สำหรับคนที่รักสวนป่าสไตล์ทรอปิคัลหรือสวนป่าเขตร้อนคงไม่มีทางที่จะไม่รู้จักกับต้นไม้ในสกุลเฮลิโคเนีย (Heliconia) เช่น ก้ามกุ้ง สร้อยกัทลี หรือก้ามปู ซึ่งล้วนแต่เป็นพรรณไม้ที่นิยมปลูกกันอย่างแพร่หลายในประเทศไทยมานานแล้ว
จนปัจจุบัน เฮลิโคเนีย สามารถนำไปใช้จัดสวนที่สื่อถึงความเป็นไทยได้เช่นกัน ซึ่งนอกจากความสวยงามของรูปทรงและสีสันของใบหรือดอกแล้ว ต้นไม้ชนิดนี้ยังปลูกง่าย ออกดอกง่ายและขยายพันธุ์เร็ว ทำให้ต้นไม้ชนิดนี้ยังคงถูกนำไปจัดสวนทั้งภายในและภายนอกบ้านได้อยู่เสมอไม่ตกยุค
เฮลิโคเนีย เป็นต้นไม้ในวงศ์ HELICONIACEAE ที่มีอยู่หลายร้อยชนิด แต่เดิมจัดอยู่ในวงศ์เดียวกับกล้วยคือ MUSACEAE นอกจากนั้นยังเป็นญาติกับวงศ์พุทธรักษา(CANNACEAE) และขิง(ZINGIBERACEAE) แต่ละพันธุ์ก็จะมีช่วงเวลาที่ออกดอกไม่เหมือนกัน บางพันธุ์ออกดอกตลอดทั้งปี บางพันธุ์ออกดอกเพียงปีละครั้ง มีตั้งแต่พันธุ์แคระต้นเตี้ยไปจนถึงต้นสูงใหญ่ รูปทรงของดอกก็มีอยู่หลากหลาย เช่น ชนิดดอกเล็กอย่าง Heliconia psittacorum มีกาบดอกหรือกลีบประดับเล็กแคบเห็นดอกจริงคล้ายกล้วยชัดเจน สวนชนิดที่เรียกว่าก้ามปู กลีบประดับมีขนาดใหญ่ซ่อนดอกจริงไว้ภายในกาบสีสดใส บางชนิดก็เป็นช่อห้อยย้อย
แต่เดิมคนไทยนิยมเรียกเฮลิโคเนียว่า “เบิร์ด” ซึ่งมาจากต้นเบิร์ด ออฟ พาราไดซ์ ที่เป็นวงศ์ STRELIZIACEA ไม่ได้อยู่ในวงศ์เดียวกันเลยแม้มีหน้าตาคล้ายกัน อีกประการหนึ่งคือชื่อสามัญตัวหนึ่งของเฮลิโคเนียเรียกว่า False Bird of Paradise ก็อาจเป็นอีกเหตุที่ทำให้คนเข้าใจผิด
เฮเลิโคเนียเป็นต้นไม้ที่มีพื้นเพดั้งเดิมมาจากทวีปอเมริกาในบริเวณเขตร้อนชื้น หมู่เกาะแปซิฟิกใต้ ไปจนถึงอินโดนีเซีย เมื่อนำมาปลูกที่ประเทศพบว่าเจริญงอกงามได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเกิดลูกผสมใหม่อยู่ตลอดเวลา จนกลายเป็นที่ตั้งการทั้งดอกและต้นพันธุ์จากทุกมุมโลก เพราะความสวยงามเฉพาะตัวของดอกและความทนทาน โดยดอกหนึ่งสามารถนำมาปักแจกันได้นานเป็นเดือน
เฮลิโคเนียปลูกง่าย มีโรคแมลงน้อยแต่สิ่งสำคัญคือต้องให้น้ำเพียงพอ โดยเราสามารถรดเพียงวันละครั้งช่วงเช้าก็ได้ ในวันที่ฝนตกหนักก็อาจงดรดน้ำไปเลย และไม่ควรปลูกให้โดนแสงแดดจัดจนเกินไป เพราะสีของดอกจะไม่สด ใบเหลือง และไหม้ไม่สวยงามนัก สามารถปลูกไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่หรือภายในบ้านบริเวณที่ได้รับแสงแดดรำไรได้ เครื่องปลูกที่ชอบคือดินอุ้มน้ำ แต่ไม้ควรให้น้ำจนขังแฉะ ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้ปลูกในดินเหนียว อีกทั้งความแน่นของดินเหนียวยังทำให้ตุ้มลอยต่อไปก็จะล้มและไม่ค่อยแตกหน่อ ต้นเตี้ย หรือสั้นลง
เราสามารถขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ ต้นแม่ที่ให้ดอกจะเริ่มมีหน่อใหม่ วิธีการคือตัดต้นให้สูงประมาณ 50 เซนติเมตร และแยกหน่อตัดแยกรากกับหน่อต้นเก่าออกจากดิน ตัดรากรอบทิ้ง ล้างทำความสะอาดและผึ่งให้แห้ง จากนั้นจุ่มน้ำยาฆ่าเชื้อราก่อนนำไปผึ่งให้แห้งอีกครั้งแล้วจึงปลูกในกระถาง
ดินปลูก เฮลิโคเนีย
ใช้ดินก้ามปูถุงผสมสำเร็จทั่วไปหรือดินปนทราย ผสมกับปุ๋ยคอกหรือมูลวัว มูลหมู ซึ่งให้ผลดีกว่า เพราะปุ๋ยหมักหรือปุ่๋ยคอกเหล่านี้ช่วยให้ดินร่วซุย ระบายน้ำได้ดี และเพิ่มธาติอาหาร
ปุ๋ย
นอกจากปุ๋ยคอกที่ผสมดินปลูกลงไปแล้ว ในช่วงที่ต้องการเร่งดอกอาจเติมปุ๋ยวิทยาศาสตร์สูตร 16 16 16 โดยโปรยให้ห่างหน่อหรือตามขอบกระถาง ถ้าโรยใกล้ต้นเกินไป โคนอาจเน่าได้ นอกจากนี้อาจใช้เป็นปุ๋นสูตรละลายช้าแทนก็ได้
การปลูก เฮลิโคเนีย
หากปลูกลงแปลงหรือในสวน ควรกะระยะห่างไม่ต่ำกว่า 1 เมตรระหว่างต้น หลุมปลูกควรมีขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ไม่ว่าจะปลูกในดินหรือกระถางอย่าให้เหง้าฝังลึกเกิน 4 เซนติเมตร เพราะอาจเน่าได้ง่าย เมื่อลงปลูกใหม่ๆควรพรางแสงให้เหลือประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ในระยะเวลา 2-3 เดือน เพื่อให้หน่อใหม่เหล่านี้เริ่มฟื้นตัวงอกงาม ภายในหนึ่งปีก็จะออกดอกให้ชมแล้ว