บ้านและสวนแฟร์ 2022
28 ต.ค. - 6 พ.ย. 2565
อิมแพ็ค เมืองทองธานี

The Edible Balcony ฟาร์มผัก บนระเบียงเล็กๆ

ปลูกสมุนไพรฝรั่งตามเดือนเกิด

สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ก็คือ ผู้ปลูกจำเป็นต้องรู้เรื่องการเตรียมดินที่เหมาะสม รวมถึงวิธีเพาะเมล็ด ย้ายกล้าบำรุงรักษา เมื่อปลูกได้สำเร็จก็สามารถเรียนรู้เทคนิคการขยายพันธุ์เพื่อเพิ่มปริมาณต้นให้เหมาะสมกับชนิดพืช

ดาวน์โหลดปฎิทินปลูกสมุนไพรฝรั่งตามเดือนเกิด

วิธีเพาะเมล็ด

เตรียมอุปกรณ์ที่ใช้

• วัสดุเพาะ ได้แก่ ทรายละเอียด พีตมอสส์ อย่างละ 1 ส่วน

• ถาดหลุมสำหรับเพาะเมล็ด

• เมล็ดพันธุ์

• กระดาษหนังสือพิมพ์ที่ซับน้ำและระบายน้ำได้

• ป้ายชื่อ

ขั้นตอนการเพาะเมล็ด

1. เตรียมวัสดุเพาะที่มีส่วนผสมของทรายละเอียดและพีตมอสส์ คลุกเคล้าให้เข้ากัน

2. ใส่วัสดุเพาะลงในถาดหลุม เกลี่ยให้เรียบ แล้วใช้นิ้วหรือแท่งดินสอทำหลุมตื้น ๆ

3. หยอดเมล็ดพันธ์ลุ งในหลุม หลุมละประมาณ 10 เมล็ด (1 หยิบนิ้ว)

4. กลบวัสดุเพาะทับเมล็ดบาง ๆ หรือหนาเพียงหนึ่งเท่าของขนาดเมล็ดพันธุ์หากกลบหนาเกินไปอาจทำให้เมล็ดเน่าอัตราการงอกต่ำ

5. ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ปิดด้านบนรดน้ำให้ชุ่ม ทิ้งให้สะเด็ดน้ำ

6. ติดป้ายระบุชื่อพืชและวันที่เพาะ นำถาดไปวางในที่ร่มและมีหลังคากันฝน ดูแลรดน้ำทุกวันจนเมล็ดงอก ประมาณ 1 เดือนก็พร้อมย้ายปลูก

สูตรดินปลูกสมุนไพรฝรั่ง

ดินปลูกที่เหมาะสำหรับสมุนไพรฝรั่งทั่วไปควรมีคุณสมบัติ คือ โปร่ง ร่วนซุย ระบายน้ำและอากาศได้ดีไม่เปียกและอุ้มน้ำอยู่ตลอดเวลา แต่สามารถกักเก็บความชื้นไว้ได้พอสมควร มีค่าความเป็นกรด – ด่าง (pH) ประมาณ 5.5 – 7 และสิ่งสำคัญคือต้องไม่เป็นแหล่งสะสมโรคและแมลง จึงจำเป็นต้องปรุงดินหรือวัสดุปลูกให้มีสภาพเหมาะสมเสียก่อน โดยใช้วัสดุปรับปรุงดินที่หาได้ง่าย ราคาถูก และมีธาตุอาหารตรงตามที่พืชต้องการ ได้แก่ กาบมะพร้าวสับ แกลบดิบ แกลบเผา ปุ๋ยคอก อย่างละ 1 ส่วน

ปลูกตามเดือน ตรงตามฤดูกาลจะได้กล้างามแข็งแรง

ในความเป็นจริงเราสามารถปลูกสมุนไพรฝรั่งได้แทบทุกที่ในทุกเดือน เพียงแต่ต้อง“ทำความรู้จักและเข้าใจ” สมุนไพรฝรั่งชนิดต่าง ๆ ที่ต้องการปลูกให้ดีเสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นลักษณะนิสัยการเจริญเติบโต ปัจจัยสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง ก็จะพบว่าการปลูกสมุนไพรฝรั่งไม่ใช่เรื่องยาก

มกราคม

Wild Arugula ไวลด์ ร็อกเก็ต

มีกลิ่นหอมกว่า อลูกูล่า ร็อกเก็ต ใบมีลักษณะหยัก มีรสชาติเผ็ด โดยสามารถรับประทานเมื่อมีขนาดตั้งแต่ 2 นิ้ว ดอกมีสีเหลืองสามารถนำมารับประทานได้เช่นกัน และยังสามารถนำมาใช้ประดับตกแต่งเพิ่อความสวยงาม โดยที่ไวลด์ ร็อกเก็ตอาจมีอายุยืนนานเฉพาะในบางพื้นที่

อายุเก็บเกี่ยว ต่อเนื่อง

กุมภาพันธ์

Tarragon (Russian) ทาร์รากอน

1 ใน 4 ของสุดยอดสมุนไพรที่ให้คุณค่าทางอาหารต่อร่างกายสูงโดยยกย่อง “ทาร์รากอน” ว่าเป็น “ราชาแห่งสมุนไพร” ทาร์รากอนเป็นพืชล้มลุก ต้นสูง 2 ฟุต ใบมีกลิ่นหอม โดยก้านและใบสดจะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวและมีรสเผ็ดร้อน นิยมนำไปคลุกปลา ไก่ เนื้อและอื่นๆ นึ่งเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมหรือนำไปใช้ทำน้ำสลัดก็ได้รับความนิยม

อายุเก็บเกี่ยว สามารถเก็บได้ต่อเนื่อง

มีนาคม

Parsley triple moss อิตาเลียนพาร์สลีย์ (ใบหยิก)

ใบมีลักษณะม้วนงอลึกและมีสีเขียวเข้ม นิยมนำมาใช้ประดับตกแต่งอาหารมากกว่าอิตาเลียนพาร์สลีย์ (ใบบาน) และมีคุณสมบัติทนความร้อนสูง

อายุการเก็บเกี่ยว 70 วัน

Parsley Italian Flat Leaf อิตาเลี่ยนพาร์สลีย์ (ใบแบน)

ใบลักษณะแบน ให้กลิ่นที่จัดจ้านกว่าอิตาเลียนพาร์สลี่ย์ (ใบหยิก) มักนำมาใช้ประกอบอาหาร โดยใบที่มีสีเขียวเข้มและกว้างอาจนำมาตัดซ้ำ ๆ ได้ โดยสามารถนำมาใช้ได้ทั้งแบบใบสดและใบแห้ง ต้นของอิเตาเลี่ยนพาร์สลีย์มีความสูงประมาณ 6-8 นิ้ว

อายุการเก็บเกี่ยว 72 วัน

เมษายน

Organic Italian Basil โหระพาอิตาเลียน

เป็นพืชที่ปลูกได้ง่ายสามารถเจริญเติบโตได้ทั้งในสวนแบบเปิดโล่งหรือการปลูกสมัยใหม่ที่นิยมปลูกภายในอาคารไม่ว่าจะรูปแบบของตะกร้าปลูกหรือในภาชนะขนาดเล็ก โดยพยายามให้พืชได้สัมผัสกับแสงสว่างและอากาศที่อบอุ่น ด้วยกลิ่นที่หอมหวานเหมือนมะนาวของโหระพา นอกจากนี้กลิ่นของโหระพายังช่วยขับไร่เพลี้ย ไร และหนอนใบไม้ให้ห่างจากสมุนไพรและพืชชนิดอื่นของคุณอีกด้วย

อายุการเก็บเกี่ยว 70 วัน

พฤษภาคม

Peppermint เปปเปอร์มินต์ 

เป็นพืชสวนสมุนไพรมีความสูงประมาณ 18-24 นิ้ว สามารถนำมาใช้ได้ทั้งแบบสดและแห้ง โดยนำมาใช้ทำชา ลูกกวาด เครื่องดื่ม และเครื่องหอม บรรเทาอาการท้องไส้ปั่นป่วนและอาหารไม่ย่อยได้ดี ช่วยคลายกล้ามเนื้อเรียบของลำไส้ จึงแก้ปวดท้องได้ เมนทอลช่วยละลายเสมหะและน้ำมูก

อายุการเก็บเกี่ยว ต่อเนื่อง

Spearmint สเปียร์มินต์

เป็นพืชอายุยืนยาวสูง 2 ฟุต เป็นพืชสายพันธุ์ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด สเปียร์มินต์มีรสชาติและกลิ่นฟรุตตี้แบบผลไม้ สกัดหลายรูปแบบรวมทั้งสกัดด้วยไอน้ำ ทำเป็นน้ำมัน “อโรมาออยล์”

อายุเก็บเกี่ยว 60 วันขึ้น

มิถุนายน

Rosemary โรสแมรี่

เป็นพืชสมุนไพรไม้ประดับที่มีความเขียวชอุ่ม มีลักษณะเป็นฟุ่มขนาดเล็กสามารถปลูกในกระถาง มีความสูงประมาณ2ฟุต ใบมีความเรียวแหลม สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงอาหารสำหรับอาหารประเภทเนื้อได้ เนื้อสัตว์ และอาหารทะเล อัตราการงอกมักต่ำกว่า50%

อายุเก็บเกี่ยว ต่อเนื่อง

กรกฎาคม

Water Cress วอเตอร์เครส

เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่อากาศเย็นหรือมีน้ำไหลเย็นผ่าน และสามารถเติบโตได้ในพื้นดินที่มีความชุ่มชื้น โดยสามารถปลูกได้ทั้งในสวนและในกระถางต้นไม้ วอเตอร์เครสมีคุณค่าทางอาหารที่สูง ดีต่อสุขภาพ

อายุเก็บเกี่ยว 50 วัน

Organic Spinach-Bloomsdale ปวยเล้ง

มีใบสีเขียวเข้ม มันวาว และหนา เป็นไม้ล้มลุกฤดูเดียว ใบออกเรียงสลับ รูปรีถึงใบหอกเป็นผักที่มีความกรุบกรอบรสชาติอร่อย มีโอกาสเกิดภาวะผักยืดที่ต่ำ มีทั้งธาตุเหล็กบำรุงเลือด แคลเซียม บำรุงกระดูก โพแทสเซียมที่ช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจและความดันเลือดวิตามินซีป้องกันหวัด วิตามินบี 2 ช่วยในการเจริญเติบโต

อายุการเก็บเกี่ยว 45 วัน

สิงหาคม

Sorrel Red Veined ซอร์เรล

เป็นพืชล้มลุก คงามสูง 1-2 ฟุต ใบมีรสชาติคล้ายมะนาวสามารถนำมาใช้เป็เครื่องเทศ เครื่องปรุงรสในน้ำซุป ทำสลัด หรือปรุงอาหาร มีวิตามินซีสูง เป็นหนึ่งในผักที่นิยมทานใบอ่อน หรือใส่ในเมนูสลัดเพราะใบซอร์เรลจะมีรสชาติเปรี้ยว

อายุเก็บเกี่ยว 45 วัน

กันยายน

Organic Oregano ออริกาโน

มีอายุยืนยาว ขนาดประมาณ 2.5 นิ้ว มีกลิ่นฉุน ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ ดอกสีชมพูม่วงเป็นพืชพื้นเมืองในเขตอบอุ่น ออริกาโน่เป็นเครื่องปรุงสำคัญในอาหารอิตาลีใส่ในพิซซาซอส และอาหารจานหลักนิยมใช้แบบแห้งมากกว่าแบบสดและสามารถนำไปใช้ทำซอสปรุงรสหรือปรุงในน้ำซุปได้ทั้งแบบแห้งและสด

อายุการเก็บเกี่ยว 90 วัน

ตุลาคม

Organic Dill ผักชีลาว

ผักชีลาวเป็นพืชสมุนไพร ลำต้นมีสีเขียวเข้มขนาดเล็กลักษณะใบเป็นใบประกอบแบบขนนกมีสีเขียวสดออกเรียงสลับกัน ดอกมีขนาดเล็กสีเหลืองเป็นช่อ ระยะเวลาการปลูกประมาณ65วัน วันเมื่อโตจะมีความสูงประมาณ3ฟุต โดยให้กลิ่นหอมทั้งจากก้าน ใบ และยอด

อายุการเก็บเกี่ยว 65 วัน

พฤศจิกายน

Lavender-Commonenglish อิงลิชลาเวนเดอร์

เป็นพืชสมุนไพรที่มีความสูง 50-60 ซม. ลักษณะการเจริญเติบโตเป็นไม้พุ่ม เริ่มออกดอกเมื่ออายุประมาณ 6 เดือนขึ้นไป และเจริญเติบโตเต็มที่อายุ 2 ปี ลำต้นสีเขียว มีดอกสีม่วงที่มีกลิ่นหอม มีสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยลดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ใช้สกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย ช่วยให้ผ่อนคลายจากความเครียด

อายุเก็บเกี่ยว 180 วันขึ้นไป

ธันวาคม

Chamomile-German คาโมมายล์ เยอรมัน 

ลำต้นจะไม่มีขน มีความสูงประมาณ 60 ซม. มีดอกสีขาวและส่งกลิ่นหอม พันธุ์เยอรมันจะมีสารคามาซูลูนที่ให้น้ำมันรสชาติคาโมมายล์ปริมาณมากกว่าพันธุ์โรมัน สรรพคุณช่วยรักษาและบรรเทาอาการอักเสบ เจ็บปวดใช้ผสมชงเป็นชาได้ทั้งดอกแห้งและสด รสชาติหวานคล้ายแอปเปิ้ล เป็นสมุนไพรที่ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

อายุเก็บเกี่ยว 75 วัน

Chamomile-Roman คาโมมายล์ โรมัน

เป็นสมุนไพรยืนต้นขนาดเล็ก เก็บเกี่ยวและงอกใหม่ได้ง่ายสามารถเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี ลำต้นมีขนบางๆ มีความสูงเพียง 20-25 ซม. มีดอกไม้สีขาวมีกลิ่นหอมรสชาติหอมหวานคล้ายแอปเปิ้ลช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนและอาการปวดต่างๆ ได้ บรรเทาอาการไข้หวัด ใช้เป็นสมุนไพรสำหรับการบำบัดด้วยกลิ่นหอม  ซึ่งจะช่วยให้ผ่อนคลาย ลดอาการวิตกกังวล นอนหลับสบายได้เป็นอย่างดี สามารถปลูกคลุมดินเป็นสวนได้ มีส่วนช่วยขับไล่ศัตรูพืชและแมลง

อายุเก็บเกี่ยว 75 วัน

ดูแลสมุนไพรฝรั่ง

แสง

สมุนไพรฝรั่งส่วนใหญ่ชอบแสงแดด ควรได้รับแสงอย่างน้อยครึ่งวันหรือไม่น้อยกว่าวันละ 5 – 6 ชั่วโมง ก่อนปลูกควรสังเกตทิศทางของแสงแดดในแต่ละฤดูกาลเพื่อนำข้อมูลมาวางแปลนสวน แปลงปลูกควรอยู่ในแนวทิศเหนือ – ใต้ เพื่อให้ต้นได้รับแสงเพียงพอ แต่หากพื้นที่บังคับให้ต้องวางแปลงตามแนวทิศตะวันออก – ตกแก้ไขได้ด้วยการทำแปลงรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสแทนได้

แสงที่เหมาะสมคือแสงช่วงเช้าหรือช่วงบ่ายที่ไม่แรงนัก ถ้าต้นได้รับแสงมากเกินไปใบมักจะกร้าน ไม่สดใส อาจมีอาการใบไหม้ ต้นไหม้ตายได้ แต่ถ้าแสงน้อยเกินไป อาจทำให้วัสดุปลูกชื้นแฉะ จนรากไม่เจริญงอกงาม ต้นไม่โต หรือเกิดโรคเน่าตายได้เมื่อต้นยังเล็กไม่ควรปลูกในที่แสงจัดจ้าที่ส่องมาโดนต้นโดยตรง ควรพรางแสงให้ลดลงเหลือ 60 – 70 เปอร์เซ็นต์ หรือเป็นแสงที่ผ่านการกรองจากร่มไม้ก็ได้

น้ำ

สมุนไพรฝรั่งไม่ชอบดินแฉะ ไม่เช่นนั้นอาการรากเน่ามักจะมาหา เทคนิคที่แนะนำคือ ให้ดูสภาพดินเป็นหลักรอให้แห้งแล้วค่อยรดน้ำ รวมถึงพิจารณาเรื่องฤดูกาลมาประกอบด้วย ดังนี้

ช่วงฤดูร้อน อากาศร้อนและแห้ง น้ำที่ผิวดินระเหยเร็วจึงต้องเพิ่มการให้น้ำและไม่ควรให้ต้นสัมผัสแสงแดดโดยตรง ควรเป็นแสงที่ผ่านการกรองแล้ว อาจไปตั้งไว้ ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ให้ได้แสงเพียงครึ่งวันก็พอ และไม่ควรเลี้ยงในที่ร่มเกินไป เพราะจะทำให้กลิ่นสมุนไพรจางลง

ช่วงฤดูฝน อากาศมีความชื้นสูง ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ต้นโดนน้ำฝน เพราะจะทำให้ต้นเน่าตายได้ ควรให้น้ำแค่วันละครั้งในวันที่ฝนไม่ตก และงดให้น้ำในวันที่ฝนตก

ช่วงฤดูหนาว อากาศร้อนและแห้ง ให้น้ำวันละครั้งในตอนเช้า และหมั่นสังเกตไม่ให้วัสดุปลูกแห้งเกินไป

ปุ๋ย

สามารถให้ปุ๋ยเม็ดละลายช้าสูตรเสมอ โดยใส่เพียงเล็กน้อยประมาณครึ่งช้อนชาต่อกระถางขนาด 6 – 8 นิ้ว หากต้องการใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อเร่งใบ ควรใช้ปุ๋ยละลายช้าสูตรที่มีไนโตรเจนสูง ปุ๋ยละลายช้ามีข้อดีคือ มีเปลือกหุ้มคอยควบคุมการละลายไม่ต้องระวังว่าความเข้มข้นของเม็ดปุ๋ยจะไปทำลายโคนต้น จึงสะดวกและเหมาะกับการผลิตต้นพันธุ์เพื่อการค้า

นอกจากนี้อาจผสมปุ๋ยคอกเก่าหรือปุ๋ยคอกที่ผ่านการหมักแล้วกับวัสดุปลูกเมื่อเปลี่ยนกระถาง ถ้าไม่แน่ใจว่าปุ๋ยคอกที่นำมาใช้เป็นปุ๋ยคอกเก่าหรือไม่ ให้นำปุ๋ยคอกมากองไว้แล้วรดน้ำหมักชีวภาพ (EM) คลุมผ้าทิ้งไว้สักหนึ่งสัปดาห์ค่อยนำมาใช้

keyboard_arrow_up