ชมทะเลหมอกในสวนป่าที่ไม่มีน้ำตกของคาเฟ่ ก้านทอง ติ่มซำ

สวนป่าส่วนใหญ่ที่เราเห็นมักมีน้ำตกและลำธารเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้ แต่สวนป่าที่จะพาไปชมในครั้งนี้กลับไม่มีทั้งน้ำตกและลำธาร หากยังคงความร่มรื่นและน่าตื่นตาตื่นใจไม่ด้อยไปกว่าสวนไหน ๆ เป็นสวนที่อัดแน่นไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่กว่า 20 ต้นในพื้นที่เพียงแค่ 250 ตารางเมตร และยังมีทะเลหมอกที่จะเห็นในสวนได้ไม่บ่อยนัก และสวนนี้อยู่ในหมู่บ้านจัดสรรกลางเมืองอยุธยาครับ

เจ้าของ : คุณพงษ์ธร – คุณอารฎา เขมภาคิน

ออกแบบ : Ayothaya Landscape โดยคุณทิวา อ่อนสุวรรณ โทรศัพท์ 09-2684-9835

“ผมซื้อที่ผืนนี้ไว้เมื่อปี 2554 ครับ เป็นที่ดินเปล่าแปลงเดียวที่อยู่ด้านหน้าของโครงการบ้านจัดสรรแห่งนี้ ตอนนั้นเขาตั้งราคาไว้สูงมากคงเพราะไม่อยากขาย ผมเองก็อยากได้มากเพราะอยู่ติดกับบ้านแม่ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ติดต่อขอซื้ออยู่นานจนได้มาครอบครองในที่สุด แรกเลยตั้งใจจะปลูกเป็นเรือนหอ จนช่วงที่โควิด – 19 ซาลง ผมสังเกตว่าคนเริ่มออกมาเที่ยวกันเยอะ ออกมาใช้จ่ายกันมากขึ้น เลยคิดอยากทำร้านอาหาร ก็ถมหินคลุกทำเป็นลานจอดรถเตรียมไว้ แต่ในที่สุดก็ไม่ได้เปิดร้าน เลยเปลี่ยนแผนใหม่อยากลองจัดสวนเอง อยากลองหาอะไรทำ ผมเป็นคนที่ทำอะไรแล้วก็อยากสนุกกับมันให้เต็มที่ครับ ไปดูต้นไม้ตามที่ต่าง ๆ เจอ ชอบ ซื้อ ซึ่งเป็นต้นไม้ใหญ่ ๆ ทั้งนั้น ให้ร้านต้นไม้มาปลูกให้โดยอาศัยความคิดตัวเองเป็นหลัก อยากปลูกตรงไหนก็ปลูกโดยที่ไม่มีความรู้เรื่องต้นไม้เลย จนแฟนท้วงว่าต้นไม้ที่ซื้อเริ่มเยอะเกินไปแล้ว ทำเป็นสวนให้สวย ๆ แล้วเปิดเป็นร้านอาหารหรือคาเฟ่ไปเลยดีกว่า” คุณบุ๊ง – พงษ์ธร เขมภาคิน เริ่มเล่าถึงที่มาของสวนแห่งนี้ให้ฟัง

เพราะสวนนี้ไม่มีน้ำตกและลำธาร คุณต้องจึงตั้งใจเลือกใช้ระบบพ่นหมอกแบบอัลตราโซนิกที่ทำให้เกิดหมอกในระดับต่ำเรี่ยไปตามผิวดินดูคล้ายกับลำธาร หรืออาจมองเป็นทะเลหมอกก็ได้ สร้างความเคลื่อนไหวไม่ให้สวนดูนิ่งจนเกินไป

“ผมเริ่มมองหาคนมาจัดสวนให้ จนไปเจอ Ayothaya Landscape เห็นชื่อก็สนใจเลยครับ เพราะ อยู่อยุธยาเหมือนกัน เลยโทร.หา คุณต้อง – ทิวา อ่อนสุวรรณ ทันที หลังจากได้คุยกัน ได้เห็นผลงานบางส่วนก็ยิ่งชอบ คุณต้องเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงคล้าย ๆ กัน เลยอยากลองให้โอกาสดู หลังจากที่ได้คุยกันผมก็ยังคงตระเวนซื้อต้นไม้ไปเรื่อย ๆ พาคุณต้องไปดูต้นไม้ที่ผมซื้อแล้วฝากร้านไว้ ยิ่งวันที่เขาเอาต้นไม้ใหญ่มาลงผมยิ่งมั่นใจ ยิ่งเชื่อมือครับ ไม่ถามเลยว่าจะจัดสวนเป็นแบบไหน ทำอะไรตรงไหน ปลูกต้นอะไรบ้าง ปล่อยให้เขาทำเต็มที่ไปเลยครับ”

ทำทางเดินกว้างเพื่อให้เดินสวนกันได้สะดวก สองข้างทางออกแบบเป็นเนินดินสูงปลูกต้นไม้เขียวครึ้ม จำลองบรรยากาศให้รู้สึกเหมือนเดินอยู่ท่ามกลางหุบเขา

โดยปกติเราจะคุ้นตากับสวนป่าตามสไตล์ที่คุณต้องถนัด แต่เมื่อพิจารณาโดยละเอียดแล้ว สวนป่าแห่งนี้มีหลายอย่างที่ต่างออกไปจากงานของคุณต้องที่เราเคยเห็นครับ

“พื้นที่เดิมเป็นพื้นหินคลุกโล่ง ๆ มีต้นไม้ใหญ่ปลูกไว้ 4-5 ต้นครับ ความท้าทายแรกคือต้นไม้ใหญ่ที่เจ้าของซื้อเก็บไว้กว่า 20 ต้น เราจะนำมาปลูกตรงไหนอย่างไรในพื้นที่ 250 ตารางเมตรนี้ เราไปตระเวนดูต้นไม้ที่คุณบุ๊งซื้อเก็บไว้ เจอต้นไหนสวยก็ซื้อเพิ่มกันมาอีก (หัวเราะ) ต้นไม้เดิมที่ปลูกไว้ก่อนแล้วบางต้นผมว่าตำแหน่งยังไม่ใช่ เช่น ต้นสูงพอ ๆ กันปลูกบังกัน หรือบางต้นที่ฝังตุ้มดินลึกเกินไปซึ่งอาจทำให้เน่าตายได้ ก็ต้องขยับย้ายที่ปลูกใหม่ ผมต้องปลูกไม้ใหญ่ทั้งหมดให้เสร็จภายในวันเดียวโดยที่ไม่มีแปลนครับ อาศัยดูตำแหน่งปลูกที่หน้างานเลย เพราะ ต้นไม้ใหญ่จำนวนมากมาจากหลายร้าน ต้องทำงานแข่งกับเวลา ใช้รถเครนขนาดใหญ่คันเดียว ค่อย ๆ ปลูกทีละต้น จัดคิวว่าต้นไหนปลูกตรงไหน ให้รถหกล้อที่ขนต้นไม้ทยอยกันเข้ามาครับ บางร้านมีหลายต้นก็ต้องวนรถไปรอก่อน

ชั้นลอยด้านบนของอาคารตั้งใจให้เป็นบ้านต้นไม้ โครงสร้างทำด้วยเหล็กแข็งแรง ปูพื้นด้วยไม้เก่า อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญที่สามารถขึ้นไปชมสวนในมุมสูงได้
เฟินสไบนาง เฟินเขากวาง เฟินข้าหลวงที่นำมาห้อยตามกิ่งต้นไม้ใหญ่เพื่อช่วยลดทอนพื้นที่ว่างระหว่างต้นไม้ใหญ่ที่สูงมากกับต้นไม้ที่อยู่ด้านล่าง อีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยให้สวนดูร่มครึ้มคล้ายป่าธรรมชาติ

“คอนเซ็ปต์ของสวนนี้คืออยากให้ดูร่มรื่น ให้อารมณ์ป่าแบบหนังจูราสสิค พาร์ค หลังจากลงต้นไม้ใหญ่ทั้งหมด ก็ค่อย ๆ คิดว่าจะทำอะไรต่อ คิดที่หน้างานไปทีละจุดครับ ทางเดินในสวนผมอยากให้รู้สึกเหมือนเดินอยู่ในหุบเขา เลยถมดินเป็นเนินทั้งสองข้างของทางเดิน ทำทางเดินให้กว้างเพราะอยากให้เดินสวนกันได้สะดวก เลือกใช้แผ่นหินขนาดใหญ่ปูเป็นทางเดิน เพื่อให้สัมพันธ์กับต้นไม้ในสวนที่มีขนาดใหญ่ แต่ถ้าใช้แผ่นหินจริงก็จะมีราคาสูงและหายาก เลยตัดสินใจทำเป็นหินแกรนิตเทียมตามที่ได้ไปเรียนมาจากอาจารย์เลอสรร สุดใจ ที่นี่เป็นสวนแรกที่ผมใช้หินเทียมขนาดใหญ่แบบนี้ครับ

“ผมให้ความสำคัญกับสวนนี้มาก ๆ ครับ เพราะเป็นสวนแรกที่ไม่มีน้ำตกลำธาร ทุกอย่างจะดูเรียบง่าย ดังนั้น ต้องมีอย่างอื่นมาทดแทนไม่ให้รู้สึกด้อยไปกว่าสวนที่มีน้ำตก ผมนำเครื่องพ่นหมอกแบบอัลตราโซนิกมาใช้ที่นี่เป็นที่แรก วางกระจายอยู่ทั่วสวนเน้นบริเวณทางเดินเป็นพิเศษ หมอกที่พ่นออกมาจะอยู่ต่ำระดับผิวดินไหลเรี่ยไปกับพื้น ให้อารมณ์เหมือนลำธาร หรือจะมองเป็นทะเลหมอกก็ได้นะครับ ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวในสวน

ขอนไม้ใหญ่กลางภาพที่เห็นคือต้นตาลที่มีลำต้นทอดเอนปลูกเด่นอยู่กลางสวน เป็นต้นที่เจ้าของชอบมากและเป็นหนึ่งในไม่กี่ต้นที่ไม่ถูกเคลื่อนย้าย รายล้อมด้วยไม้ใหญ่น้อยหลากหลาย ตั้งใจให้เป็นซุ้มต้นไม้ที่เปรียบได้กับหลังคาของสวน
ไฮไลต์สำคัญของสวนแห่งนี้คือต้นไม้ขนาดใหญ่มากกว่า 20 ต้นที่ปลูกรวมกันอยู่ในพื้นที่ที่ค่อนข้างจำกัด บรรจงปลูกทีละต้น หมุนตำแหน่งกิ่งก้านไม่ให้พุ่มใบบังทับกัน ทุกต้นคุณต้องไม่ได้เลือกซื้อมาเองและไม่เคยเห็นมาก่อน จึงเป็นความท้าทายในด่านแรกของการเริ่มจัดสวน

“ผมเลือกใช้ไม้ใบสีเขียวเป็นส่วนใหญ่ แต่เลือกชนิดที่ใบมีขนาดใหญ่ เช่น ฟิโลหูช้าง เสน่ห์จันทร์แดง รวยทรัพย์ มีทรัพย์ เพราะอยากให้เห็นเด่นสะดุดตา และด้วยความที่ต้นไม้มีขนาดใหญ่มากด้วยครับ ถ้าเราเลือกใช้ชนิดที่ใบมีขนาดเล็กก็จะไม่บาลานซ์กัน จากนั้นก็ลงไม้ระดับกลาง แล้วค่อยมาเก็บไม้เล็ก ๆ ระดับล่างอีกที ใช้ไม้คลุมดินน้อยชนิด อาจเห็นแค่หนวดปลาดุก กนกนารี และมอสส์ เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ค่อนข้างร่ม มีข้อจำกัดในการเลือกชนิดพันธุ์ไม้ และไม่สามารถปลูกไม้ดอกได้ ผมยังเพิ่มพวกเฟินข้าหลวง เฟินเขากวางเกาะห้อยตามต้นไม้ใหญ่ เพื่อช่วยลดทอนพื้นที่ว่างระหว่างไม้ใหญ่กับไม้ด้านล่างด้วยครับ”

ด้านในมุมหนึ่งของสวนยกสเต็ปให้มีลูกเล่น ปูพื้นด้วยไม้หมอนรถไฟขนาดใหญ่พิเศษ ซึ่งคุณบุ๊งไปหาซื้อมาตามคำขอของคุณต้อง และใช้ไม้หมอนรถไฟไซซ์เดียวกันทำเป็นม้านั่งยาว เป็นมุมนั่งเล่นที่เห็นบรรยากาศสวนได้โดยรอบ

สวนนี้เป็นการทำงานร่วมกันของเจ้าของและผู้ออกแบบก็ว่าได้ ทั้งคุณบุ๊งและคุณต้องช่วยกันเลือกต้นไม้ ฟังก์ชันต่าง ๆ ในสวน ไม่ว่าจะเป็นชั้นลอยของอาคารที่เปรียบเหมือนบ้านต้นไม้ มุมถ่ายรูปต่าง ๆ รวมไปถึงดีไซน์ของตัวอาคารรอบๆ สวน คุณผู้อ่านสามารถแวะไปชมทะเลหมอกในสวนป่าได้ที่ “คาเฟ่ ก้านทอง ติ่มซำ” จังหวัดพระนครศรีอยุธยาครับ


เรื่อง : วชิรพงศ์ หวลบุตตา

ภาพ : ฤทธิรงค์  จันทองสุข