งานสถาปัตยกรรมถือเป็นงานศิลปะที่สะท้อนถึงอารยธรรม วิถีชีวิต รูปแบบการอยู่อาศัย ตลอดจนบ่งบอกเทคโนโลยีของวัสดุและการก่อสร้างในแต่ละยุคสมัยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการเลือกใช้ สีสันคลาสสิก
สีสันคลาสสิก ในงานสถาปัตยกรรมในอดีตที่เราพบเห็นตามย่านชุมชนเก่าแก่ของกรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นสไตล์คลาสสิก กอทิก เรอแนซองซ์ อาร์ตเดโค หรือแม้แต่โคโลเนียล ที่เราคุ้นเคยกันดีในยุคหลัง ล้วนมีความงดงามร่วมสมัยและมีรูปลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เพียงรูปทรงและการประดับประดาอย่างสวยงามเท่านั้น การเลือกกลุ่มสีมาใช้กับตัวอาคารก็มีความน่าสนใจและไม่ค่อยพบเห็นกันมากนักในปัจจุบัน เราจึงมีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง เผื่อเป็นไอเดียให้แฟน ๆ บ้านและสวน ได้ลองนำไปประยุกต์ใช้กัน มาดูกันครับว่ามีกลุ่มสีอะไรบ้าง
กลุ่มสีงาช้างและสีเหลืองคลาสสิก (Ivory & Classic Yellow)
จัดเป็นกลุ่มสีที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวล สดใส และสบายตา เรามักเห็นว่าอาคารในยุคเก่านิยมใช้กลุ่มสีนี้ เพราะในสมัยก่อนผงสีที่นำมาฉาบทาตัวอาคารภายนอกมักเป็นสีเหลืองตุ่น ต่อมาจึงได้พัฒนาไปสู่การใช้สีทาอาคารที่เป็นสารสังเคราะห์อย่างในปัจจุบัน
เราอาจเพิ่มลูกเล่นด้วยการใช้สีขาวเป็นสีตัดขอบบัวของผนังและพื้น รวมถึงลายประดับตกแต่งต่างๆ หรือจะใช้สีอื่นๆ กับส่วนของประตู หน้าต่าง และช่องเปิดระบายอากาศ เช่น เขียวอมน้ำเงิน แดง เขียวเข้ม หรือสีน้ำตาลของเนื้อไม้ ก็ช่วยเพิ่มรายละเอียดให้ตัวอาคารดูน่าสนใจยิ่งขึ้น
กลุ่มสีขาวกับมิติแห่งแสงและเงา (White and Shade Shadow)
สีขาวถือเป็นสีพื้นฐานที่นิยมใช้กันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่ในสมัยก่อนจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับความงามที่ลึกซึ้งมากกว่า กล่าวคือสถาปัตยกรรมรูปแบบคลาสสิกจะมีลวดลายและการประดับประดาบนรูปด้านอาคาร โดยออกแบบให้มีความตื้น- ลึกของระดับระนาบอาคาร การใช้สีขาวจะช่วยให้เห็นความสวยงามของแสงและเงาที่เกิดขึ้นบนตัวอาคารได้ชัดเจนที่สุด แต่เพื่อไม่ให้ดูน่าเบื่อเกินไปก็มักมีการนำสีอื่นๆ มาใช้ร่วมด้วย เช่น เทา เขียวอ่อน เขียวอมเหลือง หรือสีน้ำตาลของไม้
กลุ่มสีฟ้าครามและสีเขียวน้ำทะเล (Cloud Blue & Sea Green)
สีฟ้า น้ำเงิน และเขียวเป็นกลุ่มสีที่ให้ความรู้สึกสงบ เยือกเย็น เป็นอิสระ และโปร่งสบาย มักนำไปใช้กับบ้านพักตากอากาศในสมัยก่อน โดยใช้ร่วมกับสีขาว ฟ้าอ่อน หรือฟ้าเข้ม เพื่อเพิ่มสีสันและลูกเล่น เป็นคู่สีที่ดูสวย น่าสนใจ แต่ไม่ค่อยพบเห็นในปัจจุบัน แนะนำให้ใช้โทนสีฟ้าพาสเทล หรือไม่ก็นำสีขาวมาช่วยเบรกความรู้สึก ลดทอนสัดส่วนของสี หลีกเลี่ยงการใช้โทนสีเขียว หรือน้ำเงินเข้มมากๆ กับทั้งผนัง เพราะจะทำให้รู้สึกอึดอัดเกินไป
กลุ่มสีชมพู สวยหวานคลาสสิก (Dusky Pink)
สีชมพูให้ความรู้สึกอ่อนหวานและคลาสสิก แต่การเลือกคู่สีสดนี้มาปรับใช้กับห้องและอาคารให้ดูสวยงามลงตัวเป็นเรื่องค่อนข้างยาก สีภายนอกอาคารในสมัยก่อนมักเลือกใช้สีชมพูโทนอ่อนๆ แบบพาสเทล (สีปูนแห้ง) ร่วมกับสีพื้นอย่างสีขาว บ้านจึงดูสวยหวานและไม่อึดอัด เราอาจนำโทนสีชมพู เข้มๆ มาสร้างบรรยากาศให้ภายในบ้านดูสวยหวานก็ได้ แต่ควรคำนึงถึงปริมาณแสงสว่าง เนื่องจากโทนสีเข้มจะทำให้ภายในบ้านดูอึดอัด การออกแบบค่าความส่องสว่างของระบบไฟ รวมถึงกำหนดขนาดของช่องเปิดประตูหน้าต่างที่เหมาะสมจะช่วยให้ห้องดูโปร่งและสว่างขึ้น
เรื่อง : ศุภชาติ บุญแต่ง
ภาพ : สำนักพิมพ์บ้านและสวน, นิตยสารแพรว