เตรียมสวนให้พร้อมรับมือ หน้าฝน
ช่วงนี้เข้าสู่ช่วง หน้าฝน กันแล้ว “บ้านและสวน” จึงมีคำแนะนำดีๆมาให้คุณผู้อ่านได้ ” เตรียมสวนหน้าฝน ” จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย
เตรียมสวนหน้าฝน
- ฝนตกชุก โรคโคนเน่า ใบเน่าถามหา
เมื่ออากาศร้อนและความชื้นสูงเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียจะเจริญเติบโตได้ดี ต้นไม้มักเป็นโรคโคนเน่า ใบเน่าได้ง่าย ซึ่งเกิดจากเชื้อรา Phytophthora parasitica เข้าทำลาย ทำให้ลำต้นเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและเน่าเละ มีปุยสีขาวปกคลุม ต้นเหี่ยวและตายในที่สุด มักพบในต้นไม้ขุดล้อมใหม่ ๆ ในไม้คลุมดินที่มีลำต้นและใบอวบน้ำ เช่น บีโกเนีย พรมกำมะหยี่ มักพบการเข้าทำลายของเชื้อรา Colletotrichum ทำให้ใบมีจุดสีน้ำตาลหรือสีดำ ควรเด็ดใบทิ้งและฉีดพ่นสารป้องกันและกำจัดเชื้อรา เช่น ออโธไซด์ เพื่อป้องกันการเกิดโรค
- หนอนผีเสื้อบุก ใบไม้พรุนเป็นรูหมดสวย
หนอนมักกัดกินใบหรือเจาะชอนไชกิ่งก้านและลำต้น ทำให้ใบเหี่ยว กิ่งแห้ง ต้นชะงักการเจริญเติบโตและตายในที่สุด ควรจับหนอนผีเสื้อแล้วทำลาย หากพบไม่มากให้ใช้สารกำจัดแมลงจากธรรมชาติ เช่น สารสกัดสะเดา ผสมน้ำตามอัตราที่ระบุฉีดพ่นให้ทั่วต้น หากระบาดมากให้ใช้คาร์บาริลฉีดพ่นในอัตรา 20-30 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร สองสัปดาห์ต่อหนึ่งครั้ง
- ฝนมา หอยทากโผล่
หอยทากที่พบบ่อยคือหอยทากยักษ์แอฟริกันและหอยทากหมายเลขหนึ่ง มักออกหากินยามพลบค่ำจนถึงรุ่งสาง โดยเฉพาะวันที่ฝนตกอากาศชื้น หากพบจำนวนไม่มากควรจับไปทิ้ง หรือโรยปูนขาวตามรอยทางเดินของหอยทาก ควรวางกระถางปลูกต้นไม้ให้สูงจากพื้นดิน โดยวางบนก้นกระถางอีกใบที่คว่ำกับพื้น นอกจากจะช่วยป้องกันหอยทากได้แล้วยังช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดีด้วย
- ลมกระโชกแรง กลัวไม้ต้นสูงหัก
ควรตรวจดูว่ามีกิ่งก้านของต้นไม้รบกวนโครงสร้างอาคารบ้านเรือนหรือไม่ หรือมีกิ่งที่ผุ มีโรคแมลงเข้าทำลายบ้างหรือเปล่า ควรตัดแต่งทรงพุ่มให้โปร่ง เลื่อยกิ่งที่ไม่ต้องการออกเสีย เทคนิคง่าย ๆ คือ ลงเลื่อยครั้งแรกจากด้านล่างของโคนกิ่งขึ้นด้านบนให้ลึกประมาณหนึ่งในสามของความหนาของกิ่ง จากนั้นให้เลื่อยจากด้านบนลงล่าง ให้กิ่งขาดออกจากกัน เมื่อเสร็จแล้วจึงใช้มีดคมๆ แต่งบาดแผลให้เรียบร้อยแล้วทาปูนแดงหรือสีน้ำมัน ป้องกันเชื้อโรคเข้าทำลายต้นไม้ นอกจากนี้เราควรยึดโยงลำต้นไว้ด้วยลวดเคเบิลหรือทำหลักค้ำยันเพื่อสร้างความแข็งแรงและลดความเสียหายที่อาจเกิดกับต้นไม้เมื่อต้องปะทะกับลมพายุ
-
หญ้าหมดสวยเราช่วยได้
เมื่อฝนตกหนักจนสนามหญ้าเป็นหลุมเป็นแอ่งมีน้ำขัง เราต้องปรับระดับพื้นให้เสมอกัน โดยนำทรายผสมปุ๋ยอินทรีย์ อัตราส่วน 1 : 1 โรยลงในแอ่งบาง ๆ อย่าโรยหนาทับยอดหญ้าจนจมมิด ถ้าแอ่งลึกมากต้องโรยซ้ำหลายๆ ครั้ง เพื่อปรับระดับให้เรียบเสมอกัน อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้การระบายน้ำและอากาศในสนามหญ้าดีขึ้น คือ การพรวนดินเจาะสนาม ตรวจดูสนามว่าดินบริเวณใดแน่นบ้าง ให้เจาะรูบริเวณนั้นโดยใช้เครื่องมือสนามรูปร่างเหมือนส้อม ทิ่มซี่ส้อมลงไปในดินลึกอย่างน้อย 7.5 เซนติเมตร แล้วดันส้อมมาด้านหลังให้รูใหญ่ขึ้น แนวต่อไปที่เจาะให้ห่างกันไม่เกิน 15 เซนติเมตร จากนั้นหว่านปุ๋ยและรดน้ำให้ทั่ว หากเป็นสนามหญ้าขนาดใหญ่อาจใช้เครื่องเจาะดินซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีเครื่องยนต์เช่นเดียวกับรถตัดหญ้า จะช่วยทุ่นแรงได้มากเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว จึงควรหมั่นตัดแต่งทรงพุ่มให้โปร่ง ไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของโรค แมลง และสัตว์ร้ายต่าง ๆ จัดสภาพแวดล้อมให้มีอากาศถ่ายเทได้ดีหมั่นพรวนดิน ให้ปุ๋ยสม่ำเสมอ แล้วสวนของคุณจะสวยสดชื่นตลอดหน้าฝนที่ชุ่มฉ่ำเลยละ
เขียนและถ่ายภาพ : กองบก.บ้านและสวน
