เชื่อว่าคนในเมืองใหญ่ที่อยากหลีกหนีความสับสนวุ่นวายไปอาศัยอยู่จังหวัดอื่นเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ทุกวัน หากไม่นับเงื่อนไขด้านเงินทองแล้วก็คงต้องติดเงื่อนไขอื่นๆ ทั้งหน้าที่การงานและการดูแลเอาใจใส่คนในครอบครัว การย้ายถิ่นฐานไปยังเมืองที่สงบ ร่มรื่น อากาศดี เพื่อสร้าง บ้านขนาดกะทัดรัด จึงเป็นไปไม่ได้ง่ายนัก
เจ้าของ : ครอบครัวสุวัจฉราภินันท์
สถาปนิก : ห้างหุ้นส่วนจำกัด 2929 Designlab โดย ดร.สันต์ สุวัจฉราภินันท์
ทว่าสำหรับ ดร.สันต์ สุวัจฉราภินันท์ สถาปนิกห้างหุ้นส่วนจำกัด 2929 Designlab และอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กลับมีจังหวะชีวิตที่ลงตัว เพราะที่ตั้งของ บ้านขนาดกะทัดรัด หลังใหม่นี้สอดรับกับหน้าที่การงานในตำแหน่งหัวหน้าหลักสูตรบัณฑิตศึกษา คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทั้งยังรองรับการอยู่อาศัยของคุณพ่อคุณแม่ซึ่งย้ายมาจากกรุงเทพฯเพื่อการดูแลได้อย่างใกล้ชิดในบรรยากาศที่คนวัยเกษียณท่านใดเห็นก็ต้องอิจฉา
“บ้านหลังนี้เริ่มต้นจากเมื่อสองปีที่แล้วพยายามหาที่ดินสำหรับสร้างบ้านของตัวเอง ช่วงนั้นคุณแม่เริ่มป่วยและเข้าออกโรงพยาบาลบ่อย ทำให้ต้องเดินทางไปกลับกรุงเทพฯ – เชียงใหม่อยู่เสมอ จากที่คิดจะสร้างบ้านเพื่อตัวเองก็เริ่มเปลี่ยนแผนว่าจะสร้างบ้านให้คุณพ่อคุณแม่ย้ายมาอยู่ที่เชียงใหม่ด้วยกันแทน”อาจารย์สันต์เล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นของบ้านหลังนี้ให้เราฟัง
“จากนั้นจึงมองหาที่ดินซึ่งมีคุณสมบัติ3 อย่าง คือ หนึ่ง ต้องอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สอง ต้องอากาศดี สาม ราคาไม่แพงเกินไป ดูมาหลายแห่ง บางที่ก็สวยมากแต่ราคาแพง บางที่อยู่ในโครงการหมู่บ้านซึ่งมีเงื่อนไขในการออกแบบบ้านจุกจิก เราต้องการจะออกแบบบ้านเอง จนมีคนแนะนำให้มาดูที่ดินแถวแม่ริมตรงนี้ พอมาดูที่ปุ๊บก็รู้สึกคลิกทันที จึงตกลงซื้อที่ดินสวนลำไยเก่านี้ไว้เป็นที่ปลูกบ้านหลังใหม่เพื่ออยู่กับพ่อแม่”
เรามองไปรอบที่ดินขนาด 159 ตารางวา ซึ่งเป็นขนาดกำลังพอดีสำหรับอยู่อาศัย 3 คน คือไม่ใหญ่แบบที่ต้องเก็บกวาดจนเหนื่อย และไม่เล็กเกินไปจนรู้สึกอึดอัดไม่ต่างกับบ้านในเมือง บริเวณรอบบ้านร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่หลายต้น อาจารย์สันต์เล่าว่าพยายามจัดผังบ้านโดยเก็บต้นไม้เก่าให้มากที่สุดและไม่ใช่เพียงไม้เก่าอย่างเดียวเท่านั้นที่เก็บรักษาไว้
“ความพิเศษอีกอย่างของที่ผืนนี้คือมีหลองข้าวเก่าติดมากับที่ตรงด้านหน้าด้วย ตั้งใจไว้แต่แรกว่าจะเก็บไว้ และออกแบบบ้านหลังใหม่ให้ดูกลมกลืนกันการวางผังรวมไปถึงการออกแบบสัดส่วนตัวบ้านจึงอ้างอิงจากตำแหน่งและขนาดของหลองข้าวเดิมเป็นหลัก ทดลองจัดวางอยู่หลายแบบ จนสุดท้ายก็ได้ผังบ้านแบบที่เห็น”
ตัวอาคารของบ้านใหม่วางเป็นแนวราบเตี้ยๆ ส่วนที่เป็นห้องนอนและพื้นที่ส่วนตัวจัดวางหลบอยู่ด้านหลังหลองข้าว และให้พื้นที่นั่งเล่นเพื่อการพักผ่อนสังสรรค์วางขนาบที่ว่างตรงกลางซึ่งจะมองเห็นต้นไม้เดิม ทั้งลำไย พลับพลึง มะม่วง และไม้ผลอื่นๆ แผ่กิ่งก้านไปทั่ว ดูร่มรื่นสบายตา
“บ้านหลังนี้ออกแบบโดยคำนึงถึงว่าจะมีผู้ใหญ่มาอยู่ด้วย ระยะทางระหว่างห้องต่างๆ จึงต้องสั้นที่สุด จะเห็นว่าเมื่อเดินเข้าบ้านมาก็พบโถงทางเดินที่เชื่อมต่อกับทุกส่วน ทั้งห้องนอนคุณพ่อคุณแม่ที่มีห้องน้ำในตัว บันไดทอดตัวสู่ชั้นสองหรือจะเข้าไปสู่พื้นที่ครัว ส่วนรับประทานอาหาร และส่วนรับแขก เราสามารถเดินไปสู่ห้องต่างๆ ได้ด้วยระยะทางแค่ไม่กี่ก้าว”
การตกแต่งภายในของบ้านใช้สีขาวดูสะอาดตา แม้จะเป็นบ้านหลังเล็กๆที่ดูเรียบง่าย แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่ามีการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นวงกบหน้าต่างอะลูมิเนียมอบพ่นสีอย่างดี พื้นหินขัดเทอราซโซแบบไร้รอยต่อ หรือบานกระจกแบบพ่นทรายที่ทนทานกว่าแบบติดฟิล์ม ถือเป็นรายละเอียดที่เจ้าของบ้านไม่มองข้ามไปเลยสักจุดเดียว
“เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งในบ้านหลังนี้เป็นของเก่าเสีย 95 เปอร์เซ็นต์มาจากบ้านที่กรุงเทพฯและหอพัก ก่อนออกแบบได้วัดขนาดของเฟอร์นิเจอร์ทุกตัวรวมถึงกะขนาดพื้นที่สำหรับจัดวางข้าวของทุกชิ้น เพื่อจะได้นำไปจัดวางในแปลนได้อย่างพอดี เฟอร์นิเจอร์เก่าบางตัวก็ทำสีใหม่เป็นสีขาวบ้าง เพื่อให้ดูทันสมัยและเข้ากับบ้านมากขึ้น
“บ้านนี้ออกแบบให้ลมธรรมชาติพัดผ่านสบาย ขณะเดียวกันก็มีส่วนชายคาป้องกันฝนด้วย รายละเอียดบางส่วนยังได้ไอเดียมาจากผู้ช่วยศาสตราจารย์สุริยารัตนพฤกษ์ เช่น การทำบ้านยกสูงขึ้นจากพื้นประมาณ 1 เมตร เพื่อป้องกันปลวก ความชื้น และการทำรั้วโปร่งๆ โดยใช้ต้นไม้พื้นบ้านภาคเหนือที่ให้ความรู้สึกเป็นมิตรกับคนในชุมชน และช่วยให้ลมสามารถพัดผ่านเข้าออกได้ง่าย”
ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมบ้านที่ดูเรียบง่ายหลังนี้จึงมีรายละเอียดที่ลงตัวในทุกจุด แถมยังรู้สึกอยู่สบายกว่าบ้านหลังใหญ่บางหลังเสียด้วย นั่นเพราะได้สถาปนิกเก่งๆ มาช่วยกันออกไอเดียนั่นเอง ทีมงาน “บ้านและสวน” ทุกคนลงความเห็นว่า บ้านหลังนี้นอกจากมีบรรยากาศที่ดูอบอุ่นแล้ว ยังได้ความรู้สึกเย็นสบายอย่างไม่ต้องง้อเครื่องปรับอากาศเลยจริงๆ ขอยกให้เป็นบ้านตัวอย่างสำหรับผู้ที่กำลังตกลงใจไปลงหลักปักฐานในต่างจังหวัดซึ่งมีอากาศดี รายล้อมด้วยธรรมชาติ พร้อมมีคนที่รักอย่างคุณพ่อคุณแม่อยู่ใกล้ๆ ค่ะ
เรื่อง : กรวรรณ คันโธ
ภาพ : ฤทธิรงค์, ปิยะวุฒิ