9.การเลือกบริษัทผู้จำหน่ายและติดตั้ง มีข้อพิจารณาอย่างไร
มี 8 ข้อควรพิจารณาประกอบการตัดสินใจ ดังนี้
1.บริษัทมีความน่าเชื่อถือ มีความมั่นคงที่จะอยู่กับเราไปถึงอายุรับประกันสินค้าที่ 25 ปี ซึ่งอาจพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น รีวิวจากลูกค้า ประวัติการให้บริการ ประวัติผู้บริหาร ทุนจดทะเบียน การจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มีศูนย์บริการ
2.สเป็กของอุปกรณ์ได้มาตรฐาน โดยแผงโซลาร์เซลล์ควรเป็นระดับ Tire 1 และอินเวอร์เตอร์ต้องผ่านการรับรองจากการไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
3.มีการเข้าสำรวจหน้างาน เพื่อความแม่นยำ และเตรียมแก้ปัญหาในการติดตั้ง
4.วิธีการติดตั้งที่ได้มาตรฐานโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ มีระบบการติดตั้งที่มั่นคงแข็งแรง มีระบบป้องกันการรั่วซึมที่ดี และมีทีมช่างของบริษัท
5.การรับประกันผลิตภัณฑ์และบริการ การรับประกันมักสะท้อนถึงคุณภาพสินค้าและบริการ จึงควรเปรียบเทียบแต่ละบริษัทเพื่อความมั่นใจ
6.ราคา คุ้มค่าและเหมาะสมตามความต้องการ บางบริษัทสามารถผ่อนชำระได้นาน 60 เดือน
7.มีบริการหลังการขาย ควรสอบถามรายละเอียดให้ชัดเจน ค่าใช้จ่าย ขั้นตอนการบริการ และสามารถติดต่อได้ง่ายหรือมีศูนย์บริการอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง
8.มีบริการยื่นขออนุญาตให้ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและมั่นใจว่าการติดตั้งมีความปลอดภัยตามมาตรฐานของการไฟฟ้า
10. เจ้าของบ้านต้องเตรียมข้อมูลอะไรบ้าง
เจ้าของบ้านควรเตรียมข้อมูลดังต่อไปนี้
- วัตถุประสงค์ในการติดตั้ง
- บิลค่าไฟย้อนหลัง บางบริษัทขอดู 1-3 เดือน บางบริษัทขอดู 6 เดือน – 1 ปี เพื่อประเมินการใช้ไฟโดยเฉลี่ย
- สัดส่วนการใช้ไฟช่วงกลางวันและกลางคืน
- ระบบไฟที่ใช้อยู่เป็น 1 เฟส หรือ 3 เฟส
- แบบโครงสร้างบ้าน และแบบไฟฟ้า แต่ถ้าไม่มีสามารถให้ทีมงานเข้าไปสำรวจได้
- วัสดุมุงหลังคา และหลังคาหันไปทางทิศใด
- ตำแหน่งที่อยากติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ การมีเงาบังจากสิ่งรอบข้าง เพื่อนำมาพิจารณาร่วมกัน
- ระบบที่ต้องการติดตั้ง ได้แก่ ออนกริด ออฟกริด หรือไฮบริด หรือให้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ
11.บริษัทมีขั้นตอนการดำเนินการอย่างไรบ้าง
เมื่อโทรศัพท์คุยและส่งข้อมูลกับทางทีมงานตามช่องทางการติดต่อแล้ว จะมีการนัดเข้าสำรวจหน้างานเพื่อตรวจสอบ วิเคราะห์ และพิจารณาแนวทางการแก้ปัญหา จากนั้นจึงประเมินราคาให้ อาจมีบริการสำรวจหน้างานฟรี หรือมีค่าบริการสำรวจหน้างานเล็กน้อยซึ่งหักคืนได้เมื่อติดตั้ง หรือตามแต่ข้อกำหนดของบริษัท โดยมีสิ่งที่ต้องตรวจสอบ คือ
- หลังคาต้องรับน้ำหนักได้ไม่น้อยกว่า 20 กิโลกรัม/ตารางเมตร
- เช็กหลังคาว่าสามารถติดตั้งได้ มีองศาเหมาะสม มีพื้นที่เพียงพอ
- ทิศทางมีความเหมาะสม โดยทิศที่เหมาะที่สุดคือทิศใต้ เนื่องจากสามารถได้รับแสงแดดตลอดทั้งวัน
- เงาตกกระทบที่อาจเกิดขึ้น เพื่อนำมาออกแบบการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่เหมาะสม
- ตำแหน่งตู้ไฟและพื้นที่ติดตั้งอินเวอร์เตอร์ อุปกรณ์ และแนวการเดินสาย
- เช็กเฟสไฟของมิเตอร์ไฟ
- เช็กจำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้งานหนัก เช่่น ปั๊มน้ำ ขนาดเครื่องปรับอากาศ
Tips : แผงโซลาร์เซลล์สามารถติดตั้งกับหลังคาได้ทุกแบบ แต่หลังคาโค้งมากๆ ควรพิจารณาเป็นพิเศษ เพราะองศาการรับแดดจะไม่เท่ากัน อาจส่งผลให้ประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าน้อยลง
12.ข้อควรระวังในการติดตั้งมีอะไรบ้าง
การติดตั้งแต่ละพื้นที่มีปัจจัยแตกต่างกัน โดยมีตัวอย่างที่ควรระมัดระวัง เช่น
- พื้นที่หลังคา ทิศ และองศาของหลังคาอาจไม่อำนวยต่อการติดตั้ง ทำให้การผลิตไฟฟ้าบางช่วงไม่เต็มที่ ซึ่งบริษัทผู้ติดตั้งจะวางแผนแนวทางแก้ไขมาก่อน และแจ้งเจ้าของบ้านหากมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้า
- โครงสร้างบ้านชำรุดหรือไม่แข็งแรงพอ มักเกิดกับบ้านเก่า ซึ่งต้องให้บริษัทผู้ติดตั้งเข้าไปสำรวจและประเมิน จากนั้นทำการซ่อมแซมหรือเสริมโครงสร้างก่อนจึงจะติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ได้
- พื้นที่ติดตั้งอินเวอร์เตอร์และอุปกรณ์ควรอยู่สูง ไม่เสี่ยงต่อกรณีเกิดน้ำท่วม
- การรั่วซึมของหลังคา หากติดตั้งไม่ได้มาตรฐาน อาจเกิดการรั่วซึมในอนาคตได้
13.อายุการใช้งานนานเท่าไร
อายุการใช้งานขึ้นอยู่กับแบรนด์และคุณภาพของอุปกรณ์ที่ติดตั้ง โดยพิจารณาจากการรับประกัน ยิ่งรับประกันนานก็สะท้อนถึงคุณภาพสินค้าและอายุการใช้งาน ซึ่งแปรผันตามราคา มักมีการแยกรับประกันเป็นส่วนๆ จึงต้องพิจารณาประกอบการตัดสินใจ เช่น
- ตัวแผงโซลาร์เซลล์ 10-12 ปี หรือบางแบรนด์ก็รับประกันถึง 25 ปี
- ประสิทธิภาพแผงโซลาร์เซลล์ (การผลิตไฟฟ้าของแผง) ส่วนมากรับประกัน 25 ปี
- อินเวอร์เตอร์ 5-10 ปี
- อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ 1-2 ปี
- การติดตั้งและการรั่วซึม 1-3 ปี
- บริการหลังการขาย ตรวจสอบระบบและล้างแผง 1-3 ปี
14.การดูแลรักษาทำอย่างไร
โดยปกติควรล้างแผงโซลาร์เซลล์อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง ตามสภาพของพื้นที่ติดตั้ง ซึ่งกรณีมีฝุ่นมาก มีเขม่า หรือมีไอน้ำมันมาก อาจพิจารณาล้างแผงบ่อยขึ้น เพื่อคงสภาพกำลังการผลิตไฟให้ดีที่สุด ซึ่งในปีแรกๆจะมีบริการตรวจสอบระบบและล้างแผงรวมอยู่ในแพ็กเกจแล้ว หลังจากนั้นสามารถซื้อแพ็กเกจเพิ่ม หรือล้างแผงเองแล้วเรียกช่างมาดูเป็นครั้งคราวก็ได้
15.ปัญหาที่อาจเจอเมื่อใช้งานไปนานๆ
ในปัจจุบันยังไม่มีเคสที่ติดตั้งโซลาร์เซลล์จนถึงอายุรับประกัน 25 ปี แต่ผู้ผลิตมีการรับประกันว่าเมื่อครบปีที่ 25 แผงจะยังผลิตไฟฟ้าได้ไม่ต่ำกว่า 80% (ขึ้นอยู่กับการรับประกันของแต่ละราย) ซึ่งแปลว่าเจ้าของบ้านยังคงใช้งานไปได้เรื่อยๆอาจจะเกิน 30 ปี แต่เชื่อว่าเทคโนโลยีในอนาคตจะพัฒนาขึ้นมาก ซึ่งในตอนนั้นการพิจารณาเปลี่ยนแผงใหม่อาจจะคุ้มค่ากว่าก็เป็นได้ ปัจจุบันพบปัญหาจากการใช้งานทั่วไป เช่น
- การผลิตไฟฟ้าลดลง เนื่องจากมีฝุ่นเกาะหนา
- การเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่นขัดข้อง ซึ่งมักเกิดจากสัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่เสถียร หรือมีการเปลี่ยนสัญญาณอินเทอร์เน็ต ซึ่งอาจต้องเชื่อมต่อเข้ากับอินเวอร์เตอร์ใหม่
- อุปกรณ์จะมีการเสื่อมไปตามสภาพการใช้งาน
16.แผงโซลาร์เซลล์มีโอกาสเกิดไฟไหม้ได้ไหม
แผงโซลาร์เซลล์ก็เหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป ซึ่งหากการผลิตและการติดตั้งไม่ได้มาตรฐานก็มีโอกาสเกิดไฟไหม้ได้ โดยสาเหตุหนึ่งของไฟไหม้แผงโซลาร์เซลล์ คือ การผลิตไฟฟ้าของแต่ละแผงไม่เท่ากัน แผงที่ผลิตได้น้อยก็จะเป็นภาระกับแผงอื่น ทำให้เกิดความต่างศักย์ไฟฟ้าสูง เป็นจุดด้อยของเทคโนโลยีในอดีต แต่ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน บริษัทผู้ผลิตและผู้ติดตั้งต่างให้ความมั่นใจว่ามีโอกาสเกิดน้อยมาก และมีอุปกรณ์ป้องกันที่ตัดการทำงานหากมีความผิดปกติเกิดขึ้น อีกทั้งในการติดตั้งจะมีการตรวจสอบตามมาตรฐานจากการไฟฟ้า ซึ่งเจ้าของบ้านก็สามารถระมัดระวังได้ ด้วยการเลือกใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน มีการติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ บริษัทผู้ติดตั้งมีประสบการณ์น่าเชื่อถือ และมีการขออนุญาตถูกต้อง
ขอบคุณข้อมูล
- บริษัท RAAY จำกัด : มุ่งเน้นให้บริการในกลุ่มลูกค้าที่อยู่อาศัย ลูกค้ารายย่อย และครัวเรือน ให้คำปรึกษาและติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์บนหลังคา เช่น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด อพาร์ตเมนต์ ร้านค้า และร้านอาหาร ด้วยแผงโซลาร์เซลล์คุณภาพสูงผลิตอยู่ในประเทศไทยโดยเฉพาะจาก บริษัท โซล่า พีพีเอ็ม จำกัด ติดต่อใช้บริการได้ที่ https://raaygroup.com/ https://www.facebook.com/RAAYGROUP Line : @raay โทรศัพท์ 06-4239-4771
- SCG Solar Roof Solutions : ติดต่อใช้บริการได้ที่ www.scgbuildingmaterials.com/th/solution/solar-roof หรือหน้าร้าน SCG HOME Experience, SCG Home Solution, SCG Roofing Center และ SCG Home บุญถาวร ทั่วประเทศ โทรศัพท์ SCG HOME Contact Center 0-2586-2222
- A SOLAR : ติดต่อใช้บริการได้ที่ www.asolar.co.th โทรศัพท์ 0-2108-8599 โดยมีศูนย์บริการที่เกษตรนวมินทร์, อุดรธานี, เชียงใหม่, พัทยา, นครราชสีมา, ภูเก็ต และโฮมโปร 7 สาขา (พระราม 9, เมกา บางนา, บางนา กม. 1, รามอินทรา, ราชพฤกษ์, แฟชั่นไอส์แลนด์, ขอนแก่น)
- GRoof by Gunkul : ติดต่อใช้บริการได้ที่ www.gunkulroof.com โทรศัพท์ 0-2242-5839, 09-5490-9999
คอลัมน์ Home Expert นิตยสารบ้านและสวน พ.ค.65
เรื่อง : ศรายุทธ ศรีทิพย์อาสน์
ภาพประกอบ : เอกรินทร์ พันธุนิล
ภาพ cover : บริษัท RAAY จำกัด
วิธีติดตั้ง เครื่องสูบน้ำโซลาร์เซลล์ สำหรับพื้นที่ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง