แทบกรี๊ดเลยค่ะ เมื่อเอาผ้าลงถังซักแล้วฟ้าเหมือนจะแกล้งกัน ส่งฝนมาให้เป็นของขวัญวันซักผ้า แต่ไม่เป็นไร ถึงจะต้อง ตากผ้าในร่ม ในวันไร้แดดก็ไม่ต้องกลัวจะมีกลิ่นเหม็นอับมาเยือน เพราะวันนี้ บ้านและสวน ขนเอาเคล็ดลับ ๆ ให้ การตากผ้าในร่ม ของเราไม่ต้องลุ้นกลิ่นไม่พึงประสงค์ ผ้าแห้งทันใจ ด้วยเคล็ดลับต่อไปนี้
ห้องยิ่งแคบ ผ้ายิ่งแห้งไว
ที่เป็นแบบนั้นเพราะยิ่งพื้นที่ในห้องน้อย ยิ่งควบคุมอุณหภูมิและความชื้นในห้องได้ง่าย จะเพิ่มให้ร้อนขึ้น หรือทำให้ห้องชื้นน้อยลง ก็ทำได้ไม่ยากนัก หากบ้านไหนมีเครื่องลดความชื้น สามารถมาเปิดใช้งานควบคู่ไปด้วยยิ่งทำให้ผ้าแห้งได้ไวขึ้นอีกด้วย
ถ้าจำเป็นต้อง ตากผ้าในร่ม ควรตากไว้ที่บริเวณกลางห้อง
ช่วงไหนที่ฝนตกบ่อย ๆ ก็ต้องมีการโยกย้ายราวตากผ้ามาตากไว้ในบ้านกันบ้าง ยิ่งเป็นชาวอยู่หอ อยู่คนโด การตากผ้าในห้องถือว่าเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แต่ทราบกันกันหรือเปล่าว่า ตำแหน่งการตากผ้าในร่มนั้น มีผลต่อระยะเวลาการแห้งของผ้าได้มากทีเดียว ซึ่งทำเลที่เหมาะที่สุดนั้นก็คือ บริเวณตรงกลางห้องนั่นเอง เพราะพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ที่อากาศสามารถพัดผ่านไป ผ่านมาได้สะดวกที่สุด จึงทำให้การตากไว้ที่บริเวณกลางห้องนั้น ผ้าจะแห้งไวกว่าพื้นที่อื่น ๆ ถึง 1 ชั่วโมง ควรแขวนผ้าให้มีระยะที่ห่างกัน ไม่แนบชิดกันมากจนเกินไป
ชุดยาวอยู่ข้างนอก ชุดสั้นอยู่ด้านใน ตากแบบนี้ แห้งไวกว่า
หากวันที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องตากผ้าในร่ม การเรียงลำดับความยาว – สั้น ของเสื้อผ้าบนราว มีผลทำให้ผ้าแห้งได้ไวขึ้นได้ด้วย ชุดไหนยาวให้เราไว้ด้านนอก ชุดไหนสั้นให้เอาไว้ข้างใน เพื่อให้อากาศสามารถไหลเวียนผ่านเสื้อผ้าชุดต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก สามารถใช้พัดลมในการช่วยเป่าไล่ความชื้นอีกแรงได้
ปูกระดาษไว้ใต้ชายเสื้อ ช่วยได้
ทราบไหมคะว่าเราสามารถเร่งให้ผ้าแห้งไวขึ้นด้วยของใช้ในบ้านอย่างกระดาษ เพียงวางกระดาษขยำ ๆ ไว้ใต้เสื้อที่ตากอยู่ กระดาษที่ถูกขยำจนเกิดเป็นรูปทรงเหมือนภูเขา จะเพิ่มพื้นที่การดูดความชื้นให้มากขึ้น ส่งผลให้ผ้าที่ตากไว้ในร่มแห้งได้ไวขึ้นได้
เปิดพัดลมช่วยอีกแรง
อีกหนึ่งทางที่จะเร่งให้เสื้อแห้งไวขึ้นนั้นก็คือเปิดพัดลมช่วยเป่า ช่วยระบายความชื้นจากเสื้อให้ระเหยไปในอากาศได้ไวขึ้น ตำแหน่งการเป่านั้นก็มีส่วนช่วยเช่นกัน แนะนำให้เปิดพัดลมเป่าที่บริเวณชายเสื้อ เพราะตรงนี้จะเป็นที่สะสมความชื้นของเสื้อมากที่สุด เมื่อตากผ้า น้ำจากบริเวณคอเสื้อ ช่วงตัว จะไหลมาสะสมกันอยู่ที่บริเวณนี้ บวกกับเป็นส่วนที่ผ้ามีการพับ และเย็บหนาที่สุด การเปิดพัดลมเป่าไปที่บริเวณชายเสื้อจึงเป็นตัวเร่ง ทำให้ผ้าแห้งเร็วขึ้นกว่าเป่าที่บริเวณอื่น ๆ
ตากแบบกลับตะเข็บ แห้งไวกว่า
นอกจากชายเสื้อที่เพิ่งพูดถึงไปเมื่อซักครู่แล้ว อีกหนึ่งจุดที่ทำให้เสื้อแห้งยาก แห้งไม่สนิทนั้นก็คือตะเข็บด้านใน เพราะพื้นที่เล็ก ๆ ที่มีรอบตัวเสื้อตรงนี้เป็นการรวมกันของผ้า 2 ชิ้น เย็บทับพื่อเป็นการเก็บขอบอีกครั้ง เท่ากับว่าตะเข็บเสื้อแห้งยากกว่าเสื้อทั้งตัวเสียอีก เพราะฉะนั้นเวลาตากผ้า แนะนำว่าควรกลับตะเข็บออกมาด้านนอกเสมอ ทั้งในวันที่มีแดด และไม่มีแดด จะช่วยให้ผ้าแห้งเร็วขึ้น แถมยังไม่เกิดจุดบอดที่ทำให้เกิดกลิ่นอับได้อีกด้วย
ผ้าควรแห้ง ภายใน 5 ชั่วโมง เพื่อหลีกเลี่ยงกลิ่นอับ
ทันทีที่หยิบผ้าออกจากเครื่องซักผ้า ก็เริ่มนับเวลาถอยหลัง ให้ผ้าแห้งทันภายใน 5 ชั่วโมงได้เลย เพราะถ้าใช้เวลานานกว่านั้น แบคทีเรียที่มีชื่อว่า Moraxella จะเริ่มแพร่พันธุ์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดกลิ่นอับได้ แต่ถ้าคิดว่าจะแห้งไม่ทัน 5 ชั่วโมงแน่ ๆ ก็ควรหาพื้นที่การตากให้เหมาะสม เลือกห้องที่มีขนาดไม่ใหญ่ ยิ่งเล็กยิ่งดี กลับตะเข็บออกด้านนอกเพราะแนวตะเข็บแห้งยาก และเปิดพัดลมเป่าส่วนล่างของเสื้อผ้าก็ช่วยให้ผ้าแห้งเร็วขึ้นอีกแรง
เคล็ดลับซักผ้า – ตากผ้า ทำอย่างไรให้เสื้อหอมนานและถนอมเส้นใย
รวมของใช้ในบ้านที่ช่วยบอกลาปัญหารองเท้าเหม็นอับและชื้น