ในแต่สัปดาห์ที่เราทำงานกันมาเหนื่อยๆ หรือบางทีก็ไม่ค่อยมีเวลาสักเท่าไร แต่จะปล่อยให้ฝุ่นเต็มบ้านก็ไม่ได้ต้องลุกขึ้นมาทำงานบ้านอยู่ดี โชคดีที่ยุคนี้เรามีตัวช่วยเป็น หุ่นยนต์ดูดฝุ่น มาช่วยปัดกวาดบ้านให้หลายรุ่นหลายแบรนด์จนเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว เพราะถึงจะเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเหมือนกัน แต่ก็มีหลายฟังก์ชันที่ตอบโจทย์คนใช้งานแต่ละคนได้แตกต่างกัน
ถ้าไม่รู้จะเลือกรุ่นไหน มาดูกันก่อนว่าจะซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่นสักตัวต้องพิจารณาอะไรบ้าง
1.ลักษณะและขนาดพื้นที่บ้าน
หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอาจไม่ได้เหมาะกับทุกบ้านหรือทุกห้อง ควรต้องมีพื้นราบเรียบ ไม่ต่างระดับมาก นอกจากนี้ต้องไม่มีสิ่งกีดขวางมากเกินไป เพราะเมื่อเซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวางได้ก็จะไม่เข้าไปพื้นที่นั้น ปัจจุบันหุ่นยนต์บางรุ่นสามารถเดินผ่านพื้นที่ต่างระดับได้ถึง 15 มิลลิเมตร มีเซ็นเซอร์กันตกจากที่สูงเพื่อป้องกันอันตรายต่อตัวเครื่องอยู่ด้วย
นอกจากนี้ยังต้องดูขนาดพื้นที่ว่ามากน้อยแค่ไหน อาจเน้นใช้งานในห้องโถงขนาดใหญ่ คอนโดหรือห้องนอนขนาดกะทัดรัดก็ต้องเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่ต่างกัน เพื่อให้มั่นใจว่าหุ่นยนต์จะวิ่งทำความสะอาดได้ทั่วถึงและไม่ทำงานหนักจนเกินไปด้วย
2.ดูดฝุ่นได้อย่างเดียว หรือถูพื้นได้ด้วย
ถึงจะบอกว่าเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่น แต่บางรุ่นก็มีความสามารถถูพื้นได้ โดยที่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นทั่วไปจะมีหน้าที่หลักคือ ดูดฝุ่นหรือเศษขยะชิ้นเล็กๆ ตามพื้น ข้อดีคือการดูแลรักษามีเพียงไม่กี่ขั้นตอน เมื่อทำความสะอาดเสร็จก็แกะกล่องเก็บฝุ่นไปเททิ้งเท่านั้น
สำหรับหุ่นยนต์แบบ 2in1 ที่ทั้งดูดฝุ่นและถูพื้นได้ภายในเครื่องเดียวจะมีถังสำหรับใส่น้ำมาให้ด้วย หลังจากดูดฝุ่นเรียบร้อย แค่ถอดกล่องเก็บฝุ่นออกแล้วใส่แท็งก์น้ำเข้าไปแทนที่ก็จะกลายเป็นหุ่นยนต์ถูพื้นได้ทันที
3.ขนาดของกล่องเก็บฝุ่น
หุ่นยนต์ดูดฝุ่นแต่ละรุ่นมีขนาดความจุไม่เท่ากัน ถ้าให้ดีก็ควรเลือกขนาดความจุมากไว้ก่อนเพราะไม่ต้องเสียเวลานำเศษขยะไปเททิ้งบ่อยๆ นั่นเอง ซึ่งปัจจุบันมีขนาดกล่องเก็บฝุ่นตั้งแต่ 200-800 มิลลิลิตร
4.ความจุแบตเตอรี
แบตเตอรี่ต้องมีความจุเพียงพอสำหรับการทำความสะอาดทั่วทั้งห้องได้อย่างทั่วถึง อย่างน้อยควรมีระยะการทำงานต่อเนื่องประมาณ 1 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง นอกจากนี้ควรมีระบบการวิ่งกลับแท่นชาร์จอัตโนมัติ เมื่อชาร์จเต็มแล้วสามารถกลับไปทำความสะอาดต่อได้เอง
5.เทคโนโลยี
เหตุผลที่คนซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่นก็เพราะว่าทำให้ชีวิตง่ายขึ้น ยิ่งมีเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกมากแค่ไหนก็ยิ่งน่าสนใจใช่ไหมล่ะ ซึ่งนอกจากฟีเจอร์พื้นฐานที่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นควรมี อย่างกลับแท่นชาร์จด้วยตัวเอง เทคโนโลยีหลบหลีกสิ่งกีดขวางตั้งเวลาทำงานล่วงหน้าได้ ยังมีฟังก์ชั่นอื่นๆ ที่เติมความฉลาดให้กับหุ่นยนต์ และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนได้มากกว่า บางทีการเลือกซื้อหุ่นยนต์อาจจะมาตัดสินกันที่ตรงนี้ นั่นก็คือ
- ทำความสะอาดตัวเองได้ ปกติแล้วพอใช้หุ่นดูดฝุ่นเรียบร้อยก็ต้องทำความสะอาดเครื่องต่อ เอาฝุ่นที่ถูกในเครื่องออกไปเท แต่หุ่นยนต์บางรุ่นฉลาดล้ำขึ้นไปอีก เพราะสามารถทำความสะอาดตัวเองได้ เพราะที่แท่นชาร์จจะมีแท็งก์ขนาดใหญ่ถึง 4,500 มิลลิลิตร ที่สามารถดูดฝุ่นจากตัวหุ่นยนต์มาเก็บเอาไว้ ทำให้ฝุ่นไม่อุดตันอยู่ในกล่องฝุ่นและfilter และทำให้กล่องฝุ่นมีพื้นที่ในการรองรับฝุ่นใหม่ที่จะดูดเข้าไป จึงสามารถดูดฝุ่นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยที่คนไม่ต้องถอดเอากล่องฝุ่นไปทิ้งด้วยตัวเองทุกวัน สัก 1-2 เดือนจะมาเปิดฝาแท็งก์เพื่อดึงถุงเก็บฝุ่นไปทิ้งก็ได้
- มีเซ็นเซอร์ที่สแกนพื้นที่ได้ทุกซอกทุกมุม ฝุ่นละเอียดแค่ไหนก็สามารถเก็บได้หมด และสามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้อย่างคล่องแคล่ว
- การควบคุมผ่านสมาร์ทโฟนโดยเชื่อมต่อง่ายๆ ผ่าน Wi-Fi สามารถแสดงแผนที่การทำงานภายในบ้านได้อย่างชาญฉลาด ติดตามและควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชันในมือถือได้ทุกที่ทุกเวลา
ลองพิจารณาเลือกหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ต้องการได้เลย น่าจะมีสักรุ่นที่ตอบโจทย์ทั้งหมดที่ว่ามานี่ได้ล่ะน่า
ช่องทางการติดต่อ Mister robot >> https://lin.ee/CG3onux