The hamlet เมล็ดพันธุ์เล็กๆปลิวลอยตามลมมาตกยังบริเวณรอยแตกบนกำแพงคอนกรีตในซอกตึกที่ไร้ผู้ใดสนใจ และเริ่มหยั่งรากลึกเพื่อเจริญเติบโต
แม้ลำบากเพียงใด ขอเพียงแสงแดดและหยดน้ำอันน้อยนิดที่ธรรมชาติมอบให้ ก็เติมเต็มให้ต้นกล้าเริ่มเติบใหญ่ ไม่ช้าก็ผลิดอกให้สีสันสวยงาม เฉกเช่นเดียวกับดอกไม้ในสวนของ คุณป็อบ-ฐานวัฒน์ สุวินัย พฤษเบ็ญจะ ภายในร้านอาหาร The hamlet ซอยอารีย์ 3 ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านอาหาร แกลเลอรี่ ร้านของแต่งสวน และบริษัทรับจัดสวน Mc & Ami
ดอกไม้นานาพันธุ์ชูช่อสลอนทั้งภายนอกและภายในร้านที่เชื่อมต่อกันด้วยรั้วกระจกใส อวดสายตาล่อเหล่าผีเสื้อให้มาดอมดม ไม่เว้นแม้แต่ผู้คนที่ผ่านไปมาบนถนน ก็ต้องหยุดชมและถามไถ่ถึงโครงการนี้ด้วยความสนใจ รวมถึงทีมงาน “บ้านและสวน” ที่ออกเดินทางมาเยี่ยมชม เมื่อมาถึงคุณป็อบกำลังจัดโต๊ะอาหารในสวนเพื่อเตรียมเลี้ยงต้อนรับพวกเรา โดยนำข้าวของง่ายๆมาประยุกต์จัดวางอย่างเก๋ไก๋มีสไตล์ ท่ามกลางแสงแดดอุ่นๆในยามเช้า สีสันจากดอกไม้ในสวนและบนโต๊ะอาหารสร้างบรรยากาศที่ดูมีชีวิตชีวา อดไม่ได้ที่จะถามถึงแรงบันดาลใจในการจัดสวนแห่งนี้ คุณป็อบให้คำตอบว่า“แรงบันดาลใจเกิดจากหนังสือเล่มหนึ่งที่ได้มาจากอาจารย์ที่ผมเคารพ (รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิง ปรีญาจิต เจริญวงศ์) เป็นหนังสือเกี่ยวกับสวนของ Claude Monet ท่านยังให้พรว่าให้ผมมีชีวิตบั้นปลายที่มีความสุขเหมือนกับโมเนต์ คืนหนึ่งผมก็คิดถึงคำพูดนั้นจึงนำไม้ดอกและไม้ประดับที่มีอยู่มาจัดสวนให้มีความเป็นธรรมชาติและสีสันสวยงามแบบสวนของโมเนต์ หลังจากนั้นก็เริ่มจัดเรื่อยมาจนเสร็จออกมาอย่างที่เห็น”
หลังรับประทานอาหารเสร็จแล้ว เราลุกเดินชมสวนต่อเพื่อย่อยอาหารไปในตัว แม้สวนนี้จะมีขนาดเล็ก แต่ก็อัดแน่นด้วยไอเดียการตกแต่งแทรกไปในทุกส่วน โดยเฉพาะตุ๊กตาปูนปั้นรูปแบบดูแปลกตาที่คุณป็อบออกแบบเอง ทั้งครอบครัวหมูน้อยในสวนซึ่งไม่ได้พบเห็นบ่อยนัก ตุ๊กตาสิงโตที่ตกแต่งด้วยต้นเคราฤๅษีเป็นขนแผงคอ และตุ๊กตาเป็ดคาบถุงใส่ไข่ ชวนให้เกิดอารมณ์ขันในระหว่างชมสวนได้เป็นอย่างดี
นอกจากการตกแต่งที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใครแล้ว การเลือกพรรณไม้และการจัดวางภายในสวนยังมีแนวคิดน่าสนใจไม่แพ้กัน โดยผสมผสานไม้ดอกและไม้ประดับแทรกไปกับไม้เมืองร้อน ไม้ต่างประเทศ และผักสวนครัว น่าแปลกใจที่ทุกต้นเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี
“แนวคิดในการจัดสวนของผมก็เหมือนกับการโปรยเมล็ดพันธุ์ในธรรมชาติ แล้วปล่อยให้เจริญเติบโตเอง ผมมองว่าสวนแห่งนี้ดูสวยงามตรงที่การจัดวาง นำต้นไม้ที่ไม่ควรอยู่ในบริเวณนี้มาลองอยู่แบบผิดที่ผิดทางและปรับตัวสู้กับธรรมชาติ เกิดเป็นรูปทรงที่งดงามเปลี่ยนไปจากเดิม ไม่ว่าจะเป็นการแผ่กิ่งก้านสาขา ลักษณะดอก หรือสีสันของใบ ขณะเดียวกันตอนปลูกเราก็ต้องคิดว่าถ้าต้นนี้เติบโตจะอยู่กับต้นข้างๆได้ไหม สามารถพึ่งพาร่มเงาหรือเลื้อยตามอีกต้นหนึ่งได้หรือไม่”
อีกหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ในสวนแห่งนี้ก็คือพรรณไม้ในสวนเกือบทั้งหมดเติบโตอยู่บนพื้นคอนกรีต เดิมพื้นที่นี้เป็นลานจอดรถ เมื่อคุณป๊อบเปิดร้าน ด้วยความที่อยากมีสวนเป็นมุมต้อนรับด้านหน้า จึงตัดสินใจก่อกระบะปูนจากเศษผนังที่ทุบทิ้งระหว่างปรับปรุงร้าน ทำทางระบายน้ำข้างใต้และใส่ดินสำหรับปลูก จากนั้นจึงค่อยลงต้นไม้ “ผมสนุกนะที่สวนนี้มีโจทย์ท้าทายให้เราได้คิด การที่บ้านของเรามีแต่ลานพื้นคอนกรีตแข็งใช่ว่าจะไม่สามารถมีสวนได้ ขอแค่มีไอเดียและใจรักก็สร้างสวนของเราได้ หากสังเกตผมจะเลือกพรรณไม้ที่มีระบบรากไม่ลึกมาก สามารถอยู่ในชั้นดินตื้นๆได้ เช่น ไผ่เฟิน ไม้ดอก ไม้พุ่ม และผักสวนครัว พอปลูกไปสักพักเราพบว่าเป็นการดีเสียอีก เพราะต้นไม้ที่เราปลูกจะโตช้า ออกดอกได้นาน ไม่ต้องคอยตัดแต่งอะไรมาก”
แม้ดอกไม้จะแบ่งบานผิดที่ผิดทาง ผิดรูปทรงไปจากที่ควรจะเป็น แต่ก็ยังสู้อุตส่าห์เติบโต สร้างความงามหล่อเลี้ยงใจของผู้คน เป็นสัจธรรมที่สื่อให้เห็นว่า การปรับตัวและไม่ยอมแพ้ ก็ทำให้เรามีชัยเหนืออุปสรรคทั้งปวง แม้แต่แผ่นปูนอันแข็งแกร่งก็มิอาจต่อกร นับเป็นชัยชนะที่งดงามจริงๆครับ
เรื่องโดย : ปัญชัช
ภาพโดย : ชัยพฤกษ์ โพธิ์แดง