บ้านหนองฮ่อ ดีไซน์สงบนิ่งที่เผยความงามธรรมชาติ
จะดีแค่ไหนถ้าได้นั่งเงียบๆ ปล่อยใจสงบ เพื่อเปิดรับเสียงอันแผ่วเบา และสัมผัสธรรมชาติที่แปรเปลี่ยนไปทุกวินาที วิวดอยสุเทพอยู่สุดปลายสายตากำลังกลืนแสงสุดท้ายของวัน เมื่อมองจากบ้านพักตากอากาศที่สถาปนิกออกแบบให้เป็น “สถาปัตยกรรมไร้เสียง” ที่จะไม่ตะโกนความเป็นตัวเองให้ดังเกินตัว จนกลบเสียงสรรพสิ่งแวดล้อมให้ดับไป แต่ถ่อมตัว แช่มช้า แจ่มใส มีเสน่ห์อย่างบุคลิกคนท้องถิ่นเจ้า
DESIGNER DIRECTORY
ออกแบบ: Skarn Chaiyawat
บ้านที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติ
บ้านหลังนี้ตั้งอยู่แถวถนนหนองฮ่อ จังหวัดเชียงใหม่ ลักษณะพื้นที่บริเวณนั้นเป็น “ตีนดอย” อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก แต่ยังแวดล้อมด้วยธรรมชาติที่สงบสวยงาม จึงเหมาะสำหรับการพักผ่อนอยู่อาศัย คุณโป้ง – สการ จัยวัฒน์ สถาปนิกและผู้ก่อตั้งบริษัท สถาปนิก สการ จัยวัฒน์ จำกัด เล่าถึงจุดเริ่มต้นออกแบบบ้านว่า “เป็นบ้านตากอากาศสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิก 3 คน พ่อแม่ลูก ซึ่งปกติอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมที่กรุงเทพฯ จึงอยากมีบ้านสำหรับมาพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศโดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว ลักษณะที่ดินเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกว่า 300 ตารางวา และมีความพิเศษคือ เมื่อมองทะลุผืนป่าด้านหลังที่ดินจะเห็นพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่ดอยสุเทพสวยมาก” ด้วยศักยภาพของพื้นที่ที่น่าประทับใจ การออกแบบบ้านจึงไม่ได้คิดอยู่แค่ตัวบ้านเท่านั้น แต่ออกแบบบ้านเพื่อให้วิวธรรมชาติเป็นหัวใจหลัก “เมื่อวิเคราะห์พื้นที่แล้ว จึงออกแบบบ้านเป็นรูปทรงตัวไอตรงๆ หันด้านยาวเปิดรับวิวภูเขาได้ทุกห้อง เพื่อให้ทัศนียภาพนี้ซึมซับอยู่ในทุกการใช้ชีวิตของเจ้าของบ้าน” บ้านไม้พื้นถิ่นโมเดิร์น
สุนทรียภาพที่ก่อเกิดจากโครงสร้าง
ความงามที่ลงตัวไม่ใช่การตกแต่งภายหลัง แต่คือการคิดจากจุดเริ่มต้นตั้งแต่ระบบโครงสร้างให้ถ่ายทอดความงามสัมพันธ์กับสถาปัตยกรรม สถาปนิกออกแบบด้วยวิธีคิดระบบตาราง (Grid) และโมดูลาร์ (Modular) แบบง่ายๆ ที่ใช้กันทั่วไปแต่ทำให้ผลลัพธ์ปรากฏชัดขึ้น “หนึ่งในโจทย์จากเจ้าของบ้านคือให้พื้นที่ใช้สอยภายในของบ้านประมาณ 200 ตารางเมตร เนื่องจากมีขนาดใกล้เคียงกับพื้นที่คอนโดที่อาศัยอยู่ เบื้องต้นจึงแบ่งพื้นที่หลักของบ้านเป็นชั้นละ 100 ตารางเมตร ด้วยระยะช่วงเสา 5 x4 เมตร ซึ่งเป็นขนาดที่พอดีสำหรับการอยู่อาศัย จำนวน 5 ช่วงเสา จึงเป็นบ้านขนาด 5×20 เมตร แล้วจึงแบ่งพื้นที่ภายในให้เป็นสัดส่วนแบบโมดูลาร์ให้ลงตัวกับโครงสร้าง และสัมพันธ์กับการคิดโครงสร้างหลังคา คือ ทำจันทันห่างทุกระยะ 1 เมตร ก็จะลงตัวกับเสาและผนัง รวมถึงราวกันตก เส้นแบ่งแนวที่พื้น และขนาดของมู่ลี่ไม้ไผ่ที่สั่งทำยาว 2 เมตร เมื่อมองรวมกันก็จะเห็นเส้นที่ต่อเนื่องสัมพันธ์กันอย่างเป็นระบบ ทำให้ดูไม่ขัดตา อาจจะไม่มีใครมาคอยดูว่าแต่ละเส้นจะเชื่อมต่อกันไหม แต่เมื่อทุกอย่างลงตัว เป็นระเบียบสัมพันธ์กัน มีความสมดุล สิ่งที่ได้คือความนิ่ง สัมผัสได้จากห้องนั่งเล่นชั้นบนที่มองออกไปเห็นวิว เมื่อทุกอย่างนิ่งและสงบ ภาพวิวที่มองเห็นก็เผยความงามให้ปรากฏชัดกว่าปกติ”
วัสดุพื้นถิ่นสะท้อนบริบท
สถาปนิกและเจ้าของบ้านเห็นพ้องกันว่าควรเป็นบ้านที่เปิดให้สัมผัสบรรยากาศและบริบทรอบตัว “เนื่องจากเป็นบ้านตากอากาศจึงไม่อยากให้บ้านมีความแข็งกระด้างหรือโมเดิร์นเกินไป แต่ควรจะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ได้รับลมธรรมชาติและเปิดให้สัมผัสบรรยากาศรอบตัว จึงผสมผสานการใช้วัสดุท้องถิ่น งานไม้ทั้งหมดเป็นไม้สักที่รื้อจากบ้านเก่า หลังคามุงกระเบื้องดินขอ กระเบื้องพื้นและผนังบางส่วนใช้กระเบื้องเคลือบดินเผาของแม่ริมเซรามิค ซึ่งโรงงานอยู่ใกล้บ้านลดการขนส่งและหาเปลี่ยนได้ง่าย กระเบื้องแต่ละแผ่นทำแบบกึ่งแฮนด์เมดจึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีสีเหลือบกันและพื้นผิวต่างกันซึ่งเป็นข้อดีสำหรับบ้านนี้ แต่กระเบื้องประเภทนี้เวลาปูต้องเว้นร่องยาแนวกว้าง ในส่วนที่ต้องดูแลรักษาง่ายอย่างพื้นห้องน้ำ จึงใช้กระเบื้องปกติที่ปูชิดได้ รอยต่อน้อย และทำความสะอาดง่าย” บ้านไม้พื้นถิ่นโมเดิร์น
เปิดบ้านรับวิวแต่บังแดดได้
เมื่อเปิดบ้านโล่งรับวิวได้มาก ก็ย่อมมีแสงแดด ฝน และความร้อนเข้ามาด้วย สถาปนิกจึงแก้ไขด้วยกระบวนการออกแบบและวิธีแบบพื้นบ้าน “ด้านที่เปิดรับวิวจะเยื้องทางทิศตะวันตก จึงทำชายคายื่นออกจากตัวบ้านเยอะ และทำพื้นระเบียงชั้นสองยื่นออกมาช่วยบังแดดให้ชั้นล่างได้ด้วย แต่แดดทางทิศตะวันตกจะมีองศาค่อยๆต่ำลง ตลอดริมแนวระเบียงชั้นบนและชั้นล่างจึงติดมู่ลี่ไม้ไผ่ ซึ่งความพิเศษของมู่ลี่ไม้ไผ่จะเหมือนเป็นแผงบังแดดแนวนอนถี่ๆ ลดฝนสาดเข้ามาและยังกันแดดได้ดี โดยที่เรายังมองทะลุเห็นบรรยากาศภายนอกได้ ยังเห็นเป็นภาพต้นไม้ใบไม้ ซึ่งม่านบังแดดอื่นๆมักจะบดบังวิวไปด้วย แล้วยังช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวภายในบ้านได้อย่างดี”
สุขภาวะแห่งการพักผ่อน
บ้านที่ดีไม่ใช่เพียงอยู่สบาย แต่ยังส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาพดีทั้งกายและใจ ซึ่งสะท้อนตั้งแต่การวางผัง “วางผังให้บ้านค่อนมาด้านถนน เพื่อเปิดด้านหลังบ้านให้เป็นพื้นที่สวนสำหรับการพักผ่อนที่เป็นส่วนตัว มีสระว่ายน้ำสำหรับออกกำลังกายและสร้างมุมมองไปยังวิวภูเขา พื้นที่ที่ยังว่างมีแผนสำหรับการปลูกพืชผักสวนครัวเมื่อมาอยู่จริงจัง ส่วนสวนด้านหน้าบ้านที่ติดถนนเป็นสวนด้านทิศตะวันออกที่นั่งสบายช่วงบ่าย จึงทำรั้วโปร่งไว้ทักทายเพื่อนบ้าน หรือเห็นความเป็นไปของคนรอบบ้าน ซึ่งแม้ไม่ได้พูดคุยแต่แค่ยิ้มให้กันก็เกิดปฏิสัมพันธ์กันแล้ว” ด้วยบ้านเป็นรูปตัวไอที่ภายในวางผังแบบโอเพนท์แปลนจึงมีปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมที่ดีรอบบ้าน สถาปนิกได้ทิ้งท้ายถึงผลลัพธ์ที่ไม่ใช่เพียงการออกแบบบ้านแต่เป็นการออกแบบองค์ประกอบของการใช้ชีวิต “การใช้ชีวิตในบ้านจะมีเสียงนกร้อง มีลมพัดผ่าน มีกลิ่นต้นไม้ กลิ่นฝน อยู่โดยไม่ต้องเปิดแอร์ตลอดเวลา มีความเงียบ จิตใจสงบ และรู้สึกสบาย ซึ่งเป็นความหมายของบ้านตากอากาศที่เราทำ”
ออกแบบ : บริษัท สถาปนิก สการ จัยวัฒน์ จำกัด โดย คุณสการ จัยวัฒน์, คุณภูวดล คำมะลิ, คุณกฤษณ์ จาติกวณิช Email : [email protected], www.skarnchaiyawat.com
- คอลัมน์ บ้านสวย ฉบับ พฤษจิกายน 2564
- เรื่อง ศรายุทธ ศรีทิพย์อาสน์
- ภาพ DOF Skyground
รวมมิตร 50 “บ้านไม้” ยอดนิยมตลอดกาลของบ้านและสวน