แบบ บ้านไม้ชั้นเดียว ที่สร้างอยู่ภายใต้โครงสร้างเก่าซึ่งเคยเป็นโรงเลี้ยงหมูมาก่อน ตัวอาคารมีลักษณะทอดยาวแบ่งฟังก์ชันให้เยื้องไม่ตรงกัน เพื่อให้ได้ประโยชน์จากแสงและลม
DESIGNER DIRECTORY
ออกแบบ: YANGNAR STUDIO
พื้นที่เกือบ 11 ไร่ตรงนี้เคยเป็นฟาร์มหมูเก่าที่คุณแม่ของ คุณรุ่ง ตั้งตะธารากุล ได้ปรับปรุงพื้นที่มาโดยตลอด เพื่อรองรับกิจกรรมฝึกสุนัขซึ่งเป็นงานอดิเรกที่ท่านรัก ในพื้นที่นี้เองคุณแม่และคุณรุ่งได้พัฒนาทดลองแนวคิดการพึ่งพาตัวเองแบบวิถีชาวบ้าน ในลักษณะของ แบบบ้านไม้ชั้นเดียว โดยทำให้ทุกอย่างง่ายและใช้วัสดุที่มีให้มากที่สุด แต่ก็ต้องสวยด้วย
เดิมทีคุณรุ่งมักต้องเดินทางไป-กลับสิงห์บุรีบ่อยๆ เพื่อดูแลคุณแม่และกิจการของครอบครัว แต่หลังจากแต่งงานกับผมแล้วจึงตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่สิงห์บุรี โดยสร้างพื้นที่ส่วนตัวที่เน้นใช้วัสดุจากบ้านไม้หลังเก่าของคุณแม่ที่ต้องรื้อย้ายออกจากที่ดินที่ขายไป รวมถึงเศษวัสดุในพื้นที่ที่มีอยู่แล้วให้มากที่สุด เพื่อสร้างขยะใหม่ให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ และทุกชิ้นส่วนของบ้านยังประโยชน์ต่อคนรุ่นต่อไป
บ้านของเราชื่อขนำน้อย “ขนำ” ในความเข้าใจของผม คือ ที่พักผ่อนชั่วคราวในระหว่างทำนา ใช้วัสดุที่พอหาได้และก่อสร้างได้ง่าย บ้านขนำน้อยของเราจึงเป็นเพียงที่พักอาศัยชั่วคราว และยังคงประโยชน์ใช้สอยให้เข้ากับนิสัยคนเมือง ซึ่งผมทำงานเป็นนักออกแบบตกแต่งภายใน ส่วนคุณรุ่งเป็นครูสอนโยคะ และเราต้องการทีมออกแบบที่สามารถอยู่หน้างานได้ตลอด เพราะหลายจุดต้องออกแบบกันหน้างานจากวัสดุที่มี เข้าใจองค์ประกอบบ้านไม้แบบท้องถิ่นและข้อจำกัดของบริบทพื้นที่ รวมไปถึงได้สนับสนุน”สล่าไม้” หรือช่างไม้มีฝีมืออีกด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่เราเลือกทีมออกแบบจากยางนาสตูดิโอ
แบบบ้านไม้ชั้นเดียว
การออกแบบและลักษณะของตัวบ้านหลังนี้เกิดขึ้นตามการใช้งาน โดยใช้ประโยชน์จากข้อจำกัดของโครงสร้างโรงหมูเดิมที่เป็นอาคารรูปทรงยาวทอดตัวจากทิศตะวันออกไปตะวันตกและมีช่องว่างระหว่างหลังคา ให้ประสานไปกับโครงสร้างบ้านใหม่ซึ่งเป็นเหล็กทำกันสนิมและทาสีแบบไม่เคลือบผิว เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติกลมกลืนไปกับเปลือกอาคารที่ประยุกต์จากรูปแบบท้องถิ่น รวมไปถึงความงามของตัวอาคารที่ล้อกับโครงสร้างหลังคาเดิมซึ่งลดหลั่นกันไป
ทีมออกแบบยังนำวัสดุเดิมทั้งหมดของบ้านกลับมาใช้ประโยชน์กับบ้านหลังใหม่ทั้งส่วนของคอนกรีต เหล็ก และไม้ โดยยังคงปล่อยให้มีร่องรอยของกาลเวลาจากอดีตไว้ให้รำลึกถึงอย่างครบถ้วนและผสมผสานไปกับไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ
โดยตัวบ้านมีพื้นที่ใช้สอย 148 ตารางเมตร แบ่งการใช้งานเป็น 3 ก้อน คือ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น และห้องนอน แต่ละก้อนเยื้องไม่ตรงกัน เพื่อให้ได้ประโยชน์จากแสงและลม ทางทิศเหนือมีระเบียงทางเดินยาวเชื่อมกับพื้นที่ทำงานและเรือนเพาะชำ พร้อมกับสวนขนาดกว้างเพื่อใช้เป็นพื้นที่ฝึกสุนัขและเป็นส่วนหนึ่งในพื้นที่สีเขียวของบ้าน นอกเหนือไปจากต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงากับตัวบ้านอย่างเป็นธรรมชาติ
เนื่องจากตัวบ้านอยู่ใต้หลังคาโรงหมูอีกทีจึงทำให้แสงธรรมชาติเข้าถึงตัวบ้านได้น้อย นอกจากการเจาะช่องแสงตามจุดต่างๆ ของตัวบ้านแล้ว การวางตำแหน่งไฟส่องสว่างตามการใช้งาน ประกอบกับตำแหน่งของแสงที่หลากหลาย และการใช้วัสดุที่ช่วยกระจายแสง เช่นสั งกะสี แผ่นสมาร์ทบอร์ดขัดโชว์ผิว กระจกลายพิกุล สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดแสงที่ทำให้พื้นที่ภายในดูมีมิติ
ความน่าสนใจของพื้นที่ภายในคือการเชื่อมต่อกับสิ่งแวดล้อมภายนอก จากช่องแสงและช่องเปิดต่างๆ การเชื่อมต่อด้วยระเบียงทางเดินจากตัวบ้านไปยังเรือนเพาะชำ และบริเวณซักผ้าที่มีห้องน้ำสำหรับใช้เวลาทำสวน ทางเชื่อมนี้ต่อเนื่องไปกับโถงทางเดินภายในบ้านซึ่งแยกพื้นที่ห้องครัว และห้องนั่งเล่น โดยมีประตูบานเลื่อนสังกะสีเป็นตัวกั้น โถงทางเดินนี้ต่อเนื่องไปยังระเบียงนั่งเล่นที่สามารถดูการฝึกสุนัขยามเช้าของคุณแม่ และเป็นทางลงไปยังสนามฝึกสุนัขได้
รายละเอียดของฝีมือช่างเป็นอีกส่วนสำคัญที่ทำให้บ้านขนำน้อยมีชีวิตและน่าสนใจมากๆ ไม่ว่าจะเป็นช่างไฟที่ตั้งใจเดินสายไฟอย่างดี ช่างไม้ที่ใช้เศษไม้จากการก่อสร้างทำฝ้าเพดานในส่วนห้องนั่งเล่น ลายจึงเกิดจากวัสดุที่มี หัวหน้าช่างปูนที่เรียนจบจิตรกรรมได้ลงมือก่อผนังห้องน้ำตามเศษอิฐที่มีในโรงเก็บของด้วยตัวเอง เหล็กจากกรงหมูเก่าถูกประดิษฐ์ดัดแปลงเป็นที่แขวนและเก็บเสื้อผ้า ช่างไม้เจาะยึดพื้นที่ระเบียง อุดรูนอตทุกรูด้วยไม้ที่เหลาเท่ากับรูที่เจาะ หยดกาวแล้วยึดกลับไปให้สวยงาม
เราสองคนซาบซึ้งและขอบคุณอย่างมากกับความตั้งใจและเหงื่อนทุกเม็ดของช่าง รวมทั้งทีมสถาปนิกยางนาสตูดิโอที่ต้องการออกแบบที่อยู่อาศัยให้เคารพกับบริบทที่เป็นธรรมชาติ
เจ้าของ : คุณปานเดช บุญเดช และคุณรุ่ง ตั้งตะธารากุล
ออกแบบ : บริษัทยางนา สตูดิโอ จำกัด โดยคุณเดโชพล รัตนสัจธรรม
ตกแต่ง : คุณปานเดช บุญเดช
เรื่อง : คุณปานเดช บุญเดช
ภาพ : รุ่งกิจ เจริญวัฒน์
ที่ตั้ง : จังหวัดสิงห์บุรี