สวนธรรมชาติ ในบรรยากาศบ้านชนบท
สวนธรรมชาติ ที่ปรับปรุงจากสวนเก่าที่เคยรกและแน่นด้วยต้นไม้แบบที่ไม่ได้จัดแต่ง จนได้นักจัดสวนมาช่วยจัดวางพื้นที่ใหม่ทั้งหมด ทำให้พื้นที่สวนดูโปร่งตา และสามารถเดินเข้าไปใช้งานได้สะดวกขึ้น อีกทั้งยังทำทางเดินใหม่ เติมบ่อน้ำรูปทรงธรรมชาติ และนำดินที่ขุดมาถมเป็นเนินดินและทางน้ำไหลลงสระกับบ่อพักซึ่งกระจายอยู่ทั่วสวน เพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังตามสนามหญ้า
เจ้าของ : คุณอัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ
จัดสวน : คุณมณฑล จิโรภาส
เราออกเดินทางตั้งแต่ท้องฟ้ายังไม่ทันสว่างดีเพื่อไปเก็บภาพ สวนธรรมชาติ ที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ให้ทันในช่วงเช้า เพราะช่างภาพกระซิบ บอกมาว่าเป็นเวลาที่ถ่ายภาพออกมาได้สวยที่สุด โชคดีที่สำนักงานของเรา อยู่แถบชานเมืองด้านตะวันตก จึงใช้เวลาเดินทางไม่นานนัก ภาพสองข้างทางที่ค่อยๆ เปลี่ยนจากหมูบ้านจัดสรรกลายเป็นชุมชน ตลาด บ้านเรือน เริ่มทิ้งระยะห่างกันมากขึ้นทุกที ในที่สุดก็กลายเป็นทุ่งนาสลับกับสวนดอกรัก เป็นอันบ่งบอกว่าใกล้ถึงที่หมายแล้ว
เจ้าของบ้านหลังนี้คือนักแสดงมากฝีมือ พ่วงด้วยตำแหนง่ ครูสอนโยคะ ใช่แล้วค่ะ เรากำลังพูดถึง ป้าจิ๊ – คุณอัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ ถ้าใคร ยังจำกันได้ บ้านหลังนี้เคยลงในนิตยสารบ้านและสวน มาแล้ว นอกจากบ้านที่น่าอยู่แล้ว รอบบ้านยัง รายล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติโดยรอบทั้งทุ่งนาและ ท้องร่องสวนเก่า
ป้าซื้อที่ดินที่นี่เพราะเจ้าของเป็นรุ่นพี่ที่เรียนจุฬาฯด้วยกัน ตอนแรก ซื้อแปลงเดียวตรงที่ปลูกบ้านนี่ละ ส่วนแปลงข้างๆ เป็นของเพื่อน ป้าเห็นว่า เพื่อนไม่ได้ทำอะไรก็ขอซื้อต่อมาอีกที เลยได้โอกาสขยายสวนออกไป เพราะ ฉะนั้นสวนก็จะมีสองส่วน คือ สวนเก่าและสวนใหม่มีแม่บ้านช่วยดูแลสองคน คนหนึ่งอายุเยอะแล้วก็จะดูแลฝั่งสวนเก่าซึ่งมีเนื้อที่น้อยกว่า ส่วนฝั่งสวนใหม่ก็ให้คนที่สาวกว่าดูแล เวลาป้ามาพักก็ได้แม่บ้านทั้งสองคนคอยหิ้วอาหารมาส่ง ไม่รู้ว่าใครเลี้ยงใครกันแน่ (หัวเราะ)
ตอนแรกเลยสวนไม่ใช่แบบนี้นะ มีต้นไม้เยอะกว่านี้หลายเท่า เป็น สวนป่าเบญจพรรณ มีต้นสัก เต็ง รัง แต่พอมีต้นไม้แน่นๆ เลยทำให้ ใช้งานค่อนข้างยาก จึงติดต่อ คุณมณฑล จิโรภาส ให้เข้ามาปรับปรุงสวน ตอนนั้นต้องเอาต้นไม้ออกเกือบหมด ทำใจยากมาก วันที่ตัดต้นไม้ป้าไม่มา ดูเลย ยังบอกคุณมณฑลว่าเอาต้นไม้ออกไปเยอะ อย่ามาคิดเงินค่าทำสวน ฉันแพงนะ (หัวเราะ) แต่พอเสร็จเรียบร้อยแล้วถูกใจมาก จากที่ไม่กล้าเดิน เข้าไปในสวนเพราะกลัวงู เดี๋ยวนี้ก็ได้เข้าไปเดินเล่นในสวนบ่อยขึ้น คุณมณฑล จิโรภาส นักจัดสวนที่ป้าจิ๊กล่าวถึงเป็นผู้ออกแบบปรับปรุงสวนตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนในที่ดินแปลงแรก กระทั่งครั้งล่าสุดหลังจากซื้อ ที่ดินแปลงที่สอง ป้าจิ๊จึงไวว้ างใจให้มาจัดสวนอีกครั้ง
คุณมณฑลเล่าถึงขั้นตอนการทำงานว่า ตอนเข้ามาปรับปรุงสวนครั้งแรกต้องตัดต้นไม้ออก จาก 60 ต้นเหลือ ประมาณ 20 ต้น เรียกว่าต้องตัดใจเลยเพราะขุดล้อมไมไม่ได้จริงๆ จากนั้นปรับ ทางเดินใหม่ ทำสระน้ำและสนามหญ้าให้ดูโปร่งตาน่าเข้าไปใช้งาน สำหรับ ที่ดินใหม่นั้นเดิมเป็นหญ้ารก มีเพียงบอ่น้ำสี่เหลี่ยมเล็กๆ กลางที่ ผมจึงขุดบ่อใหมเ่ป็นรูปทรงอิสระให้รับกับบ่อของบ้านเดิมและนำดินมาถมที่ จากนั้นก็ปรับเนินดินและทางน้ำให้ไหลลงสระและบ่อพักซึ่งกระจายอยู่ทั่วสวน เพื่อให้น้ำ ไม่ขังตามสนามหญ้า ทำให้ทั้งสวนเก่าและสวนใหม่ดูเป็นพื้นที่ต่อเนื่องกัน
ระหว่างที่นั่งคุยกันอยู่ในบ้านนั้นเราได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้โชย มาตลอดเวลา เช่นกันกับทุกมุมในสวน เมื่อลองสังเกตดีๆ จึงเห็นว่ามีไม้ดอกหอมหลายต้น ทั้งจันทน์กะพ้อ ลำดวน สายหยุด รสสุคนธ์ เขี้ยวกระแต หอมหมื่นลี้ หอมเจ็ดชั้น จำปี และจำปา นอกจากนี้ยังมีไม้ไทยอีกหลายต้นซึ่งหาดูได้ไม่ง่ายนัก
“บางต้นก็มีเพื่อนให้มา เช่น หนำเลี้ยบ ตอนนี้กำลังออกลูกสีดำๆ เห็นไหม นั่นไงล่ะมะขวิด แล้วก็ทองหลาง สะเดา กันเกรา ชมพู่น้ำดอกไม้ หางนกยูงฝรั่ง ถ้ามาช่วงต้นปีจะเห็นดอกแคแสดสีสวยมาก ต้นนี้ก็ต้องมีในสวนนะ จามจุรี เพราะเราเรียนจบจากจุฬาฯ และก็ต้องมีชงโค เพราะเราเรียนจบจากคณะอักษรศาสตร์ ส่วนต้นนี้เคยเห็นไหม ชื่อว่าใคร่หอม ลองดมดูสิ กลิ่นจะคล้ายๆ ยาหอม” ป้าจิ๊พาเราเดินชมสวนพร้อมอธิบายไม้ต้นนั้นต้นนี้ ทั้งยังชี้ชวนให้ลองเข้าไปดูใกล้ๆ อย่างไม่รู้เบื่อ
เสียงลั่นชัตเตอร์ครั้งสุดท้ายจบลงพร้อมๆ กับแสงอาทิตย์ยามเย็นค่อยๆ เลือนหายไป เรากล่าวลาป้าจิ๊ซึ่งอดทนรออยู่เป็นเพื่อนและเหนื่อยต้อนรับพวกเราตลอดทั้งวัน หนึ่งวันเต็มๆ ที่มาที่นี่รู้สึกเหมือนได้มาพักผ่อนมากกว่ามาทำงาน ไม่มีเสียงรถยนต์วิ่งไปมา ไม่มีเสียงก่อสร้างดังอึกทึก อากาศเย็นสบายจากลมพัดตามธรรมชาติแตกต่างจากความเย็นของเครื่องปรับอากาศ หากลองนั่งเงียบๆ จะได้ยินเสียงนกร้อง เสียงใบไม้ล้อไปกับลมราวเสียงดนตรี
เรื่อง : .วรัปศร
ภาพ : ปิยะวุฒิ ศรFสกุล/ผู้ช่วยช่างภาพ : บุญญพงศ์, หัสธสิน