สวน 4 ฤดู ท่วงทำนองของไวโอลินอันแสนไพเราะในบทเพลงคลาสสิก The Four Seasons ของ Antonio Vivaldi คีตกวีเอกของโลก นักประพันธ์เพลงคลาสสิกและนักไวโอลินชาวอิตาลี คือแรงบันดาลใจที่ผู้ออกแบบนำมาใช้เป็นโครงเรื่องหลักในการบรรจงถ่ายทอดทุกรายละเอียดลงไปในสวน โดยมีฤดูกาลเป็นตัวกำหนดการจัดองค์ประกอบให้สวนแห่งนี้สวยงามดังที่เห็น คุณภิรมย์ศักดิ์และคุณสุดารัตน์ สาสุนีย์ เจ้าของบ้านหลังนี้ เคยใช้ชีวิตช่วงเวลาหนึ่งในประเทศอังกฤษ รวมถึงลูกๆทั้งสามคนก็เรียนจบจากที่นั่น ทำให้ทั้งสองท่านซึมซับบรรยากาศความงดงามในการตกแต่งบ้านและจัดสวนแบบอังกฤษอยู่ในใจ เมื่อ คุณหนุ่ม – นิติ เศรษฐนันท์ สถาปนิกและนักจัดสวน มีโอกาสเข้ามาออกแบบจัดสวนให้เป็นอย่างที่ทั้งสองท่านชอบ ในที่สุดภาพสวนสวยแสนอบอุ่นเจือกลิ่นอายอังกฤษก็เริ่มต้นขึ้น
“เจ้าของบ้านมีรสนิยมที่ดีมากครับ มีความชอบในความเป็นคลาสสิก ของใช้ในการตกแต่งภายในบ้านเป็นสไตล์ยุโรปที่คัดสรรมาอย่างดี ซึ่งได้มาจากการเดินทางไปต่างประเทศอยู่บ่อยๆ แต่สวนเดิมที่แวดล้อมบ้านยังไม่ได้บรรยากาศที่สอดคล้องกันนัก จึงได้วิเคราะห์ในรายละเอียดว่าสวนสไตล์ยุโรปที่เหมาะสมกับบรรยากาศโดยรวมของบ้านและคาแร็กเตอร์ของเจ้าของบ้านคือรูปแบบใด ทำให้ได้ข้อสรุปโดยรวมเป็นสวนคอนเทมโพรารีคลาสสิกและสวนอิงลิชคอตเทจในโซนสุดท้ายซึ่งมีรูปแบบของห้องเก็บของเป็นตัวกำหนดสไตล์ หลังจากนั้นจึงออกแบบโดยสร้างบริบทโดยรวมทั้งหมดให้มีความกลมกลืน อบอวลด้วยบรรยากาศที่มีความสุนทรีย์ หรูหรา สง่างาม ถ้าใครที่ได้มาชมสวนก็จะมีความรู้สึกว่ากำลังเดินอยู่ในต่างประเทศ ผ่านการถ่ายทอดมาจากบทเพลงคลาสสิกอย่าง The Four Seasons อันมีเอกลักษณ์ ไพเราะ และมีชื่อเสียงโด่งดังยาวนานเกือบสามร้อยปี โดยมีเนื้อหาบรรยายถึงภูมิทัศน์การเปลี่ยนแปลงฤดูกาลของยุโรป จึงพยายามสะท้อนออกมาเป็นรูปแบบสวนสไตล์ยุโรปในแต่ละฤดู ตามท่วงทำนองเพลงที่ Vivaldi ได้ประพันธ์ไว้ ออกมาเป็นสวน 4 ฤดู คือ Spring, Summer, Autumn, และ Winter ดังที่ได้ชมกันครับ”
ตลอดทางเดินหินในสวนจึงมีโน้ตของเนื้อเพลงสลักลงไปเป็นลูกเล่นเหมือนเพลงกำลังบรรเลงพร้อมไปกับการชมสวนตามฤดูต่างๆ ผู้ออกแบบยังเลือกใช้ต้นพัดโบกซึ่งมีดอกหน้าตาเหมือนกับตัวโน้ตมาตีความเติมลงไปในสวน สร้างลูกเล่นแสนน่ารัก ตลอดจนของตกแต่งต่างๆที่ล้วนมีเรื่องราวสอดคล้องกลมกลืนกันทั้งหมด สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็นรายละเอียดที่คิดมาเป็นอย่างดี บนพื้นที่ทั้งหมด 200 ตารางวา มีการแบ่งสวนเป็น 4 ส่วนหลัก โดยออกแบบให้แต่ละส่วนร้อยเรียงเข้ากับทั้งสี่ฤดูกาล ใช้พรรณไม้และโทนสีเป็นตัวบอกเรื่องราวนั้นๆ ยามเดินชมสวนก็จะพบความรื่นรมย์ที่ต่างกันไปตามแต่ละฤดูที่ส่งผ่านออกมา นอกจากไม้ใบหลากสีสันที่นำมาใช้แล้ว ก็ยังมีไม้ดอกแสนสวยนานาชนิดซึ่งได้ คุณธัญปวีณ์ ศิริกุลชัยรักษ์ เป็นผู้ร่วมออกแบบการใช้ไม้ดอกในแต่ละจุด ทำให้สวนดูสวยงามและสมบูรณ์ครบมากยิ่งขึ้น
Glory of Spring
ฤดูใบไม้ผลิ อันแสนงดงามที่บรรยายถึงการเริ่มต้นของฤดูกาล มาพร้อมกับความสุข ความสดชื่น ความร่าเริงที่เต็มไปด้วยใบไม้และดอกไม้สะพรั่ง จัดไว้บริเวณมุมหน้าบ้านซึ่งทำเป็นลานกรวด วางโต๊ะสนามสีขาวเด่นท่ามกลางต้นสนและดอกไม้นานาชนิด รวมทั้งน้ำพุซึ่งเห็นได้เด่นชัดเมื่อเปิดประตูบ้านออกมา รอบๆจัดวางตุ๊กตาสัตว์ เช่น ผีเสื้อ กระรอก กระต่าย และนก มีดอกไม้ในโทนสีพาสเทล เช่น ชมพู ม่วง เหลือง ฟ้า และคราม ได้แก่ เข็มม่วง ผีเสื้อแสนสวย กุหลาบ ไฮเดรนเยีย และแวววิเชียร แซมอยู่ในแปลงต้นไม้ สื่อถึงธรรมชาติที่พบเห็นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
Summer of Bliss
ฤดูร้อน สื่อออกมาเป็นพรรณไม้สีโทนร้อนตามความรู้สึกของเพลง จัดตกแต่งออกมาเป็นสวนแนวตั้งหลากสีสันตลอดแนวกำแพงยาวกว่า 16 เมตรของที่จอดรถ ช่วยลดทอนความแข็งของกำแพงลงได้ เลือกพรรณไม้สไตล์ทรอปิคัลซึ่งมีสีสันร้อนแรง เช่น สีแดงและชมพูของออมนาค ให้เชื่อมต่อจากฤดูใบไม้ผลิ และเบรกสีด้วยไม้ใบเขียวอ่อนเข้มที่มีลักษณะห้อยย้อย
Elegance of Autumn
ฤดูใบไม้ร่วง เริ่มต้นตั้งแต่ซุ้มประตูกุหลาบสีแดงสด ต่อเนื่องเข้าไปด้านในยาวตลอดบ่อน้ำพุ ผ่านทางเดินหินที่ปรากฏตัวโน้ตจากเนื้อเพลงเป็นระยะ ขนาบข้างด้วยฤๅษีผสมสีม่วงอมแดง มีลานกรวดซึ่งยกพื้นขึ้นมาและล้อมกรอบด้วยต้นไม้จัดวางในลักษณะฟอร์มัลดูหรูหรา มุมนี้ยังโดดเด่นด้วยประติมากรรมคิวปิดสไตล์บารอก ซึ่งได้แรงบันดาลใจในการเลือกชิ้นงานมาตกแต่งจากความน่ารักและสดใสร่าเริงของหลานชาย น้องเปอตี-เอลวิล พวงสาโรจน์ สวนโซนนี้ออกแบบให้เชื่อมต่อจากฤดูร้อนใกล้เข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยว จึงเลือกใช้สีสันที่สื่อถึงความรื่นเริง งานเลี้ยง ใบไม้ที่เริ่มเปลี่ยนสีและอากาศที่เย็นลง ผู้ออกแบบตีความโดยใช้ต้นเมเปิ้ลและคริสตินาซึ่งมีสีส้มอมแดงจนถึงสีน้ำตาล ดูคล้ายใบไม้กำลังเปลี่ยนสีช่วงปลายฤดูกาลก่อนเข้าสู่ฤดูหนาว
Winter of Prosperity
ฤดูหนาว ชวนให้นึกถึงภาพหิมะขาวโพลนและลมแรง ในมุมนี้จึงใช้กรวดสีขาวปูเป็นพื้นสวน มีพรรณไม้ที่มีใบและดอกโทนสีขาว มองเผินๆก็ชวนจินตนาการได้ว่ามีปุยหิมะเกาะอยู่ตามกิ่งและใบไม้ รวมทั้งพรรณไม้โทนสีฟ้าอมเทาที่สื่อถึงฤดูหนาวได้ดี ได้แก่ เล็บครุฑใบผักชีด่าง เศรษฐีเรือนนอก ซิลเวอร์บอตตอน สนบอล สนบลู เป็นต้น และเลือกใช้แก้วมุกดาซึ่งมีฟอร์มลู่ลมดูเหมือนมีลมพัดให้ต้นไม้เอนไหวในมุมนี้
การค่อยๆเดินซึมซับบรรยากาศสวนในแต่ละมุม สัมผัสกับความรู้สึกที่เปลี่ยนไปทุกครั้งที่ยามเดินเข้าสู่สวนที่ตั้งใจจัดให้แตกต่างกันไปตามฤดูกาล พร้อมๆกับชื่นชมดอกไม้ที่ชูช่ออวดโฉมในแปลงต้นไม้ คลอด้วยเสียงเพลงคลาสสิกอันไพเราะ ช่างเป็นอีกช่วงเวลาแห่งความสุขอันแสนอบอุ่นที่ส่งผ่านออกมาให้สัมผัสได้ในสวนสวยแห่งนี้
Owner’s Talk
สวนเดิมและปรับเปลี่ยนสวนที่เกิดขึ้น
Owners : “สวนเดิมจัดมาประมาณ 10 ปีได้ เป็นสไตล์สวนเมืองร้อนทั่วไปครับ มีสระน้ำ ส่วนหน้าบ้านมีบ่อน้ำเล็กๆ เริ่มต้นคืออยากเปลี่ยนแปลงตรงนี้หน่อย ยังคงบ่อเดิมไว้แต่กรุวัสดุใหม่ทั้งหมด ติดน้ำพุเพิ่ม แล้วใช้ระบบน้ำช่วยให้เราประหยัดน้ำมากขึ้น ส่วนไม้ใหญ่เป็นต้นเดิม มีเอาออกไปบ้าง เช่น จันทน์ผา ลั่นทม เพราะว่าไม่เข้ากับธีมสวน โดยเพิ่มสนฉัตรเข้ามา
“ตัวเราชอบสไตล์ยุโรปจะเห็นว่าการแต่งบ้านอะไรต่าง ๆก็จะเป็นในแนวนั้น ก็เลยคุยกับคุณหนุ่ม ซึ่งเป็นสถาปนิกมาดูแลตกแต่งบ้าน แล้วคุณหนุ่มคงสังเกตว่าเราชอบอะไรก็นำเสนอ ปรากฏว่าเป็นสถาปนิกที่ถูกใจมาก พูดอะไรตรงกันเป๊ะเลย เหมือนรู้ใจหมด จากนั้นก็วางคอนเซ็ปต์กัน เซ็ตธีมก่อนว่าสวนจะออกมาเป็นแนวนี้ พี่ว่าเราโชคดีที่ได้คนที่คลิกกัน พอตอนหลังมาคุณหนุ่มเสนออะไรแล้วใช่ก็ปล่อยเลย พี่เป็นคนละเอียดอ่อนค่ะ ชอบต้นไม้ใบเล็ก ดอกไม้กระจุ๋มกระจิ๋มแล้วก็ให้อยู่ทนอย่างนี้ พอทำออกมาก็ถูกใจทุกเรื่องไม่มีแก้ไขเลย”
การพูดคุยกับผู้ออกแบบ
Owners : “คุณหนุ่มมาเสนอไอเดียและใช้เวลาในการคิดละเอียดมาก แล้วก็จะถามคนที่บ้านว่าชอบอะไรยังไง คิดถึงหลาน เขาสังเกตว่าเรามีหลานเป็นดวงใจของที่นี่ ก็จะใส่ของตกแต่งที่สะท้อนความสดใสของหลานออกมา เช่น รูปปั้นคิวปิด แล้วก็คิดธีมออกมาเป็น 4 แบบ ให้แต่ละมุมสวนมีเรื่องราวของฤดูต่าง ๆ ส่วนตัวเราเชื่อสถาปนิก เมื่อคลิกกันแล้วเราปล่อยเลย เหมือนกับเราได้เจอคนที่รู้จักกันหมด เขาเสนออะไรก็คิดถึงเราด้วย เหมือนเป็นสวนของตัวเอง เข้ามาดูแลตลอด แล้วก็ช่วยเราประหยัดด้วย”
ความรู้สึกที่มีต่อสวน
Owners : “สวนนี้จัดเสร็จมาปีกว่ามีต้นไม้ตายบ้างเล็กน้อยและเอามาเสริมบ้าง ที่บ้านจะรับแขกไม่บ่อยนักเพราะว่าไม่ค่อยได้อยู่บ้าน แต่ว่าจะภูมิใจเวลาใครไปใครมาแล้วชอบสวน เราก็มีความสุข คนที่เคยมาเมื่อปีที่แล้วยังบอกเองว่าตอนนั้นสวนไม่สวยขนาดนี้ พอเขามาอีกทีก็บอกสวนสวยขึ้นเยอะ พอถ่ายรูปไปลงเฟสบุ๊ก ทุกคนจะบอกตรงกันว่าบ้านสวยมาก
“ตรงสวนแนวตั้งจะดูแลยากหน่อย แต่สามารถจัดได้ขนาดนี้ก็ถือว่าดีทีเดียว ใครมาเห็นก็ชอบ ถ้าเพื่อนหรือแขกมาแล้วชอบสวนของเรา เราก็รู้สึกว่ามีความสุข เวลาใครมาก็จะบอกว่าเหมือนสวนอังกฤษ เลย ทุกคนที่เห็นเอ๊ะ! ทำไมเหมือนจัง เราหรือคุณหนุ่มได้ยินก็แฮปปี้ นั่นคือคำตอบแล้วว่าเขาเข้าใจกับสิ่งที่เรานำเสนอออกไปค่ะ”
อ่านเพิ่มเติม : สวนทรอปิคัลอังกฤษ สองสไตล์ที่ลงตัว
เขียน : วรัปศร
ภาพ : สิทธิศักดิ์ น้ำคำ