มีคนเคยกล่าวว่า นักออกแบบที่ยิ่งใหญ่และอัจฉริยะที่สุดคือธรรมชาติ ซึ่งออกแบบสรรพสิ่งที่มีทั้งความเหมือนและความต่างให้เกิดความงามได้อย่างน่าสนใจ เมื่อนำทั้งสิ่งที่เหมือนและต่างนั้นมาอยู่ด้วยกันอย่างเป็นธรรมชาติก็สามารถผสมกลมกลืนเป็นเอกภาพที่สมบูรณ์ได้เฉกเช่นสวนรีโนเวตแห่งนี้
เจ้าของ : นาวาอากาศเอก ธนภัทร- คุณภูษณิศา งามปลั่ง
ออกแบบ : บริษัทบ้านสรา คอร์ปอเรชั่น จํากัด โดยคุณสราวุธ ทูละมาลย์ โทรศัพท์09-1707-8349
ณ บ้านหรูริมทะเลสาบย่านชานเมืองของคุณหมู-นาวาอากาศเอก ธนภัทรและคุณชมพู- ภูษณิศา งามปลั่ง ดูเป็นธรรมชาติและร่มรื่นตั้งแต่บริเวณหน้าบ้าน โดยผสมผสานระหว่างรูปแบบการจัดวางกับงานฮาร์ดสเคปที่ให้กลิ่นอายของความร่วมสมัยแบบสวนยุโรป ขณะเดียวกันก็เลือกใช้พรรณไม้พื้นถิ่นของประเทศไทยและป่าเขตร้อนมาจัดวางไว้ด้วยกันได้อย่างน่าสนใจ จากฝีมือการออกแบบของ คุณสราวุธ ทูละมาลย์ นักจัดสวนแห่งบริษัทบ้านสรา คอร์ปอเรชั่น จากัด ที่ใช้เวลาออกแบบและดูแลสวนแห่งนี้เป็นระยะเวลานานกว่า 8 ปีมาแล้ว
“ตอนที่ซื้อบ้านหลังนี้เราได้มุมที่ดีที่สุดของโครงการ เป็นมุมที่ติดกับทะเลสาบ สามารถมองออกไปเห็นดวงอาทิตย์ตกที่ทะเลสาบได้เลยจากในบ้าน เป็นมุมที่สวยงามดีอยู่แล้ว แต่กลับไม่มีต้นไม้อยู่เลยสักต้นเดียว มีเพียงสนามหญ้าโล่งและแดดร้อนมาก คุณสราวุธเป็นเพื่อนกับภรรยาของผมและเคยจัดสวนที่บ้านหลังเก่าของเรามาแล้ว เราเห็นว่าเขาฝีมือดีก็เลยให้มาช่วยจัดสวนที่บ้านใหม่หลังนี้อีกครั้ง โดยบอกโจทย์ว่าต้องการให้สร้างร่มเงาแก่ตัวบ้าน ควรมีต้นไม้ใหญ่อย่างน้อย 4-5 ต้นเพื่อช่วยบังแดดไม่ให้เข้าบ้าน” คุณหมูเล่า
หลังจัดสวนครั้งแรกเสร็จผ่านมาหลายปีจนต้นไม้ใหญ่เริ่มเติบโตและให้ร่มเงาที่เหมาะสมตามที่ต้องการได้แล้ว คุณหมูและคุณชมพูเริ่มอยากเปลี่ยนแปลงสวนอีกครั้ง โดยปรับเปลี่ยนพื้นที่ริมรั้วที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้มีพรรณไม้ที่ตรงตามความชอบของทั้งคู่มากยิ่งขึ้น ซึ่งคุณชมพูนั้นชอบไม้ดอก แต่คุณหมูยังชื่นชอบต้นไม้ใหญ่อยู่ นอกจาก
นี้ยังย้ายตำ แหน่งศาลาจากด้านหลังมาอยู่บริเวณหน้าบ้านที่ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์ กลายเป็นมุมนั่งพักผ่อนรับลมของคุณแม่ และสร้างเรือนรับรองขึ้นใหม่แทนที่ตำแหน่งศาลาเดิม แต่ยังยึดแกนตำแหน่งนํ้าพุที่มีอยู่เดิมเอาไว้ และเก็บต้นไม้ใหญ่คงเดิมให้มากที่สุด มีเพียงบางต้นที่จำเป็นต้องขุดล้อมเพื่อย้ายตำแหน่ง
“ตอนแรกในใจผมอยากปลูกดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมและก็มีความเป็นสิริมงคลด้วย แต่ผมยังชื่นชอบต้นไม้ใหญ่มากเพราะเป็นชาวสวนเก่า อย่างจิกนํ้าปีหนึ่งจะผลัดใบครั้งหนึ่งต้นใหญ่และให้ความร่มรื่นเข้ากับบ้านมาก เราปลูกมาตั้งแต่ต้นยังเล็กตอนนี้ช่วยบังแดดไม่ให้ส่องเข้ามาในบ้าน ส่วนต้นอื่นๆ ก็เสริมให้บ้านดูร่มรื่นและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ต้นไม้เล็กๆ ได้เติบโตอิงอาศัยใต้ร่มเงา เกิดเป็นระบบนิเวศที่สมดุล” คุณหมูพูด
“บ้านหลังนี้ถือว่าเป็นโจทย์ที่ยากพอสมควรครับ เพราะเรารู้จักนิสัยของเจ้าของบ้านทั้งสองท่านที่มีความแตกต่างกันมาก ดังนั้นก็จะต้องมีตรงกลางที่คล้ายกัน คุณผู้หญิงชอบไม้ดอก คุณผู้ชายชอบไม้ยืนต้นดูครึ้ม ผมจึงปรับมาใช้ไม้ดอกในร่ม แต่ต้นไม้ในกลุ่มนี้ก็มีไม่มากและต้องดูแลให้ระบบนิเวศสมบูรณ์จึงจะออกดอก แม้จะยาก
แต่ก็สามารถทำได้ สวนนี้แม้แต่กล้วยไม้รองเท้านารีที่ออกดอกยากก็สามารถบานได้ตลอดเรื่อยๆ”คุณสราวุธเล่า
เคล็ดลับของการทำระบบนิเวศให้สมบูรณ์นอกเหนือจากร่มเงาของต้นไม้ใหญ่แล้ว ยังใช้หินฟองนํ้าและวัสดุที่ช่วยเก็บความชื้นได้ดีมาวางแทรกในสวนและในดินเพื่อให้เกิดความชุ่มชื้นสะสม ซึ่งยังสามารถสังเกตได้ด้วยว่าความชื้นในสวนน้อยไปหรือไม่ โดยดูจากลักษณะของมอสส์บนหินฟองนํ้า เมื่อระบบนิเวศในสวนสมบูรณ์ก็ทำให้การดูแลสวนน้อยลงเหลือแค่ 2 – 3 เดือนต่อครั้ง โดยเข้ามาตัดแต่งต้นไม้ใหญ่ให้เกิดช่องที่แสงส่องลงมาจนมีสภาพเหมาะสมกับการเกิดมอสส์ ช่วยให้บรรยากาศของสวนมีความเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
เรื่อง : ปัญชัช
ภาพ : อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม, พรชิตา พลแก้ว