นอกจากการกินผักเพื่อคุณค่าทางอาหารแล้ว เรายังสามารถเลือกบริโภคตามธาตุประจำกาย ซึ่งขึ้นกับเดือนเกิดของแต่ละคน ผักตามธาตุ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม และธาตุไฟ
ธาตุไฟ ได้แก่ ผู้ที่เกิดเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม ช่วงอายุ 16-32 ปีมักมีอารมณ์ขี้หงุดหงิด และอารมณ์เสียบ่อย ในฤดูร้อนจะเจ็บป่วยง่ายเพราะธาตุไหกำเริบ จึงควรรับประทานผักผลไม้พื้นบ้านที่มีรสขม รสเย็น และรสจืด เช่น ผักบุ้ง ตำลึง บัวบก ผักกระเฉด สายบัว ผักกาดนา ผักกาดนกเขา มะระ ผักปลัง มะรุม ยอดมันเทศ กระเจี๊ยบมอญ สะเดา ยอดฟักทอง หยวกกล้วย หม่อน พุทรา เป็นต้น ผักตามธาตุ
ธาตุลม ได้แก่ ผู้ที่เกิดเดือนเมษายน พฤษภาคม มิถุนายน ในช่วงอายุ 32 ปีขึ้นไปมักมีอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลมง่าย และในฤดูฝนจะเจ็บป่วยง่ายเพราะธาตุลมกำเริบ จึงควรรับประทานผักผลไม้พื้นบ้านที่มีรสเผ็ด เช่น กะเพรา โหระพา ขิง ข่า ตะไคร้ พริกไทย กระทือ ดอกกระเจียว กระชาย ยี่หร่า ขมิ้นชัน เป็นต้น
ธาตุน้ำ ได้แก่ ผู้ที่เกิดเดือนกรกฏาคม สิงหาคม กันยายน ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 16 ปี มักมีอาการเป็นหวัดคัดจมูก ในฤดูหนาวมักเจ็บป่วยง่ายเพราะธาตุน้ำกำเริบ จึงควรรับประทานผักผลไม้พื้นบ้านที่มีรสเปรี้ยว เช่น มะกรูด มะนาว ยอดมะขาม ขี้เหล็ก แคบ้าน ชะมวง ผักติ้ว ยอดมะกอก เป็นต้น
ธาตุดิน ได้แก่ ผู้ที่เกิดเดือนตุลาคม พฤษจิกายน ธันวาคม มักเป็นคนไม่ค่อยเจ็บป่วย เพราะธาตุดินเป็นที่ตั้งของกองธาตุ มักมีร่างกายและก้ามเนื้อแข็งแรง ควรรับประทานผักและผลไม้พื้นบ้านที่มีรสฝาด รสหวาน รสมัน รสเค็ม เช่น ผักกระโดน ยอดมะม่วงหิมพานต์ ยอดมะยม สมอไทย กระถิน ผักหวาน เป็นต้น
หาข้อมูลเกี่ยวกับธาตุเจ้าเรือนเพิ่มเติมได้ที่ อาหารตามธาตุเจ้าเรือน
เรื่อง : รศ. ดร.ยิ่งยง ไพสุขศานติวัฒนา, วิรัชญา จารุจารีต
ภาพ : อภิรักษ์ สุขสัย, กฤษดา อนุนาท, ธนกิตติ์ คำอ่อน, ธนาวุฒิ โชติประดิษฐ
หากสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับผักและสมุนไพรพื้นบ้าน ติดตามเพิ่มเติมได้จาก Garden&Farm vol.5
