8 บ้านสำเร็จรูปมีหลายระดับราคา
บ้านสำเร็จรูปในท้องตลาดพอจะแบ่งได้ 3 ระดับราคา เพื่อให้เจ้าของบ้านจะเลือกให้เหมาะสมตามความต้องการและวัตถุประสงค์การใช้งาน
- บ้านราคาประหยัด ราคาตารางเมตรละ 13,000 – 15,000 บาท มีการใช้วัสดุ และการเก็บความเรียบร้อยของงานอยู่ในระดับปานกลาง เหมาะกับร้านค้า บ้านที่ไม่ได้อยู่ประจำ และบ้านที่เน้นประหยัดงบประมาณ
- บ้านคุณภาพมาตรฐาน ราคาตารางเมตรละ 20,000 – 22,000 บาทขึ้นไป มีการใช้วัสดุ และการเก็บความเรียบร้อยที่ดี มีมาตรฐานสูง เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีความคงทน สวยงามไม่ต่างจากบ้านที่ก่อสร้างด้วยวิธีปกติ เหมาะกับร้านค้า ร้านอาหาร และบ้านที่อยู่อาศัยประจำ
- บ้านคุณภาพ Luxury ราคาตารางเมตรละ 29,000 – 33,000 บาทขึ้นไป มีการเก็บความเรียบร้อยที่ดี มีมาตรฐานสูง และมีการใช้วัสดุหรืออุปกรณ์รูปแบบพิเศษ เหมาะกับร้านค้า และบ้านที่มีความต้องการพิเศษ
9 ก่อนการติดตั้ง/ก่อสร้างบ้านสำเร็จรูป เจ้าของบ้านต้องเตรียมอะไรบ้าง
การเตรียมพื้นที่สำหรับติดตั้งหรือก่อสร้างของแต่ละบริษัทจะคล้ายๆกัน คือ
- ปรับพื้นที่ให้เรียบร้อย สำหรับพร้อมก่อสร้าง กำจัดสิ่งกีดขวางออก เช่น ต้นไม้ใหญ่
- เตรียมน้ำและไฟฟ้า สำหรับใช้ในการก่อสร้าง แต่ถ้าเป็นที่ดินที่เพิ่งซื้อมา หรือยังไม่มีระบบน้ำและไฟฟ้าเลย เจ้าของบ้านต้องเป็นผู้ติดต่อขอมิเตอร์ไฟฟ้าชั่วคราวมาไว้ให้ ซึ่งขอได้ง่าย เพียงไปติดต่อที่การไฟฟ้าฯ ในพื้นที่ ใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ก็จะมาติดตั้งให้ หรืออาจใช้วิธีติดต่อขอใช้ไฟฟ้าจากเพื่อนบ้านก็ได้ ส่วนการเตรียมน้ำใช้ในการก่อสร้าง ให้มีจุดต่อระบบน้ำดีที่ไม่ไกลจากจุดก่อสร้างมากนัก (ไม่เกินประมาณ 30 เมตร)
10 สัญญาว่าจ้างก่อสร้าง เจ้าของบ้านควรรอบคอบในเรื่องอะไร
สัญญาว่าจ้างก็คือข้อตกตลงระหว่างเจ้าของงบ้านกับบริษัท จึงควรตรวจสอบ และสอบถามให้เข้าใจก่อนดำเนินการ ซึ่งจะสามารถใช้อ้างอิงต่อไปได้
- ระยะเวลาการก่อสร้างและขนส่ง ต้องมีกำหนดระยะเวลาชัดเจน
- งวดการชำระเงิน ต้องแบ่งเป็นงวดชัดเจน ตามข้อตกลงของแต่ละบริษัท เช่น ชำระเงินมัดจำ 50%ก่อนเริ่มการผลิต และ 50% เมื่อตรวจรับบ้านเรียบร้อยแล้ว
- แบบบ้านถูกต้อง ในระหว่างการออกแบบบ้าน อาจมีการปรับแก้ไขรายละเอียดต่างๆ เมื่อสรุปแบบก่อสร้างเสร็จแล้ว เจ้าของบ้านควรตรวจสอบแบบก่อสร้างบ้านที่แนบอยู่ในสัญญาอย่างละเอียดอีกครั้ง หากมีข้อสงสัยควรสอบถามบริษัทให้ชัดเจน เพราะการก่อสร้างบ้านสำเร็จรูปส่วนใหญ่จะผลิตที่โรงงานและยึดตามแบบเป็นหลัก จึงแก้ไขภายหลังยาก
11 สิ่งที่มักไม่รวมในแพ็กเกจบ้านสำเร็จรูป ซึ่งเจ้าของบ้านต้องจัดเตรียมเอง
แพ็กเกจของแต่ละบริษัทนั้นแตกต่างกัน โดยส่วนมากในแพ็จเกจบ้านมักรวมวัสดุพื้น ผนัง เพดาน และอุปกรณ์ที่ติดกับตัวบ้าน แต่มักมีรายการที่ไม่รวมในแพ็กเกจ เป็นส่วนที่เจ้าของบ้านต้องหาเพิ่มและจ่ายเอง เช่น
- เครื่องใช้ไฟฟ้า
- เฟอร์นิเจอร์บิลท์อินและลอยตัว บางบริษัทมีแพ็กเกจงานเฟอร์นิเจอร์ให้เลือกเพิ่มเติม
- ของตกแต่ง เช่น ผ้าม่าน มุ้งลวด
- งานถังบำบัดน้ำเสีย สามารถให้ทางบริษัทติดตั้ง หรือเจ้าของบ้านดำเนินการติดตั้งเองโดยใช้บริการร้านขายถังบำบัดใกล้บ้าน ซึ่งมีข้อดีคือ ไม้ต้องขนส่งสินค้าไกล โดยเลือกร้านที่มีบริการทั้งรถขนส่ง คนขุด และการต่อระบบน้ำทิ้ง-น้ำดีให้เรียบร้อย อีกทั้งหากเกิดปัญหาในอนาคต เจ้าของบ้านสามารถเข้าไปติดต่อกับร้านโดยตรงได้สะดวก
ทั้งนี้แพ็กเกจของบางบริษัทอาจรวมบางรายการดังกล่าว เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า เช่น เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น ม่าน มู่ลี่ มุ้งลวด จึงควรนำมาพิจารณามูลค่า เพื่อเปรียบเทียบกับแพ็กเกจของบริษัทที่ไม่ได้รวมสิ่งเหล่านี้
12 ค่าใช้จ่ายที่มักเพิ่มเติมจากค่าบ้าน
มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ขึ้นอยู่กับความยากในการขนส่ง ได้แก่
- ค่าขนส่ง มักมีรวมค่าขนส่งรวมในแพ็กเกจ แต่หากไกลกว่าที่กำหนดจะคิดเพิ่มตามระยะทาง
- ค่ารถเครน สำหรับยกบ้านไปวางในพื้นที่ตั้ง มีหลายกรณีที่จำเป็นต้องใช้รถเครน เช่น
-เป็นบ้านหลังใหญ่ที่มีน้ำหนักมาก ซึ่งที่ขนส่ง(รถเฮี้ยบ)ยกไม่ได้
-รถขนส่งไม่สามารถจอดเทียบฐานรากได้
-จำเป็นต้องยกบ้านข้ามสายไฟ ยกข้ามต้นไม้ ยกข้ามรั้วบ้าน
13 วัสดุที่ใช้ในการสร้างบ้านสำเร็จรูป
บ้านสำเร็จรูปนิยมใช้โครงสร้างเหล็กซึ่งมีความแข็งแรง น้ำหนักเบา และติดตั้งเร็ว โดยผ่านกรรมวิธีกันสนิม เช่น เหล็กชุบกัลวาไนซ์ หรือทำการชุบและอบสีกันสนิมมาจากโรงเหล็ก ส่วนวัสดุทางสถาปัตยกรรม จะเน้นการใช้วัสดุกึ่งสำเร็จรูปที่ติดตั้งเร็ว ผลิตด้วยมาตรฐานจากโรงงาน และมีความทนทานสูง ซึ่งช่วยให้การสร้างบ้านสำเร็จรูปมีมาตรฐานและติดตั้งได้เร็วตามเวลา เช่น ผนังกรุแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ ประตูและหน้าต่างเป็นอะลูมิเนียม พื้นปูแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ แล้วปูวัสดุพื้นผิว เช่น กระเบื้องไวนิล ฉนวนกันความร้อน กันเสียงที่หลังคาและผนัง และหลังคาชิงเกิล หลังคาเมทัลชีตแบบแซนด์วิชที่มีฉนวนโฟมกันความร้อนในตัว รวมถึงหลังคาอื่นๆตามดีไซน์ บ้านน็อคดาวน์บ้านสำเร็จรูป
14 อายุการใช้งาน และการดูแลรักษา
บ้านสำเร็จรูปคุณภาพดีจะมีอายุการใช้งานมากกว่า 50 ปี ส่วนสำคัญคือการออกแบบโครงสร้างเหล็กและคุณภาพการประกอบที่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะโครงสร้างส่วนคานล่างของตัวบ้านซึ่งรับน้ำหนักบ้านทั้งหลัง และมีโอกาสโดนความชื้นสูง ถ้าก่อสร้างโดยใช้เหล็กรูปพรรณซึ่งมีเนื้อเหล็กหนา ก็จะทำให้บ้านคงทนมากกว่าการทำคานล่างด้วยเหล็กกล่องซึ่งเนื้อเหล็กบางกว่า ส่วนวัสดุประกอบอาคารอื่นๆ ทั้งพื้น ผนัง หลังคาก็จะมีอายุการใช้งานตามแต่ละชนิดวัสดุ
การดูแลรักษาทำเหมือนการดูแลบ้านทั่วไป โดยสามารถเรียกให้ช่างจากบริษัทเข้าไปดำเนินการได้ ซึ่งจะดีกว่าให้ช่างทั่วไปทำ เพราะมีสเป็กวัสดุและมีรายละเอียดการติดตั้งทุกอย่างอยู่แล้ว
15 หากต้องการยก ย้าย ตัวบ้าน ต้องทำอย่างไร
ควรใช้บริการรถยกและช่างของบริษัท ซึ่งคิดค่าบริการตามระยะทางไปกลับ (ประมาณ 30 บาทต่อกิโลเมตร แต่ละบริษัทมีราคาแตกต่างกัน และอาจเปลี่ยนแปลงตามราคาน้ำมัน) เนื่องจากจะมีข้อมูลในการถอดประกอบที่ถูกต้อง และมีค่าบริการอื่นๆ เช่น การวางฐานรากใหม่ การเก็บสีและพื้นผิวให้เรียบร้อย การต่อท่อน้ำ ซึ่งจะต้องประเมินเป็นกรณีไป
ขอบคุณข้อมูล
- The WILD โทรศัพท์ 06-1326 – 9446 FB : The WILD ผลิตอาคารสำเร็จรูป บ้านน็อคดาวน์ Line : @thewild01
- BOXMODi บริษัทคอนเทนเนอร์ (ประเทศไทย) จำกัด โทรศัพท์ 06-1996 – 6939 www.container.co.th/index.html FB : Boxmodi
คอลัมน์ Home Expert นิตยสารบ้านและสวน พ.ย. 65
เรื่อง ศรายุทธ ศรีทิพย์อาสน์
ภาพ The WILD, BOXMODi