บ้านตากอากาศ ริมทะเลหาดหัวหิน มองไปเห็นเขาตะเกียบอยู่ไม่ไกล คือโปรเจ็กต์รีโนเวต บ้านตากอากาศ เก่าอายุกว่า 50 ปีให้ดูร่วมสมัย ตอบรับการใช้งานมากขึ้น โดยยังคงกลิ่นอายในวันวานไว้
เจ้าของ: คุณสงาม เจริญรัถ และครอบครัว
ออกแบบ: Araya Kubota Architect
“ความท้าทายคือพอเป็นบ้านเก่ามีโจทย์ที่ว่าออกแบบอย่างไรให้ดูร่วมสมัย แต่ยังคงบรรยากาศแบบเดิมไว้ ทำให้เราตีความใหม่ในเรื่องของการใช้วัสดุ”
ใครกันเป็นคนกำหนดว่า “ทะเล” ควรไปเฉพาะหน้าร้อน…จริง ๆ แล้วทะเลหน้าหนาวก็น้ำใส สวยสงบไม่แพ้กัน เพราะทะเลประเทศไทยสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี หากมีบ้านตากอากาศริมทะเลสักหลังไว้หนีไปพักผ่อน นอนฟังเสียงคลื่นชิลๆ อิงแอบธรรมชาติก็คงจะดีไม่น้อยเลย
เช่นเดียวกับบ้านตากอากาศหลังนี้ที่ตั้งอยู่ริมหาดหัวหิน ติดกับเขาตะเกียบในระยะเดินไปถึง เรามีนัดกับเจ้าของบ้าน ผู้ซึ่งควบทั้งตำแหน่งสถาปนิก ตกแต่งภายใน และออกแบบภูมิสถาปัตยกรรม ที่อาสาเข้ามาปรับโฉมบ้านพักตากอากาศอายุกว่า 50 ปีของครอบครัวให้ดูทันสมัย พร้อมกับเติมเต็มบรรยากาศแห่งการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่
“เดิมทีหลังนี้เป็นบ้านเก่าอายุ 50 ปี ที่มีเจ้าของคือคุณยาย เมื่อก่อนก็ใช้เป็นบ้านพักตากอากาศของครอบครัวเวลามาเที่ยวหัวหิน พอเวลาผ่านไปบ้านก็เริ่มทรุดโทรม เราเลยคุยกันว่าอยากรีโนเวตให้บ้านดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงบรรยากาศแบบเดิมๆ ไว้”
บ้านเก่าแต่ยังเก๋า
ด้วยความที่บ้านเดิมคุณยายเป็นคนออกแบบไว้ในลักษณะของบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ทรงไทยพื้นถิ่นริมทะเลตามสมัยนิยม มีการยกใต้ถุนสูงเพื่อให้ลมทะเลสามารถพัดผ่านได้ พื้นที่ใต้ถุนนี้จึงเป็นเสมือนหัวใจของบ้านที่เมื่อมาเยือนครั้งใดก็จะใช้เป็นพื้นที่ให้ทุกคนได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน ไม่ว่าจะนั่งเล่นพูดคุย ทำอาหาร รับประทานข้าวเย็นด้วยกัน ส่วนชั้นบนก็ไว้ใช้สำหรับพักผ่อน แม้ว่าเวลาผ่านมากว่า 50 ปีแล้วแต่โครงสร้างเดิมยังคงสภาพดีอยู่
จัดการสเปซเพื่อเปิดมุมมอง
เมื่อตัดสินใจปรับโฉมบ้านใหม่ ส่วนของงานโครงสร้างจึงไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่เน้นไปที่การจัดการสเปซบางส่วนให้เอื้อต่อการพักผ่อน เติมเต็มสุนทรียภาพ พร้อมเปิดมุมมองไปยังทัศนียภาพโดยรอบ
เริ่มจากการปรับพื้นที่ใช้งานบางส่วน อย่างชั้นล่างซึ่งเดิมทีเป็นใต้ถุนที่บรรจุสองห้องนอนและห้องเก็บของ ซึ่งเมื่อมองออกไปยังทะเล ห้องเก็บของนี้กลับปิดกั้นวิวทะเลเมื่อมาถึง จึงเลือกที่จะทุบห้องเก็บของออกแล้วกั้นพื้นที่ใหม่ด้วยประตูบานเฟี้ยมและประตูกระจกที่สามารถเปิด-ปิดเมื่อต้องการ ปรับเปลี่ยนพื้นที่เป็นห้องแอร์ หรือจะเปิดรอบทิศทางเพื่อรับลมทะเลและวิวแบบพานอรามา กลายเป็นห้องนั่งเล่นกึ่งเอ๊าต์ดอร์ที่มีความยืดหยุ่นพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง
บ้านพักตากอากาศสองวิว
ใช้ประโยชน์จากทำเลที่ตั้งในการออกแบบระเบียงที่มีคาแร็กเตอร์ต่างกัน โดยระเบียงฝั่งทิศตะวันตกเป็นวิวภูเขาและสวน มองดูดวงอาทิตย์ตกลับหลังเขาในยามเย็น ส่วนฝั่งทิศตะวันออกเป็นวิวทะเลหัวหินแบบสุดลูกหูลูกตา จึงเลือกออกแบบให้ดูโปร่งสบาย ด้วยหลังคากันสาดที่กรุแผ่นพอลิคาบอเนตใส ซ้อนเลเยอร์ด้วยผ้าช่วยลดความแข็งกระด้างของโครงสร้างและกรองแสงไปในตัว
“ใหม่ในเก่า” สไตล์ร่วมสมัย
ภายใต้โจทย์ที่ว่า “ทำอย่างไรให้บ้านดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงบรรยากาศแบบเดิมๆ ไว้” ซึ่งนอกจากการเก็บของเดิมไว้ให้มากที่สุดแล้ว ก็ยังนำมาสู่การตีความเรื่องการใช้วัสดุเพื่อเชื่อมโยงบรรยากาศและกลิ่นอายบางอย่างโดยพื้นชั้น 2 และส่วนของระเบียงยังคงเป็นพื้นไม้มะค่าเดิม การทาสีใหม่ด้วยสีขาวทั้งหลังเพิ่มความอบอุ่นด้วยงานไม้สีอ่อน และส่วนสำคัญที่ช่วยปรับลุคของบ้านเลยคือการเปลี่ยนกระเบื้องหลังคาจากเมทัลชีตเป็นกระเบื้องซีเมนต์รูปว่าวสีขาวภายใต้ทรงจั่วเช่นเดิม ทำให้ได้กลิ่นอายของบ้านสไตล์โคโลเนียลที่ได้รับอิทธิพลมาจากยุคสมัยที่บ้านตากอากาศของหัวหินรุ่งเรือง
เมื่อพื้นที่ใช้งานและสไตล์ของบ้านลงตัวแล้ว ที่ขาดไม่ได้เลยคือการเติมเต็มบรรยากาศผ่านการตกแต่ง ซึ่งผู้ออกแบบเลือกใช้กระเบื้องดินเผาจากแม่ริมที่สื่ออารมณ์ถึงความเก่า โดยนำมาจัดแพตเทิร์นใหม่ให้ดูทันสมัยมากขึ้นในส่วนของเคาน์เตอร์ พร้อมกับเลือกเฟอร์นิเจอร์จากวัสดุธรรมชาติอย่างไม้จริงและหวายให้ดูกลมกลืนไปกับบริบท
“เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่เลือกมาก็เลือกให้เป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติรอบ ๆ ดูกลมกลืนกัน ไม่แย่งซีนทะเล”
แม้ว่ารูปลักษณ์และบรรยากาศของบ้านจะเปลี่ยนไปเพียงใด แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปเลยคืออารมณ์ ความทรงจำ และความรู้สึกอบอุ่นใจทุกครั้งที่สมาชิกทุกคนในครอบครัวได้กลับมาใช้เวลาร่วมกันที่ “บ้านลูกปลา” บ้านที่ตั้งชื่อตามชื่อคุณแม่หลังนี้ แม้จะมาเพียงปีละ 3-4 ครั้งก็ตาม
ไอเดียการเปลี่ยนของเก่าให้ดูใหม่ เข้าสมัย
1.เก็บของเดิมเอาไว้ หากเปลี่ยนราวกันตกเป็นกระจกใสเห็นวิวแบบเต็มตาก็ได้ แต่เลือกที่จะเก็บราวกันตกไม้เดิมไว้ แล้วทาสีขาวที่ดูโปร่งและทันสมัยขึ้นแทน
2.กระเบื้องดินเผาสั่งพิเศษจากแม่ริม เลือกสีฟ้าเพื่อให้รู้สึกใกล้ชิดกับทะเล ซึ่งในแต่ละล็อตจะมีสีคละกัน จึงนำมาเรียงแพตเทิร์นใหม่ดูโมเดิร์น จับคู่กับไม้จริงให้กลิ่นอายของวันวาน
3.เก็บทรงจั่วเดิมไว้ แต่เปลี่ยนจากมุงด้วยเมทัลชีตเป็นแผ่นกระเบื้องซีเมนต์รูปว่าว สีขาวก็ช่วยปรับลุคให้ดูโมเดิร์นได้ไม่ยาก
4.ศาลาไม้ริมทะเล ที่เรียกว่าเป็นศาลาแห่งความทรงจำ เพราะอยู่ตั้งแต่สร้างบ้าน เลือกเอาหลังคาเดิมออก ทาสีใหม่ แล้วเพิ่มลูกเล่นด้วยผ้าขาวโปร่งช่วยกรองแสงและลดความแข็งกระด้างของโครงสร้าง
5.บานหน้าต่างของห้องน้ำเก่า นำมาจัดจังหวะใหม่กับบานกรอบไม้เป็นผนังกระจกเต็มบานที่ทำให้สเปซดูโปร่งโล่ง
เรื่อง: บราลี
ภาพ: นันทิยา บุษบงค์
สไตล์ : วรวัฒน์ ตุลยทิพย์
