น้ำท่วมบ้าน แนวทางจัดการปัญหาในบ้าน หลังน้ำลด - บ้านและสวน

แนวทางจัดการปัญหาในบ้าน หลังน้ำลด

น้ำท่วมบ้าน จนเกิดความเสียหาย แล้วหลังน้ำลดเราควรจะจัดการอะไรก่อน มาดูวิธีที่ช่วยให้บ้านกลับมาอยู่ในสภาพที่ดีดังเดิม

หลังน้ำลด จะเข้าไปดูบ้าน ต้องทำอะไรก่อน

แม้น้ำที่ท่วมขังจะลดลงแล้วก็ไม่ได้แปลว่าจะย้ายเข้าไปนอนในบ้านได้ทันที ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่กำลังจะกลับเข้าบ้านคือ ก่อนเดินเข้าบ้านขอให้ใส่หน้ากากปิดจมูกและปาก ป้องกันการสูดดมเชื้อรา สารเคมีที่มากับน้ำเน่า และใส่รองเท้าเพื่อป้องกันของมีคมและเชื้อโรคที่ลอยเข้ามาในบริเวณบ้าน ถ้าไม่แน่ใจเรื่องไฟฟ้าให้ใส่รองเท้าบู๊ตยางเลยจะดีกว่า นอกจากนี้แม้น้ำจะลดลง แต่บ้านก็ยังมีความชื้นสูง ทันทีที่เข้าบ้านควรเปิดหน้าต่างและม่านออกให้หมดเพื่อระบายอากาศและให้แดดส่องถึง ช่วยให้ภายในบ้านแห้งสนิทและฆ่าเชื้อโรคไปพร้อมกัน

อย่าเพิ่งเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าในบ้านเป็นอันขาดจนกว่าจะแน่ใจว่าปลั๊กและสวิตช์ไฟทุกจุดแห้งสนิทดีแล้ว สิ่งที่ควรติดมือเข้าไปก็เช่น สมุดบันทึกความเสียหาย ไม้บรรทัดสำหรับวัด ไม้ยาวสำหรับใช้เขี่ยสิ่งของแทนมือ ถุงมือ ไขควงเช็กไฟฟ้า ถุงใส่ขยะ (จำนวนมาก) และกล้องหรือโทรศัพท์ไว้ถ่ายรูป

วันแรกที่เข้าไปดูบ้าน คุณอาจรู้สึกเครียดจนไม่รู้จะทำอะไรก่อนหลัง ขอให้ตั้งสติและทำใจรับสภาพ  คุณจะเห็นอะไรชัดเจนขึ้นหลังการเก็บกวาดทำความสะอาดบริเวณบ้าน

ขยะหลังน้ำท่วมมีสองชนิด ชนิดแรกคือขยะมูลฝอย เช่น ขยะที่ลอยมาตามน้ำ ดินทราย เศษอาหาร  ฯลฯ อีกชนิดคือซากความเสียหาย เช่น เฟอร์นิเจอร์ที่เปื่อยยุ่ย ฟูก หมอน และเบาะต่างๆ ที่สกปรกเกินจะใช้ต่อได้ หรือประตูหน้าต่างที่บวมผุพังจนเกินจะซ่อมแซม แนะนำให้ขนขยะชนิดหลังออกมาก่อน จากนั้นค่อยๆทำความสะอาดขยะมูลฝอย ถึงจุดนี้ภาพจะชัดเจนขึ้นว่าจะทำอะไรต่อไป ถ้าพอรู้เรื่องไฟฟ้าให้ถอดปลั๊กไฟออกมาตากให้แห้ง ก่อนติดตั้งกลับเข้าไปใหม่ ถ้าไม่แน่ใจฝีมือตัวเอง แนะนำให้จ้างช่างไฟฟ้าช่วย เมื่อสามารถใช้ไฟฟ้าได้อย่างปลอดภัยแล้ว จึงค่อยย้ายกลับเข้าไปนอนในบ้าน และคลิกไปอ่านข้อต่อๆ ไปเพื่อหาทางซ่อมแซมส่วนต่างๆ ของบ้านคุณ


 คราบบนผนังสกปรกมาก ขัดออกอย่างไรดี

คราบน้ำบนผนังทั้งในบ้านและนอกบ้านหรือที่รั้วมีไว้โม้กับเพื่อนว่า น้ำท่วมบ้าน คุณโดนขนาดไหน แต่คุณคงไม่อยากอยู่กับมันไปนานๆ คราบหลังน้ำท่วมใหญ่จะมีทั้งคราบดินโคลน คราบน้ำมัน คราบเชื้อรา คราบตะไคร่น้ำ และคราบเกลือ สิ่งแรกที่แนะนำให้ทำก่อนคือ พยายามใช้ผ้าชุบน้ำสบู่หรือน้ำเปล่าเช็ด คราบโคลนและคราบเกลือออกให้มากที่สุด ถ้าใช้แปรงช่วยให้ใช้แปรงขนพลาสติกอ่อนๆ จะได้ไม่ไปขัดเอาสีทาบ้านหลุดล่อนออกมาด้วย (ยกเว้นกรณีที่แช่น้ำนานมากๆ จนสีเสื่อมสภาพ ต้องขัดออกเพื่อทาสีใหม่อยู่ดี)

สำหรับบ้านที่ติดถนนใหญ่หรืออยู่ใกล้ร้านอาหาร อาจมีคราบน้ำมันลอยมาเกาะผนังด้วย ลองใช้ น้ำส้มสายชูผสมเบกกิ้งโซดาล้าง หรือใช้น้ำยาขจัดคราบไขมันสำหรับใช้ในครัวได้เลย จากนั้นใช้โซเดียมไฮโปคลอไรด์ (Sodium hypochlorite) หรือ “น้ำยาฟอกขาว” ล้างคราบตะไคร่น้ำและคราบเชื้อราออกได้และช่วยฆ่าเชื้อโรคด้วย ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำให้นำโซเดียมไฮโปคลอไรด์ไปผสมน้ำในความเข้มข้น 0.5 – 1 เปอร์เซ็นต์  แล้วนำไปราดพื้นเพื่อฆ่าเชื้อโรคด้วย อย่าลืมสวมถุงมือยางเวลาที่ขัด มือจะได้ไม่ลอก กลิ่นจะฉุนนิดหนึ่ง  แนะนำให้เปิดประตูและหน้าต่างให้มากที่สุด เปิดบานตู้และเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น ผึ่งลมให้แห้ง ใช้พัดลมและดรายเออร์ช่วยในบางจุด

นอกจากนี้ยังอาจวางสารดูดความชื้น (มีขายที่ห้างเคหะภัณฑ์ใหญ่ๆ) และก้อนถ่านไว้ตามจุดต่างๆ ในบ้านเพื่อลดกลิ่นอับชื้น คลอรีนปริมาณมากๆ ที่ใช้ล้างบ้านอาจทำให้จุลินทรีย์ในท่อน้ำทิ้งรอบๆ บ้านตายด้วย การเทน้ำหมักชีวภาพ (EM) ลงไปในบ่อพักน้ำรอบๆ บ้านจะช่วยเพิ่มจุลินทรีย์และลดกลิ่นเหม็นเน่าได้เป็นอย่างดี


น้ำท่วมบ้าน

น้ำซึมผ่านพื้นกระเบื้องขึ้นมา ต้องซ่อมไหม

น้ำที่ซึมเข้ามาในบ้านผ่านช่องรอยต่อกระเบื้องที่พื้นอาจทำให้กระเบื้องหลุดล่อนได้ ปกติกระเบื้องเซรามิกหรือหินแผ่นที่ใช้ปูพื้นอาจหลุดได้อยู่แล้วถ้าติดตั้งไม่ดี หรือใช้วิธีปูกระเบื้องแบบเก่า ด้วยการปั้นปูนเป็นก้อนแล้วกดลงไปแบบที่เรียกว่า “ซาลาเปา” ซึ่งมักมีช่องอากาศใต้แผ่นกระเบื้องมากกว่าแบบใหม่ที่ใช้ปูนกาวสำเร็จรูป ลองเคาะดู ถ้ามีเสียงกลวงๆ ที่มุมแผ่นแสดงว่ามีช่องอากาศมาก ถึงแผ่นกระเบื้องจะไม่หลุดแต่ก็จะมีน้ำขังข้างใต้ อันเป็นสาเหตุของเชื้อรา ทำให้ร่องยาแนวมีคราบดำ และในที่สุดกระเบื้องก็อาจหลุดได้

ถ้าหลุดก็ต้องซ่อมแซม จ้างช่างมาปูในกรณีที่เกิดขึ้นเป็นบริเวณกว้าง แต่ถ้าเป็นแค่แผ่นสองแผ่นอาจทำเองได้ ค่อยๆ สกัดออกทีละแผ่นด้วยความระมัดระวังไม่ให้ลามเป็นวงใหญ่ หลังจากติดตั้งเสร็จ อาจต้องขูดยาแนวเก่าออกแล้วยาใหม่ทั้งชั้น เพราะนอกจากเชื้อราแล้ว แรงดันน้ำและระยะเวลาที่พื้นจมน้ำ รวมถึงการขัดถูแรงๆ หลังน้ำลดอาจทำให้ร่องยาแนวเสียหาย ถือโอกาสนี้ยาแนวใหม่ทั้งบ้านเลยก็ได้

กรณีที่เป็นแผ่นหิน ไม่ว่าจะเป็นหินอ่อน หินแกรนิต หรือแผ่นหินอัด ซึ่งเป็นวัสดุที่มีรูพรุนที่ผิวหน้า คราบสกปรกอาจติดอยู่ในรูพรุนเหล่านี้และยากต่อการทำความสะอาด อาจต้องใช้เครื่องขัดผิว และลงน้ำยาเคลือบเพื่อความเงางาม แต่ต้องทำใจว่าคราบอาจยังเหลืออยู่บ้าง


ซ่อมแซมผนังหลัง น้ำท่วมบ้าน

วัสดุต่างๆ ที่ใช้ทำผนังบ้าน เมื่อเวลาถูกน้ำท่วมนานๆ ก็จะเกิดความเสียหายแน่นอน วิธีแก้ไขคือ

  1. ถ้าเป็นผนังไม้ เช็ดทำความสะอาดเพื่อให้ผิวสามารถระเหยความชื้นได้ง่าย เมื่อแห้งดีแล้วใช้น้ำยารักษาเนื้อไม้ชโลมที่ผิวหรือทาสีต่อไป วิธีที่ดีควรทาสีด้านในบ้านก่อน ทิ้งไว้5 – 6 เดือน จึงทาสีด้านนอก
  2. ถ้าเป็นผนังก่ออิฐฉาบปูนก็ใช้วิธีเดียวกับผนังไม้ แต่ต้องทิ้งให้ระเหยความชื้นนานกว่าผนังไม้  เพราะมีความหนามากกว่า จากนั้นค่อยทาสีใหม่
  3. ถ้าเป็นผนังยิปซัมบอร์ดก็เลาะเอาแผ่นที่เสียออ ถ้าโครงคร่าวเป็นโลหะก็สามารถติดแผ่นใหม่ได้เลย  แต่ถ้าโครงคร่าวเป็นไม้ ต้องทิ้งให้ความชื้นในไม้ระเหยหมดก่อนจึงจะติดแผ่นใหม่ได้

ซ่อมแซมฝ้าเพดานบ้านหลังน้ำท่วม

การซ่อมแซมฝ้าเพดานจะมีลักษณะคล้ายๆ การซ่อมผนังและพื้นปนกัน คือ ถ้าเป็นฝ้าเพดานยิปซัมบอร์ดหรือกระดาษอัด ถ้าเปื่อยยุ่ยมากเพราะอมน้ำ ก็ควรเลาะออกแล้วจึงเปลี่ยนแผ่นใหม่เลย ทิ้งให้ทั้งหมดแห้งสนิท จริงๆ แล้วจึงทาสีทับ

  • ถ้าเป็นฝ้าโลหะ ให้เช็ดทำความสะอาดให้แห้ง ถ้าเป็นสนิมก็ใช้กระดาษทรายขัดออกให้เรียบร้อย  แล้วจึงทาสีทับเข้าไปใหม่
  • ระบบสายไฟส่วนใหญ่จะเดินในฝ้า เวลาเปิดฝ้าเข้าไปต้องตรวจดูความเรียบร้อยว่ามีส่วนใดชำรุดด้วยหรือเปล่า แต่ส่วนนี้เราแนะนำให้จ้างช่างไฟมาจัดการ
  • ถ้าโครงฝ้าเพดานที่เป็นไม้เกิดการแอ่นหรือทรุดตัว ต้องแก้ไขให้ได้ระดับ และมีความแข็งแรงก่อนการติดตั้งแผ่นฝ้าใหม่

น้ำท่วมบ้าน

หลังน้ำลดอย่าเพิ่งรีบทาสีใหม่

การแช่น้ำนานๆ อาจทำให้สีทาบ้านเสื่อมสภาพลง มีคราบสกปรกและเกิดการหลุดล่อนได้ บริเวณบ้านที่แช่น้ำนานๆ จนเกิดคราบที่ผนัง ต้องขัดลอกสีเดิมออกให้มากที่สุด หลังจากน้ำลดให้ล้างคราบเกลือออกให้หมด กรณีที่แช่อยู่นานมากจนเกิดเชื้อราให้ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อราด้วย ถ้าแช่เป็นเดือนๆ จนผนังปูนร่วนเป็นผง  แนะนำให้สกัดปูนฉาบออกจนถึงอิฐก่อ หลังจากนั้นให้ฉาบใหม่โดยใช้น้ำยาประสานคอนกรีตผสมด้วย เพื่อเพิ่มการยึดเกาะ

เมื่อซ่อมผนังเสร็จแล้วควรปล่อยให้แห้งสนิทอย่างน้อย 3 เดือน ก่อนจะเริ่มทาสีใหม่ สิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างแรกคือ ทา “น้ำยารองพื้น” ชนิดพิเศษที่ช่วยป้องกันความชื้น จากนั้นก็ทา “สีรองพื้น” ที่ป้องกันคราบเกลือและความเป็นด่างจากผิวปูนใหม่และปูนเก่าที่แช่น้ำมานาน จากนั้นก็ทาสีให้เข้ากับผนังส่วนอื่นๆ ของบ้านได้  ผลิตภัณฑ์ที่กล่าวมา ทั้งหมดสอบถามได้ที่ร้านขายสีชั้นนำทั่วไป


น้ำท่วมบ้าน

น้ำท่วมบ้าน ภายนอก วอลล์เปเปอร์ในบ้านจะเป็นอะไรไหม

น้ำท่วมข้างนอกแม้จะไม่ได้เข้ามาในตัวบ้านก็ทำให้ผนังชื้น บ้านที่ติดวอลล์เปเปอร์ อาจมองไม่เห็นว่ามีคราบน้ำและความชื้นอยู่ที่ผนัง ในกรณีนี้อาจไม่จำเป็นต้องลอกวอลล์เปเปอร์ออก เมื่อน้ำลดให้ใช้พัดลมเป่าให้ทั่วผนัง เป่าทิ้งไว้เป็นระยะเวลา 1-2 วัน แต่ต้องเป็นกรณีที่น้ำท่วมแค่ภายนอก น้ำไม่โดนวอลล์เปเปอร์โดยตรง และต้องเป็นน้ำขังภายนอกแค่ไม่เกิน 2-3 วันเท่านั้น เพราะถ้าเกินกว่านั้นผนังจะรับความชื้นเอาไว้สูงมาก และเกิดเป็นเชื้อราสะสมภายใน ส่งผลให้วอลล์เปเปอร์เสื่อมสภาพเร็ว และต้องลอกออกอยู่ดี

สำหรับกรณีที่น้ำท่วมขังอยู่ภายในบ้านและน้ำโดนวอลล์เปเปอร์โดยตรงเป็นเวลานานๆ ก็จำเป็นต้องลอกออกสถานเดียว แล้วปล่อยให้ผนังแห้งเอง โดยจะใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือน ซอกมุมต่างๆที่ดูท่าว่าจะมีความชื้นสะสมอยู่มากสามารถใช้พัดลมหรือดรายร์เป่าผมช่วยเป่าได้ ที่สำคัญหากผนังปูนมีลักษณะหลุดล่อน ก็ควรกะเทาะออกแล้วฉาบปูนใหม่ให้เรียบร้อยก่อนจะติดวอลล์เปเปอร์

หลายคนยังเสียดายวอลล์เปเปอร์ลายเก่า อาจเพราะสวยถูกใจและหาซื้อไม่ได้อีกแล้ว กรณีนี้สามารถใช้วอลล์เปเปอร์เดิมติดได้เมื่อผนังบ้านแห้งดีแล้ว แต่ทางที่ดีควรเปลี่ยนไปใช้วอลล์เปเปอร์ใหม่เลย เพราะวอลล์เปเปอร์ทำจากกระดาษเป็นหลัก เมื่อโดนความชื้นนานๆ ทั้งสภาพของกระดาษ สีสัน ลวดลายก็จะเสื่อมได้ง่าย เมื่อจะเลือกซื้อวอลล์เปอร์ใหม่ควรเลือกแบบที่เป็นไวนิล เพราะเคลือบพลาสติกจะทนทานกว่าแบบอื่นๆ หรือเปลี่ยนไปใช้วอลล์คัฟเวอร์ริ่ง (Wall Covering) ซึ่งส่วนมากจะทำจากผ้าและไวนิล มีความทนทานมากกว่าวอลล์เปเปอร์ที่เป็นกระดาษ ส่วนมากใช้ในอาคารสำนักงาน โรงแรม หรือร้านอาหาร ราคาอาจค่อนข้างสูง แต่ถ้าคุณใช้ในพื้นที่ไม่มากก็คุ้มค่าน่าลงทุน


น้ำท่วมบ้าน

ซ่อมประตูบ้านหลังน้ำท่วม

ประตูที่จะเกิดปัญหามากคือประตูไม้ ไม่ว่าจะเป็นไม้จริงหรือไม้อัด ส่วนประตูที่ทำจากวัสดุอื่นๆ เช่น พีวีซี มักไม่ค่อยเป็นอะไร ยกเว้นส่วนที่เป็นโลหะ เช่น บานพับและลูกบิดที่อาจเกิดสนิม ประตูไม้ที่แช่น้ำนานๆ จะมีการบวมโก่ง ซึ่งจะทำให้เปิด-ปิดลำบาก ควรถอดออกมาผึ่งลมให้แห้งอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ จากนั้นก็นำไปขัดสีเก่าออก อุดโป๊รอยแยกรอยแตกให้ดี ก่อนทำสีใหม่ บานที่เป็นไม้อัดถ้าบวมโก่งมากหรือผุอาจต้องเปลี่ยนใหม่ หรือถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้ปิดผิวด้วยไม้วีเนียร์ใหม่เลย บานพับและลูกบิดก็ต้องเป่าลมให้แห้ง ใช้กระดาษทรายขัดสนิมออก หยอดน้ำมันหล่อลื่น ถ้ายังใช้การได้ดีอยู่ก็ใช้ของเดิมได้ ส่วนวงกบไม้อาจมีการบวมโก่ง ถ้าแห้งแล้วยังปิดประตูไม่เข้า อาจต้องนำบานประตูมาไสออกบ้าง


น้ำท่วมบ้าน

พื้นไม้เปียกๆ นำไปตากแห้ง แล้วใช้ต่อได้ไหม

พื้นไม้จริง เช่น ไม้ปาร์เกต์หรือไม้กระดาน สามารถรื้อออกไปตากลมให้แห้ง อย่าตากแดดแรงๆ เพราะจะทำให้ไม้หดตัวเร็วไปและปริแตกได้ ไม้หนาๆอาจต้องผึ่งลมเป็นเดือนๆกว่าจะแห้ง จากนั้นก็นำไปซ่อมผิวแต่งสีก่อนจะติดตั้ง กรณีไม้ปาร์เกต์ซึ่งเป็นการติดกาวลงกับพื้นคอนกรีต ต้องทำให้พื้นแห้งก่อน จากนั้นก็ลงน้ำยากันความชื้นด้วย

พื้นไม้เทียมอย่างไม้ลามิเนต ไม้เอ็นจิเนียร์ มีความเสี่ยงที่จะต้องเปลี่ยนใหม่หมด ไม่สามารถนำมาใช้ใหม่ได้ถ้ามีการบิดโก่งหรือบวมแม้จะแห้งแล้วก็ตาม เพราะไม่สามารถแต่งขัดพื้นให้เรียบได้เหมือนไม้จริงร้อยเปอร์เซ็นต์ เดี๋ยวนี้มีพื้นไม้ที่ไม่ได้เป็นไม้เลย เช่น แผ่นกระเบื้องไวนิล หรือกระเบื้องลายไม้ ซ่อมง่ายกว่ามาก คือถ้าไม่หลุดล่อนออกมาก็ใช้ต่อได้ ถ้าหลุดก็ติดใหม่เป็นแผ่นๆ ไม่ต้องขัดไม่ต้องทาสีใหม่