บ้านรีโนเวตอายุกว่า 30 ปีที่เป็นส่วนผสมอันกลมกลืนระหว่างงานออกแบบกับศิลปะ เก่ากับใหม่ ร่วมสมัยกับย้อนยุค โดยหน้าตาของบ้านเด่นด้วยการโชว์ความงามของผิวสัมผัสวัสดุหลักอย่างปูน ไม้ กระจก และเหล็ก ทำให้บ้านดูสวยงามเหมือนงานศิลปะและกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ออกแบบ : A.D.G. Co., Ltd. โดยคุณพูนพงศ์ คงชาญศิริ / เจ้าของ : คุณธนัส ศิรางกูร
รีโนเวทบ้านโมเดิร์น
มนตร์สะกดและกลิ่นอายของบ้านเก่าอาจเป็นเสน่ห์ที่ต้องตาต้องใจใครหลายคน บ้านเก่าที่ข้ามผ่านกาลเวลาในอดีต หากนำมารีโนเวตใหม่ให้กลายเป็นบ้านที่ทันสมัย ก็สามารถโดนใจได้ทั้งผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือน บ้านที่เรากำลังกล่าวถึงนี้คือบ้านของ คุณยอ – ธนัส ศิรางกูร ซึ่งได้รับการออกแบบและตกแต่งตามแนวคิดสัจวัสดุ เน้นความโล่งและรูปทรงเรียบง่ายไม่ซับซ้อน สะท้อนความเป็นตัวตนที่แท้จริงของเจ้าของบ้านได้อย่างมีสไตล์ รีโนเวทบ้านโมเดิร์น
Living is Everything
บ้านเก่าอายุกว่า 30 ปี ขนาด 110 ตารางวาในย่านพระราม 9 ได้รับการแปลงโฉมให้ดูเท่ มีชีวิตชีวา และทันสมัยขึ้นอีกครั้ง ในบรรยากาศสไตล์โมเดิร์น มินิมัล และอินดัสเทรียลที่เข้ากันได้อย่างกลมกลืน คุณยอเล่าสาเหตุการตัดสินใจซื้อบ้านเก่ามารีโนเวตใหม่ว่าเป็นเพราะทำเลที่ตั้ง เขามีความคุ้นเคยและอาศัยอยู่ในละแวกนี้อยู่แล้ว จึงอยากหาซื้อบ้านในย่านนี้ สุดท้ายก็มาพบบ้านหลังนี้ที่มีองค์ประกอบค่อนข้างลงตัว เป็นบ้านเก่าที่มีกลิ่นอายอดีต มีหลายส่วนในบ้านที่คงอดีตไว้ ทั้งพื้นไม้ รั้วเหล็ก เสาปูนหล่อ ฯลฯ อีกทั้งยังมีรูปทรงตรงใจ เมื่อมองรูปทรงบ้านแล้วเขาเห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่จะแปลงโฉมใหม่บนฐานโครงสร้างเดิมได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
My Living Space
บ้านหลังนี้ประกอบด้วย 3 ห้องนอน มีฟังก์ชันห้องต่างๆ ครบครัน เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของคุณยอ ทั้งการเล่นกีตาร์ ปั่นจักรยาน จัดปาร์ตี้ ฯลฯ ส่วนไฮไลต์ที่ขาดไม่ได้คือ คอร์ตสวนหินกลางบ้านที่เปิดโล่งถึงชั้น 2 มีดาดฟ้าบนชั้น 3 สำหรับออกมานั่งรับลมชมวิวท้องฟ้ากรุงเทพฯยาม ค่ำคืน พิเศษกว่านั้นคือ การออกแบบให้ห้องรับประทานอาหารที่อยู่ชั้น 1 ห้องนั่งเล่นพร้อมส่วนแพนทรี่บนชั้น 2 และชั้นดาดฟ้า สามารถเดินเชื่อมต่อกันได้ด้วยบันไดด้านหลัง เพื่อรองรับการสังสรรค์ จนเพื่อน ๆ ต่างคุ้นเคยกับรหัสไม่ลับสำหรับการรวมตัวกัน นั่นคือ “Tanas’s Pub”
เมื่อเข้ามาภายในบ้านจะพบห้องโถงขนาดใหญ่เปิดโล่งถึงชั้น 2 มีฉากหลังเป็นมุมรับแขกและนั่งเล่นใต้โถงบันไดเหล็กสีดำ กรุผนังกระจกใสจากพื้นจรดเพดานล้อมรอบคอร์ตสวนหินกลางบ้าน แสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าช่วยสร้างแสงเงาที่น่าสนใจ ให้มุมต่าง ๆ ภายในบ้านมีบรรยากาศโปร่งโล่งสบาย ๆ โดยองค์ประกอบทั้งหมดนี้ได้เสริมให้ทั้งบ้านดูน่าอยู่ ซึ่งเจ้าของตั้งใจตกแต่งให้ดูเรียบง่ายมากที่สุด คุณยอเล่าให้เราฟังพร้อมกับโชว์รูปบ้านก่อนปรับปรุงเปลี่ยนโฉมใหม่ ซึ่งทำให้เราต้องร้องว้าว! บ้านหลังเก่ากับหลังใหม่ช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเสียจริง ๆ
“บ้านหลังนี้เคยสร้างเต็มพื้นที่ ต่อเติมและแบ่งซอยให้เป็นห้องย่อยเยอะจนค่อนข้างทึบ ไม่มีแสงสว่างเล็ดลอดเข้ามา และไม่มีความโปร่งโล่งเลย จึงเป็นอีกจุดที่พยายามปรับเปลี่ยนให้โปร่งสบายตาขึ้น
“ตอนเริ่มคุยกับสถาปนิก สิ่งแรกที่ผมต้องการคือ หน้าตาของบ้านจะต้องประกอบด้วยวัสดุหลักอย่างปูน ไม้ กระจก และเหล็ก ตรงกับการออกแบบที่ผมชอบคือ ใช้วัสดุเหล่านี้ในลักษณะที่มันเป็น ไม่บิดเบือน ปูนก็เป็นปูนเปลือยหรือไม่ก็ต้องทาสีขาวเท่านั้น ไม้ก็ใช้ไม้เนื้อสวยไม่เคลือบสี เน้นสีธรรมชาติของไม้เท่านั้น กระจกก็เป็นกระจกใสไม่เจือสี เหล็กสีดำหรือบางกรณีก็เป็นสีสเตนเลส”
นอกจากจะมี คุณหั่ง -พูนพงศ์ คงชาญศิริ สถาปนิก คอยดูแลให้คำปรึกษา คุณยอเองก็มีส่วนร่วมในการวางแปลน การจัดวางฟังก์ชันห้องต่าง ๆ และตำแหน่งทางเดินภายในบ้าน จนได้ผลผลิตเป็นคอร์ตสวนหินกลางบ้านที่โดดเด่น พื้นที่ชั้นล่างประกอบด้วยห้องรับแขก มุมโต๊ะทำงาน มุมดนตรีและศิลปะ มุมวางรองเท้าและจอดจักรยานคันโปรด สเปซภายในบ้านจัดสรรพื้นที่อย่างชัดเจนตามการใช้งานและไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้าน เนื่องจากไม่ได้กั้นห้อง พื้นที่ใช้สอยตามมุมต่าง ๆ และทางเดินจึงดูลื่นไหลมีความต่อเนื่องกัน โดยอัตโนมัติ ส่วนชั้น 2 ประกอบด้วยห้องนอน 2 ห้องและห้องนั่งเล่น เน้นการตกแต่งอย่างเรียบง่าย จัดวางเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่มีรูปทรงสวยสะดุดตา นอกจากนี้ยังเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนตกแต่งเพิ่มเติมในอนาคตด้วย
เมื่อถามถึงของสะสมภายในบ้าน คุณยอเล่าให้ฟังว่าส่วนใหญ่จะเป็นเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน เช่น เก้าอี้ โคมไฟ ฯลฯ ซึ่งเป็นของที่เคยใช้ช่วงที่เรียนและทำงานต่างประเทศ โดยจุดเริ่มต้นทั้งหมดเริ่มจากช่วงที่เขากำลังเรียนอยู่ที่สหรัฐอเมริกา วันหนึ่งเดินผ่านย่านร้านขายเฟอร์นิเจอร์เกิดสะดุดตากับเก้าอี้รูปทรงสวยทันสมัยและคลาสสิกตลอดกาลอย่าง Diamond Chair ออกแบบโดยดีไซเนอร์ Harry Bertoia จากนั้นก็เริ่มสะสมมาเรื่อย ๆจนเยอะขึ้นกลายเป็นของสะสมแสนรักและผูกพัน พอย้ายกลับมาอยู่เมืองไทยจึงนำของสะสม ทั้งหมดกลับมาด้วย
“แนวทางการแต่งบ้านทุกอย่างมาจากประสบการณ์ความชอบที่ได้เห็นได้สัมผัสมา เก็บมาจากที่ได้เดินทางไป ตามสถานที่ต่างๆ บ้านหลังนี้ใช้เวลาออกแบบและรีโนเวตใหม่ประมาณหนึ่งปีซึ่งก็คุ้มค่ากับการรอคอยครับ”
เราสังเกตเห็นสีหน้าและแววตาของคุณยอที่แสดงอารมณ์เปี่ยมสุขไม่น้อย เขากล่าวถึงความภูมิใจกับบ้านหลังนี้และอำลาส่งท้ายก่อนจากกันว่า “ผมคิดว่าใครก็ตามที่มีแนวคิดหรือแนวทางที่ชอบ หากได้ทุ่มเทเวลาสักนิด ไตร่ตรองมองตัวเองให้ชัด ไม่ว่าใครก็จะได้บ้านสวยเหมือนงานศิลปะ อยู่แล้วมีความสุขครับ”
พอได้พูดคุยและชื่นชมบ้านเท่ๆหลังนี้แล้ว ทำให้เรารู้สึกเหมือนโดนมนตร์สะกดไปกับเสน่ห์บ้านเก่าที่กลายเป็นบ้านใหม่ด้วยแนวคิดที่ไม่เหมือนใคร แล้วคุณล่ะ อยากลองเปลี่ยนแปลงบ้านหลังเก่าให้กลายเป็นบ้านหลังใหม่ ที่มากความสุขบ้างไหม รีโนเวทบ้านโมเดิร์น
เรื่อง : Sara’
ภาพ : ดำรง ลี้ไวโรจน์
สไตล์ : ประไพวดีโภคสวัสดิ์