เมื่อมองแก้วกาแฟใบโปรดที่ใช้อยู่ทุกวัน แค่ภายนอกก็อาจยังดูสะอาดเหมือนใหม่ แต่ถ้ามองเข้าไปด้านใน ก็อาจเจอร่องรอยที่ ชา-กาแฟ ทิ้งไว้จนกลายเป็นคราบเหลืองได้ และการ ล้างคราบกาแฟ ที่ติดแน่น ฝังลึกด้วยน้ำยาล้างจานเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ก็อาจไม่ได้ช่วยให้คราบเหล่านั้นจางหายไปได้ ซึ่งถ้าอยากให้แก้วใบโปรดสะอาด และไร้คราบอยู่เสมอ บ้านและสวน มีวิธี ล้างคราบกาแฟ ด้วยตัวช่วยเพิ่มพลังการขจัดคราบจากวัตถุดิบในครัวง่าย ๆ มาฝากกัน
1 . เบกกิ้งโซดาและน้ำยาล้างจาน
ส่วนผสมคู่ครัวอย่าง เบกกิ้งโซดา และ น้ำยาล้างจาน นั้นเป็นตัวช่วยแบบเริ่มต้น ที่ทุกคนสามารถนำมาใช้เพื่อทำความสะอาด คราบ ชา กาแฟ ในแก้วเซรามิคได้ การใช้น้ำยาล้างจานนั้น อาจเป็นสิ่งที่ต้องทำกันเป็นปกติอยู่แล้ว แต่เมื่อเพิ่มเบกกิ้งโซดาเข้าไปด้วย ก็จะได้ตัวช่วยที่สามารถขัดคราบ ที่ฝังอยู่ให้หลุดออกได้ง่ายขึ้นอีกขั้น เพราะฉะนั้นถ้าหากต้องล้างแก้วกาแฟเมื่อไร ก็สามารถหยิบเบกกิ้งโซดาที่อยู่ใกล้ ๆ มาเทลงไปบนฟองน้ำเพื่อช่วยขัดได้เลย
2 . ขัดด้วยยาสีฟัน
เมื่อการล้างด้วยน้ำยาล้างจานในแต่ละครั้ง เริ่มเอาไม่อยู่ ก็ให้เตรียมยาสีฟันกับแปรงมาไว้ใช้คู่กันได้เลย โดยหลังจากล้างทำความสะอาดในขั้นตอนปกติเรียบร้อยแล้ว ให้ป้ายยาสีฟันลงไปบนคราบเหลืองที่เลอะอยู่ภายในแก้ว จากนั้นก็ค่อยออกแรงขัดไปเรื่อย ๆ สัก 1 – 2 นาที โดยใช้แปรงสีฟันอันเก่าหรือแผ่นใยขัดอเนกประสงค์ คราบเหลืองที่มากวนใจในแก้วกาแฟ จะจางลงไปได้ง่ายกว่าการล้างด้วยน้ำยาล้างจานเพียงอย่างเดียว
3 . เม็ดฟู่ทำความสะอาด
เมื่อในแก้วเริ่มมีคราบเหลืองจาก ชา กาแฟ ก็อย่าชะล่าใจ และปล่อยทิ้งไว้โดยไม่พยายามทำความสะอาดตั้งแต่แรก เพราะถ้าเห็นว่าเริ่มมีคราบเมื่อไร ก็สามารถใช้เม็ดฟู่ทำความสะอาดฟันปลอม หรือรีเทนเนอร์มาช่วยทำความสะอาดได้ โดยให้เติมน้ำอุ่นลงไปในแก้ว และใส่เม็ดฟู่ตามลงไป จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จึงค่อยนำมาขัดล้างอีกครั้ง ก็จะเป็นการช่วยให้คราบเหลือง จากชากาแฟไม่ฝังลึกในพื้นผิว และไม่ต้องออกแรงขัดมากเท่าเดิมด้วย
4 . เบกกิ้งโซดา
เบกกิ้งโซดานั้นสามารถช่วยขจัดคราบชากาแฟได้เหมือนกัน ที่สำคัญยังใช้ได้ทั้งคราบที่เลอะอยู่ในแก้วเซรามิค รวมทั้งคราบในหม้อสเตนเลส แค่ผสมเบกกิ้งโซดาเข้ากับน้ำเพียงเล็กน้อย ให้กลายเป็นเนื้อครีมข้นและนำไปป้ายทิ้งไว้ให้ทั่วพื้นผิวด้านในแก้ว หลังจากทิ้งไว้สัก 5 – 15 นาที จึงค่อยลงมือขัดอออก โดยสามารถใช้แปรงทองเหลืองสำหรับการขัดหม้อต้มสเตนเลส และใช้แผ่นใยขัดอเนกประสงค์ หรือผ้าแห้งมาขัดแก้วกาแฟ
5 . น้ำส้มสายชู
เมื่อต้องการขจัดคราบสักอย่างทั้งที ก็มักจะต้องมีน้ำส้มสายชูด้วยเสมอ สำหรับการขจัดคราบชากาแฟ ด้วยน้ำส้มสายชูนั้นก็สามารถนำไปใช้ได้ทั้งคราบในแก้วเซรามิค และหม้อสเตนเลส จะผสมน้ำอุ่น และน้ำส้มสายชูอย่างละเท่ากัน ๆ ลงในภาชนะให้เต็ม และแช่ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ก่อนนำมาขัด หรือจะผสมน้ำส้มสายชู ⅓ ของปริมาณน้ำเปล่าลงในกะละมัง และนำแก้วกาแฟมาแช่ทิ้งไว้ รวมกันก่อนขัดทำความสะอาดทีเดียว
6 . เลมอนและเบกกิ้งโซดา
ทำความสะอาดคราบชากาแฟจากส่วนผสมธรรมชาติได้ด้วยการใช้เลมอน โดยขั้นแรกนั้นให้เลมอนออกมาเป็นครึ่งซีกและนำไปขัดให้ทั่วพื้นผิวภาชนะที่เลอะคราบชากาแฟ ถ้าหากคราบที่เลอะอยู่ยังไม่สะอาดหมดจดพอ ก็สามารถนำเบกกิ้งโซดาไปป้ายทิ้งไว้อีกสัก 3 – 5 นาที คราวนี้จึงค่อยลงมือขัดซ้ำอีกครั้ง ให้เบกกิ้งโซดา และน้ำเลมอนได้ช่วยกันออกฤทธิ์ขจัดคราบที่ฝังอยู่ อีกทั้งยังช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ด้วย
7 . น้ำส้มสายชูและน้ำยาล้างจาน
มาเพิ่มพลังการขจัดคราบด้วยส่วนผสมยอดฮิตในครัว อย่างน้ำยาล้างจาน และน้ำส้มสายชูกันดีกว่า สูตรนี้จะเป็นส่วนผสมสำหรับแช่แก้ว ที่มีคราบชากาแฟสะสม โดยจะใช้น้ำยาล้างจาน และน้ำส้มสายชูอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ เติมลงไปในแก้ว และตามด้วยการเทน้ำร้อนอีกประมาณ 2 ถ้วยตวง ลงไปผสมให้เข้ากัน จากนั้นทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาที จึงค่อยเทส่วนผสมออก และนำมาขัดล้างทำความสะอาดให้หมดจดอีกครั้ง
เช็คก่อนใช้ ! งานบ้านแบบไหนห้ามใช้น้ำส้มสายชูบ้าง