานแก้อาการปวดท้อง จุกเสียด มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ กลิ่นฉุน ว่ากันว่าพวกหนูๆไม่ชอบ ได้กลิ่นแล้วหันหัวหนี จุ่มสำลีในยาจนชุ่มแล้วใส่ขวดเล็กๆ วางไว้ตามมุมห้อง ผมว่ามันดูดีกว่าไม้ท่อนนะ พอกลิ่นจางก็เติมยาใหม่ ขวดละไม่กี่สิบบาท หาซื้อง่าย และไม่เป็นพิษต่อเด็กเล็กๆด้วย


5. ขนลุก แมลงมีปีกสีดำในห้องน้ำ

ช่วงนี้มีแมลงปีกสีดำๆ ขนาด 3 มิลลิเมตร เกาะอยู่บนฝาผนังห้องน้ำ
ไม่ค่อยบินไปไหน (ตบง่าย) ไม่รู้มาจากไหน
มันคือแมลงอะไรกันนะ

ห้องน้ำที่บ้านผมก็มีเจ้าแมลงตัวจิ๋วนี้ครับ เยอะเลย มันคือ “แมลงหวี่ขน” ชอบอยู่ในบริเวณที่อับชื้น เช่น ท่อระบายน้ำในห้องน้ำและนอกบ้าน อ่างล้างจาน ฯลฯ ด้วยเหตุนี้ฝรั่งเขาจะเรียกมันว่า “Drain Flies” หรือแมลงวันท่อน้ำครับ อาหารที่มันกินก็คือเศษอินทรียวัตถุต่างๆในท่อน้ำนี่แหละ บางทีก็เรียกว่า “Moth Flies” เพราะมันมีขนคล้ายผีเสื้อกลางคืน แหล่งข้อมูลของกระทรวงสาธารณะสุขเขียนว่า ไม่มีรายงานว่าแมลงหวี่ขนเป็นพาหะนำโรค ซึ่งก็ทำให้อุ่นใจอยู่บ้าง

ส่วนใหญ่มันจะเกาะอยู่เฉยๆ คุณจึงสามารถลอบสังหารได้ง่ายดาย ไม่ต้องถึงกับตบแค่บี้เบาๆก็เสร็จแล้ว ถ้าไม่อยากฆ่าสัตว์ก็ใช้วิธีธรรมชาติ เช่น หาจิ้งจกหนุ่มๆสักตัวมาไว้ในห้องน้ำ ผมลองแล้วคืนเดียวหายหมด คนที่บ้านมองว่าจิ้งจกอวบๆน่าดูกว่าแมลงปีกดำตัวน้อยๆ

สำหรับวิธีป้องกันที่ดีก็คือใช้ตะแกรงท่อน้ำชนิดดักกลิ่่น กันแมลง ป้องกันไม่ให้มันไต่ขึ้นมาจากท่อได้ และตรวจสอบว่ามุ้งลวดที่หน้าต่างห้องน้ำมีช่องให้แมลงลอดเข้ามาได้หรือไม่


หมาจอมขุด

6. ทำอย่างไรกับสุนัขจอมขุด

เมื่อสวนสวยของคุณถูกสุนัขสุดที่รักทำลายเสียเละเทะด้วยการขุด
ขุดอยู่นั่นแหละ ไม่ยอมหยุด ไม่รู้ว่าขุดหาอะไร
และคุณจะหยุดพฤติกรรมนี้ได้อย่างไร

ลองขังตัวเองไว้หลังบ้านคนเดียวทั้งวัน (มีอาหารเย็นๆในจาน) สักสองสามวันสิครับ หลายคนอาจเริ่มขุดดินเหมือนกัน ก็เพราะมันเบื่อนะสิครับ

เราเองยังชอบออกไปเที่ยวนอกบ้าน ชอบหาอะไรทำ สุนัขก็ชอบ… มากกว่าเราเสียด้วยซ้ำ สุนัขที่เบื่อกับการถูกกักบริเวณมักจะหาอะไรทำ เช่น กัด แทะ และขุด แต่ก็มีเหตุผลอีกมากมายที่สุนัขขุดดิน เช่น ต้องการทำที่นอนเย็นๆ ได้กลิ่นหรือได้ยินเสียงสัตว์ใต้ดิน อยากออกไปหาแฟนข้างนอก ต้องการเรียกร้องความสนใจ หรือไม่ก็หาที่ซ่อนอาหารและเศษกระดูกไว้ใช้วันหลัง นอกจากนี้สุนัขบางพันธ์ เช่น “เทอร์เรีย” และ “ดัชชุน” ก็มีสัญชาตญาณของการขุดอยู่ในตัว มันห้ามใจได้ยากครับ

วิธีแก้ก็คือ หาของเล่นให้มัน หาแฟนให้ (หรือไม่ก็ทำหมันเสียเลย) จัดบริเวณในที่ร่มพื้นเย็นๆให้มันนอน หรือทำบ่อเล่นทรายเล็กๆให้มันก็ได้ (คนละบ่อกับที่ลูกคุณเล่นนะครับ) มีคนเคยบอกว่าให้ใส่เศษมูลของเจ้าตัวลงไปในหลุมแล้วกลบ ถ้าสุนัขกลับมาขุดที่เดิมอีก นั่นก็จะเป็นการขุดครั้งสุดท้าย ไม่รู้ว่าเท็จจริงแค่ไหน คุณผู้อ่านลองทำดูแล้วมาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ

คางคก

7. ป้องกันคางคกมาวางไข่ในบ่อน้ำ

การกำจัดผู้สืบสกุลของพวกมันคงเป็นเรื่องไม่ยาก แต่บาปไม่น่าทำ
ลองมาหาทางป้องกันจะดีกว่าไหมครับ

ตามธรรมชาติคางคกชอบวางไข่ในน้ำนิ่ง ถ้าในบ่อมีน้ำตก น้ำพุ ระบบน้ำล้น หรือมีการถ่ายเทน้ำอยู่เป็นประจำ คางคกก็จะไม่มาวางไข่ครับ การเลี้ยงปลากินเนื้อ เช่น ปลาหมอก็พอช่วยได้บ้าง เคยได้ยินว่าไข่คางคกเป็นพิษต่อปลา เมื่อไปถามผู้รู้ก็ได้ความว่าไม่เป็นความจริง แต่ที่แน่ๆนอกจากไข่คางคกและลูกอ๊อดแล้ว ปลาพวกนี้ยังกินปลาตัวเล็กๆด้วยครับ แถมให้อีกเรื่องที่เป็นปัญหาของหลายคนก็คือ เจ้าคางคกลงไปเจอคู่รัก…แล้วขึ้นจากบ่อไม่ได้ เพราะขอบบ่อลึก ลื่น หรือชันเกินกว่าที่จะปีนขึ้นมาได้ จนต้องตายคาบ่อในที่สุด คุณอาจทำทางให้มันขึ้นมาจากบ่อได้ง่ายๆ เช่น วางก้อนหินให้มันปีนขึ้นไว้ใกล้ๆขอบบ่อด้วยก็จะดี พวกมันจะได้ออกมาช่วยกินแมลงในบ้านของคุณครับ


จิ้งจก

8. ไล่จิ้งจกออกจากบ้าน

สำหรับคนที่เกลียดและกลัวจิ้งจกมาก พอมีข้อแนะนำอะไรบ้างไหม

จิ้งจกเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตในวัยเด็กของผมเลยละครับ ผมชอบนอนดูสัตว์เลื้อยคลานชนิดนี้ เหมือนกับมีสวนสัตว์ในบ้าน แต่ผมลองนึกภาพคุณวิ่งไล่จับสัตว์เลื้อยคลานเหมือนในรายการสารคดี (Crocodile Hunter) แล้วก็สงสาร (ปนขำ) ผมเองยังไม่เคยเห็นว่ามีเครื่องไล่จิ้งจกขายที่ไหน จึงบอกได้เพียงว่า ถ้ากันไม่ให้มันเข้าบ้านได้แต่แรกก็คงไม่ต้องคอยไล่มันออกไป

การที่จิ้งจกต้องหาที่หลบซ่อน ก็เพราะมันอาจตกเป็นอาหารของนกและสัตว์อื่นในตอนกลาง มันจึงชอบแอบซ่อนตามขอบประตูหน้าต่างมืดๆ พอเราเปิดประตูปุ๊บ มันจะวิ่งสวนเข้ามาในบ้าน ซึ่งมืดกว่านอกบ้าน พอเราเห็นก็ตกใจกรี๊ดกันลั่นบ้าน ทำให้พาลเกลียดมันมากขึ้น เพราะฉะนั้นต้องระวังช่วงเปิดประตูหน้าต่างให้ดี ปัจจุบันประตูหน้าต่างไวนิลและอะลูมินัมรุ่นใหม่ๆจะมีการติดขอบยางโดยรอบเพื่อเก็บเสียงและความเย็น จึงไม่มีช่องให้มันลอดเข้ามา ถ้าทำได้ให้เลือกประตูหน้าต่างแบบนี้ แต่ถ้าบ้านคุณไม่มีให้หาซื้อแผ่นยางมาติดที่ประตู เพื่อปิดช่องว่างต่างๆ
สำหรับวิธีไล่จิ้งจก ให้คุณลองตบประตูหรือมุ้งลวดดังๆสักสองสามทีก่อนจะเปิดปิด น่าจะช่วยไล่จิ้งจกที่แอบอยู่ตามซอกประตูได้ แต่ถ้ามันเข้ามาในบ้านแล้วการไล่จะยากขึ้น ให้ลองเอาน้ำใส่ขวดสเปรย์ แล้วพ่นใส่มัน จะทำให้มันเคลื่อนที่ได้ช้าลง ไม่ปรู๊ดปร๊าด แล้วค่อยๆเอาไม้กวาดเขี่ยมันออกไปจากบ้านครับ

9. หาอะไรมาให้สุนัขแทะแทนขาตู้ไม้ดี

สุนัขที่บ้านชอบกัดแทะขาตู้ไม้ที่บ้าน เจ้าของเลยคิดจะหากระดูกมาให้แทะแทน
แต่ก็เป็นห่วงสุขภาพของสุนัข 
เพราะได้ยินมาว่า
กระดูกเทียมที่ทำจากหนังสัตว์ไม่ดี ใช้กระดูกวัวจริงๆก็ไม่ได้

ผมขอให้ผู้รู้มาตอบคำถามนี้แทนแล้วกันครับ สัตวแพทย์แนะนำว่า จริงๆแล้วทั้งกระดูกจริงและกระดูกเทียมก็ใช้ได้ทั้งนั้น แต่มีข้อควรระวังอย่างเช่น ถ้าเป็นกระดูกจริงควรเลือกท่อนที่มีรอยตัดเรียบ ไม่มีขุยเสี้ยนหรือรอยแตก เพราะอาจตำคอสุนัขได้ ไม่ควรให้กระดูกดิบๆ และห้ามให้กระดูกสัตว์ปีกทั้งหลาย เพราะเมื่อสุนัขกัดแล้วกระดูกจะแตกเป็นชิ้นแหลมๆ ส่วนกระดูกเทียมที่ทำจากหนังสัตว์แห้ง ผมเองก็เคยอ่านเจอว่าเป็นหนังที่ผ่านกระบวกการฟอกสีด้วยสารเคมี ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้ คุณหมอยังแนะนำเพิ่มเติมว่า ควรเลือกกระดูกที่มีขนาดไม่ใหญ่เกินไป เพราะถ้าใหญ่ไปสุนัขจะใช้เวลาแทะนาน นานจนขึ้นรา นานจนเน่าเหม็น อีกประการคือหนังสัตว์ย่อยยากมากๆ ต้องคอยสังเกตว่าสุนัขถ่ายออกมาเป็นเลือด หรือมีการอาเจียนด้วยหรือเปล่า ถ้ามีรีบพาไปพบสัตวแพทย์ เพราะอาจมีอาการอาหารเป็นพิษได้ ขณะที่กระดูกเปียกๆเละๆที่สุนัขแทะมานานอาจมีแบคทีเรีย ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อสุนัขได้ ดังนั้นการจะให้กระดูกจริงหรือกระดูกเทียม…หรือขาตู้ก็แล้วแต่คุณ แต่ควรให้สุนัขแทะเป็นที่เป็นทางและให้ถูกสุขลักษณะเป็นใช้ได้ครับ


ไล่งู

10. ขอตัวช่วยที่ไล่งูออกจากบ้า

ที่บ้านมีสระและอ่างบัว แล้วก็มีคางคกมาอาศัยในสวนค่อนข้างมาก
ปัญหาคือตอนนี้คนในบ้านเจองูบ่อยมาก
คิดว่าคงเข้ามากินคางคก มีอะไรไล่งูพวกนี้ออกไปจากบ้านฉันได้ไหม

เลี้ยงพังพอน… พูดเล่นครับ ได้ยินมาว่าให้ปลูกต้น “เสลดพังพอน” ซึ่งเป็นไม้พุ่มที่มีรูปร่างหน้าตาพอจะจัดเป็นไม้ประดับสวนได้ครับ เล่ากันว่าพืชชนิดนี้มีกลิ่นที่งูไม่ชอบ เจ้าของสวนหลายคนใช้วิธีนี้แล้วยืนยันว่าได้ผล บางคนก็ให้ปลูกมะนาว หรือโรยเปลือกไข่ห่าน จะลองทำดูก็ได้นะครับ (ถ้าหาห่านได้)

สำหรับคนที่ต้องการอะไรที่ฟังดูแรงและน่าจะได้ผลกว่านี้ก็ลองใช้ กำมะถันใส่ถุงวางไว้ริมรั้วรอบบ้าน เหตุผลเดียวกันคือกลิ่นฉุน นอกจากนั้นยังมียาไล่งูนำเข้าจากต่างประเทศชื่อ “Bonide Snake Repellent” ฟังดูไฮโซและน่าเชื่อถือดี แต่ถ้าอ่านส่วนประกอบข้างขวดก็จะรู้ว่ามันมีกำมะถันอยู่ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์นั่นแหละ

  • เรื่อง : จ.เขียน, กรวรรณ
  • ภาพประกอบ : มาโนช กิตติชีวัน