น้ำยาปรับผ้านุ่ม นั้นไม่ได้หยิบมาใช้แค่ในขั้นตอนการซักผ้าได้เพียงอย่างเดียว แต่ยังนำไปฉีดพ่น หรือ เช็ดทำความสะอาดในหลาย ๆ มุมเพื่อให้มีกลิ่นหอมฟุ้งและขจัดฝุ่นได้ง่ายขึ้นด้วย บ้านและสวนเลยอยากชวนทุกคนหยิบน้ำยาปรับผ้านุ่มขวดเดิมออกมาใช้ให้คุ้มค่า ด้วยการรวมหลาย ๆ วิธีดูแลและทำความสะอาดบ้านที่ น้ำยาปรับผ้านุ่มสามารถช่วยได้มาฝากกันค่ะ
1 . ใช้เป็นน้ำยาลดรอยยับของเสื้อผ้า
น้ำยาปรับผ้านุ่ม นั้นสามารถนำมาผสมน้ำเพื่อฉีดเป็นสเปยร์รีดผ้าและยังใช้เป็นน้ำยาช่วยลดรอยยับได้อีกด้วย โดยให้ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มประมาณ 1 ช้อนชา ผสมเข้าน้ำต้มสุก 1 ถ้วยตวง และใส่ลงในขวดสเปรย์ให้เรียบร้อย เท่านี้ก็จะได้น้ำยาดูแลเสื้อผ้าแบบ 2 in 1 ที่สามารถนำไปฉีดพ่นแทนน้ำยารีดผ้าได้ หรือถ้าหากวันไหนอยากให้ผ้าเรียบขึ้นโดยไม่ต้องเปลืองแรงก็แค่จับขึ้นมาใส่ไม้แขวนและจัดให้ได้ทรง จากนั้นก็ฉีดพ่นน้ำยาสูตรเดียวกันนี้ลงไปให้ทั่วผ้าและทิ้งไว้ข้ามคืน ตื่นเช้ามาก็จะได้ชุดที่พร้อมใส่โดยไม่ยับยู่ยี่แล้วค่ะ
2 . ใช้เป็นน้ำยาทำความสะอาดบ้าน ช่วยฝุ่นจับ
ในมุมที่มีของสะสมหรือของแต่งบ้านตั้งโชว์อยู่นั้นเป็นมุมที่ต้องคอยขจัดฝุ่นอยู่เสมอ ซึ่งนอกจากการปัดหรือเช็ดด้วยผ้าแห้งแล้ว ก็ยังสามารถใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มมาเช็ดพื้นผิวต่าง ๆ ภายในบ้านเพื่อให้ฝุ่นเกาะติดได้ยากขึ้นด้วยค่ะ แค่ผสมน้ำยาปรับผ้านุ่มเข้ากับน้ำสะอาดในอัตราส่วน 1:10 และนำผ้ามาชุบพร้อมกับบิดให้หมาด ก็สามารถน้ำไปเช็ดชั้นวางของ พื้นที่หลังตู้ หรือของแต่งบ้านต่าง ๆ เพื่อขจัดฝุ่นที่เกาะอยู่ได้โดยไม่ฟุ้งกระจายและยังช่วยให้ฝุ่นเกาะน้อยลงไปได้ด้วย
3 . ช่วยลดขนสัตว์ที่ติดตามเฟอร์นิเจอร์
เชื่อว่าทุกบ้านที่มี น้องหมา น้องแมว อยู่ด้วยนั้น มักจะต้องเจอกับปัญหาขนสัตว์ติดเต็มไปหมดทุกที่แน่นอน ยิ่งถ้าเป็นเบาะผ้า หรือ โซฟา ก็จะยิ่งกลายเป็นพื้นที่สะสมขนสัตว์ชั้นดีเลย แต่ถ้าอยากให้ขนสัตว์ติดตามเฟอร์นิเจอร์น้อยลง ก็สามารถผสมน้ำยาปรับผ้านุ่ม 1 ช้อนโต๊ะ และ น้ำสะอาดอีกประมาณ 1-2 ถ้วยตวง ลงในขวดสเปยร์เพื่อนำไปฉีดพ่นบนเบาะผ้า และ โซฟา หลังจากดูดฝุ่นเสร็จในแต่ละครั้ง น้ำยาปรับผ้านุ่มนั้นมีคุณสมบัติในการช่วยลดไฟฟ้าสถิต บนเนื้อผ้า จึงสามารถช่วยลดการดูดจับขนสัตว์ได้ด้วยนั่นเอง
4 . ผสมน้ำยาปรับผ้านุ่มเป็นน้ำยาสำหรับถูพื้น
ถ้าอยากถูพื้นให้เดินแล้วรู้สึก ลื่นสบายไม่เหนียวเท้าทุกครั้งหลังถูเสร็จ นอกจากจะต้องใช้ผ้าสะอาด และกวาดฝุ่นให้หมดแล้ว การใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม ก็เป็นอีกอย่างที่สามารถช่วยได้ค่ะ แค่เติมน้ำยาปรับผ้านุ่มสัก 1 ช้อนชา ลงไปผสมในน้ำ 1 ลิตร และนำไปใช้ถูพื้นในรอบสุดท้าย หลังจากรอให้พื้นแห้งสนิท แล้วก็จะเดินได้อย่างลื่นสบายเท้า ฝุ่นเกาะติดพื้นน้อยลง แถมยังได้กลิ่นหอมฟุ้ง ที่คุ้นเคยกระจายไปทั่วบ้านด้วย
5 . ใช้ น้ำยาปรับผ้านุ่ม เป็นแผ่นอบผ้า DIY. แบบใช้ซ้ำ
แม้จะใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มในขั้นตอนการซักจนหอมฟุ้งมากแค่ไหน แต่เมื่อเจอความร้อนในเครื่องอบผ้าเข้าไป ก็อาจทำให้กลิ่นหอมจางลง การใส่แผ่นอบผ้าเข้าไปด้วยจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ถ้าหากอยากให้ผ้าออกมาหอมเหมือนหลังซักเสร็จ ซึ่งนอกจากการต้องคอยซื้อแผ่นอบผ้าที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียวแล้วทิ้งนั้น ก็ยังสามารถทำเองแบบง่าย ๆ ได้โดยการผสมน้ำสะอาดและน้ำยาปรับผ้านุ่มอย่างละเท่า ๆ กัน จากนั้นให้นำผ้าขนหนู หรือ ฟองน้ำ มาจุ่มให้ชุ่มโดยไม่ต้องบิด และ นำเข้าเครื่องอบไปพร้อมกับเสื้อผ้า เหมือนกับการใช้แผ่นอบผ้าตามปกติได้เลยค่ะ
6 . เพิ่มกลิ่นหอมในห้องน้ำ
แค่มีน้ำยาปรับผ้านุ่ม เบกกิ้งโซดา และกระปุกเหลือใช้อีกสักใบ ก็สามารถทำน้ำหอมปรับอากาศไว้ใช้ในห้องน้ำเองได้อย่างสบาย ๆ แล้วค่ะ วิธีการนั้นก็แค่ใส่เบกกิ้งโซดาลงไปก่อน และ ค่อยเทน้ำยาปรับผ้านุ่มตามลงไปให้พอท่วม ถ้าหากมีฝาปิดก็อาจเจาะรูเล็ก ๆ กระจายไว้หรือใช้ผ้าบาง ๆ หุ้มไว้ก็ได้ค่ะ เท่านี้ก็จะได้ตัวช่วยกระจายกลิ่นหอมอีกชิ้น ที่พร้อมนำไปวางไว้ตามมุมห้องน้ำแล้ว
7 . สเปรย์เพิ่มความสดชื่นภายในบ้าน
การนำมาผสมเป็นสเปรย์ปรับอากาศก็เป็นอีกอย่างที่น้ำยาปรับผ้านุ่มทำได้เหมือนกันค่ะ สำหรับวิธีการนั้นก็แค่ผสมรวมกับน้ำสะอาดลงในขวดสเปรย์เหมือนเดิมเลย อยากได้กลิ่นหอมเข้มข้นแค่ไหนก็สามารถเติมน้ำยาปรับผ้านุ่มลงไปและนำไปลองฉีดพ่นพร้อมกับปรับอัตราส่วนได้ตามต้องการ เมื่อผสมเสร็จแล้วก็สามารถเก็บไว้เพื่อหยิบไปฉีดพ่นตามพื้นที่ต่าง ๆ ในบ้าน อย่างเช่นภายในห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้า หรือมุมวางถังขยะก็ได้ค่ะ
story : Kamonchanok.L