บ้านไม้ชั้นเดียวกลางสวน ในบรรยากาศสุดแสนร่มรื่น มีชีวิตชีวา
บ้านไม้ชั้นเดียวกลางสวน

บ้านไม้ชั้นเดียวกลางสวนแสนร่มรื่น

บ้านไม้ชั้นเดียว ที่เลือกใช้โครงสร้างแบบง่ายๆ โดยออกแบบให้เปิดโล่งเปิดรับบรรยากาศสวนแสนร่มรื่น ส่วนการตกแต่งภายในส่วนใหญ่ใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว เน้นที่ทำจากไม้และหวาย ซึ่งดูเข้ากับโครงสร้างไม้ของตัวบ้าน

เจ้าของ- ออกแบบ : คุณผจงกิติ์  เหล่าเราวิโรจน์

บ้านไม้ชั้นเดียวกลางสวน 

หลายสิ่งหลายอย่างบนโลกใบนี้เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและโดยธรรมชาติ บ้านหลังนี้ก็เช่นกัน คุณผจงกิติ์ เหล่าเราวิโรจน์ เจ้าของบ้านได้เข้ามาบุกเบิกที่ดินขนาด 30 ไร่ในจังหวัดขอนแก่นที่ คุณพ่อคุณแม่ของเธอซื้อไว้เมื่อประมาณหลายสิบปีก่อน โดยในตอนนั้นถูกทิ้งให้เป็นป่าหญ้าสูงท่วมหัว มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่ไม่กี่ต้น อีกทั้งอยู่ห่างไกลความเจริญ ที่สำคัญสภาพดินไม่เหมาะกับการเพาะปลูกพืชชนิดใดเลย เพราะใต้ดินส่วนใหญ่กลายเป็นจอมปลวก ทว่าด้วยความมุ่งมั่นของคุณผจงกิติ์ เพียงไม่กี่สิบปีที่ดินผืนนี้ก็กลับมาอุดมสมบูรณ์เหมือนผืนป่าน้อยๆ พร้อมกับ บ้านไม้ชั้นเดียวกลางสวน หลังเล็กที่น่าอยู่หลังนี้

บ้านไม้ชั้นเดียวกลางสวน

บ้านไม้ชั้นเดียวกลางสวน

คุณผจงกิติ์รักการปลูกต้นไม้มาตั้งแต่เด็กๆ จึงนำสิ่งนี้มาลองผิดลองถูกในที่ดินของเธอ แม้จะมี ธุรกิจส่วนตัวอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่เธอก็มักหาเวลาว่างช่วงเสาร์อาทิตย์ทยอยนำมูลวัวมาอัดให้แน่นเต็มพื้นที่ เพื่อฟื้นฟูสภาพดิน จากนั้นก็ค่อยๆ ปลูกแตงโม แคนตาลูป และขยับขยายกลายเป็นสวนหน่อไม้ฝรั่ง ดอกกุหลาบ ​เฮลิโคเนีย มะม่วงน้ำดอกไม้ ฯลฯ สลับสับเปลี่ยนกันไปจนกลายเป็นธุรกิจเล็กๆในเวลาต่อมา

มุมนั่งเล่น
มุมนั่งเล่นตรงชานบ้านภายใต้โครงสร้างหลังคาที่มุงกระเบื้องซีเมนต์ลูกฟูก ซึ่งเป็นวัสดุที่หาง่ายในท้องถิ่น และก็ดูสวยงามด้วย
มุมนั่งเล่น
มุมนั่งเล่นนี้ยกพื้นไม้ขึ้นประมาณ 10 เซนติเมตร แยกจากทางเดินบนชานบ้านให้เป็นสัดส่วน รวมทั้งป้องกันไม่ให้ส่วนนี้เปียกเวลาฝนตกด้วย
ส่วนรับประทานอาหาร
ส่วนรับประทานอาหารและครัวใต้กระเบื้องหลังคาไฟเบอร์ลูกฟูกโปร่งแสงที่ทำให้พื้นที่นี้สว่างได้โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้าในตอนกลางวัน

มุมนั่งเล่น

ระหว่างที่ทุ่มเทกับการทำสวน เมื่อยามที่รู้สึกเหนื่อยล้าอยากจะพักก็กลับไม่มีพื้นที่ให้ผ่อนคลายเลย คุณผจงกิติ์จึงเริ่มมองหาพื้นที่นั่งเล่นและพักผ่อน ตามมาด้วยบ้านพักหลังเล็กๆ แม้เธอจะไม่ได้มีความรู้ด้านการออกแบบ แต่กับบ้านหลังนี้เธอเลือกใช้โครงสร้างแบบง่ายๆ เป็น บ้านไม้ชั้นเดียว ที่เธอออกแบบด้วยตัวเอง โดยกำหนดให้ส่วนรับแขกและครัวอยู่นอกบ้าน ภายในบ้านมีพื้นที่นั่งเล่นก่อนเข้าสู่ห้องนอนและห้องน้ำ การตกแต่งภายในส่วนใหญ่ใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว เน้นที่ทำจากไม้และหวาย ซึ่งดูเข้ากับโครงสร้างไม้ของตัวบ้าน รวมถึงนำไม้ไผ่และของสะสมสมัยก่อนมาเป็นส่วนตกแต่งด้วย แต่ที่เราประทับใจที่สุดคือห้องอาบน้ำที่อยู่ด้านในสุด ภายในมีการแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจน ส่วนอาบน้ำมีลักษณะคล้ายกับการอาบน้ำฝนภายใต้ร่มไม้ใหญ่ เพราะหลังคาเป็นแบบโปร่งใส จึงมองเห็นธรรมชาติโดยรอบ และมีฝักบัวแบบเรนชาวเวอร์ที่เดินท่อน้ำอย่างง่ายๆเป็นส่วนเดียวกับโครงสร้างหลังคา ทำให้การอาบน้ำกลายเป็นช่วงเวลาของการผ่อนคลายทั้งกายและใจ

มุมนั่งเล่น
ภายในบ้านเน้นให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากที่สุด จึงเลือกใช้ประตูและหน้าต่างลูกฟักกระจกโดยรอบ
ห้องน้ำ
อ่างล้างหน้าแบบตั้ง ติดเพิ่มอีกจุดหน้าห้องอาบน้ำ เพื่อความคล่องตัวและรองรับการใช้งานเล็กๆ น้อยๆ
ห้องนอน
เตียงนอนไม้สี่เสาทรงโบราณ เหมาะกับห้องที่มีฝ้าเพดานสูง โครงไม้ติดม่านโปร่งโดยรอบ ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวและผ่อนคลาย
ห้องอาบน้ำ
ห้องน้ำบริเวณส่วนแห้ง เล่นระดับและสีสันที่พื้น หลังคาโปร่งใสทำให้บรรยากาศภายในห้องไม่อับทึบ
ห้องอาบน้ำ
ส่วนอาบน้ำที่ให้บรรยากาศคล้ายการอาบน้ำฝนในสวน

สำหรับพื้นที่รอบบ้าน คุณผจงกิติ์ค่อยๆใช้เวลาว่างหลังจากธุรกิจไม้ดอกไม้ผลเริ่มอยู่ตัวสักระยะ เริ่มปลูกไม้ใหญ่เพิ่มในพื้นที่ โดยปลูกตั้งแต่ยังเป็นต้นเล็กๆ เช่น สะเดา ไกร หรือไทร เกือบ 20 ปีต่อมา ต้นไม้เหล่านี้ก็เติบโตและปกคลุมเต็มพื้นที่ เปลี่ยนให้พื้นที่ที่เคยรกร้างมีความร่มรื่นและสดชื่นเป็นอย่างมาก

ทางเดินจงกรม
ทางเดินจงกรมปูหินกรวดธรรมชาติเรียงสลับสีเป็นลวดลายในแนวยาว สำหรับให้คุณยายเดินรักษาอาการเท้าชา
ผนังห้องครัวเป็นปูนซีเมนต์หยาบๆ จึงฝังอิฐมอญลายดอกจันวางสับหว่างกันเพื่อสร้างความน่าสนใจ

บ้านไม้ชั้นเดียวกลางสวน

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากับการที่คุณผจงกิติ์ใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติทำให้เธอเรียนรู้และเข้าใจธรรมะ (ชาติ) ที่แท้จริง และด้วยบรรยากาศอันสงบร่มเย็นภายใน พื้นที่รอบๆ ที่เหมาะอย่างยิ่งกับการปฏิบัติธรรม เธอจึงได้สร้างพื้นที่ไว้รองรับผู้ที่สนใจศึกษาธรรมะได้เข้าร่วมฝึกปฏิบัติธรรมด้วย นอกจากได้รู้สึกดีกับการเห็นบ้านที่น่าอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันร่มรื่นโดยรอบแล้ว คุณผจงกิติ์ยังทำให้เราได้เข้าใจธรรมะไปพร้อมกันด้วย เพราะการอยู่อย่างเรียบง่ายตามวิถีธรรมชาติช่วยทำให้จิตใจของเรามีความสงบ และในไม่ช้าความสุขก็จะตามมาเอง


เรื่อง : รุ่งนภา มงคลนิตย์

ภาพ : ศุภกร ศรีสกุล

บ้านเล็กในป่าใหญ่

บ้านไม้ชั้นเดียวที่เน้นความโปร่งโล่งแบบไทย และอยู่อย่างสมถะแบบญี่ปุ่น