รีโนเวตทาวน์โฮม ที่มีหน้าแคบแต่ลึกยาว ให้ได้บรรยากาศโปร่งสบายและมีแสงธรรมชาติเข้าถึง พร้อมกับเชื่อมต่อออกไปสู่พื้นที่สวนด้านข้างได้เหมือนบ้านเดี่ยว จนลืมไปเลยว่านี่เคยเป็นบ้านทาวน์โฮมมาก่อน
ปัญหาหลักๆ ของทาวน์โฮมมักเป็นเรื่องพื้นที่ใช้สอยขนาดจำกัด มีความเป็นส่วนตัวน้อยเพราะใช้ผนังร่วมกันจึงทำให้บริเวณกลางบ้านถูกปิดทึบ เพราะไม่ค่อยได้รับแสงสว่างจากธรรมชาติ แต่บ้านทาวน์โฮมหลังนี้สามารถแก้ทุกข้อจำกัดเหล่านี้ได้ โดย รีโนเวตทาวน์โฮม ให้กลายเป็นเหมือนบ้านเดี่ยวที่มีสวนพร้อมมุมนั่งเล่นนอกบ้าน แถมด้วยลานกีฬาเล็กๆ หน้าบ้านให้ลูกชายเล่นบาสเก็ตบอลได้อย่างสบาย
จุดเริ่มต้นนั้นมาจากความต้องการหาบ้านหลังใหม่ที่อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนของลูกชาย ทั้ง คุณเอ-ธัชกรและคุณปร๊าด-สุธีรา ขุมมงคล จึงย้ายจากบ้านเดี่ยวหลังเดิมย่านบางนามา แต่เมื่อยังไม่เจอบ้านที่ถูกใจจึงเลือกอยู่ทาวน์โฮมในทำเลที่ต้องการไปก่อน ซึ่งทุกวันที่ขับรถส่งลูกชายไปโรงเรียน ทั้งคู่มักผ่านบ้านหลังนี้ที่เป็นบ้านทาวน์โฮมหัวมุมและมีพื้นที่ร่มรื่นนอกบ้าน เพราะโอบล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ทั้งด้านหน้าและด้านข้างตามลักษณะที่ทั้งคู่มองหาและต้องการ
“ที่นี่เคยเป็นบริษัทยามาก่อน แล้ววันหนึ่งเขาก็ประกาศขาย เรามองว่าเป็นบ้านที่อยู่ในทำเลที่ดีสุดของหมู่บ้านเลยก็ตัดสินใจซื้อทันที แล้วก็หาคนออกแบบอยู่นานกว่าจะมาเจอกับ คุณเจ – ภูเมศร์ เตชะบรรเจิด จาก Huippudesign (ฮุอิปปุดีไซน์) ใน Directory ของบ้านและสวนนี่แหละ แปลนเดิมของทาวน์โฮมก็คือหน้าแคบแต่ลึกยาวมาถึงด้านใน และก็มี 2 ห้องนอนเล็กๆ กับอีก 1 ห้องนอนใหญ่ ซึ่งเราอยากจะปรับใหม่ให้พอดีกับการอยู่กันแค่พ่อแม่ลูก 3 คน และอยากได้แสงธรรมชาติ ความโปร่งสบาย กับการเปิดมุมมองออกไปเห็นสวนเห็นต้นไม้ข้างนอกได้ ส่วนภายในอยากให้เป็นโทนสีอ่อนสว่างแต่ไม่มินิมัล เพราะเรามีของสะสมสีสันค่อนข้างเยอะ ถ้าเป็นมินิมัลแล้วก็คงไม่รู้จะวางของกันอย่างไรดี”
เปลี่ยนแปลนและต่อเติม
สิ่งแรกที่คุณเจ ผู้ออกแบบให้ความสำคัญต่องานรีโนเวตปรับเปลี่ยนทาวน์โฮมให้เป็นเหมือนบ้านเดี่ยวก็คือฟังก์ชันที่เจ้าของบ้านต้องการ จึงเป็นที่มาของการรื้อผนังด้านข้างเดิมออกเพื่อขยายพื้นที่ส่วนนั่งเล่นให้เข้าใกล้กับสวนข้างบ้านมากขึ้น และเลือกใช้บานเฟี้ยมกระจกแทนผนังทึบเพื่อเปิดมุมมองพร้อมรับแสงธรรมชาติเข้าสู่ภายในอย่างเต็มที่ สร้างทัศนียภาพให้เหมือนอยู่ในบ้านเดี่ยวที่มีสวนโอบล้อมและคงความเป็นส่วนตัว
“เราชอบทำงานรีโนเวตอยู่แล้วเพราะชอบจัดสเปซใหม่ให้บ้าน อย่างหลังนี้เน้นปรับผังใหม่บริเวณชั้นล่างกับชั้น 2 เริ่มจากเพิ่มโถงทางเข้าเล็กๆ ให้เป็นจุดพักก่อนเข้าบ้าน ย้ายห้องน้ำกลางบ้านไปไว้ข้างหลังและต่อเติมครัวไทยเพิ่มขึ้นมาพร้อมกับส่วนซักล้างให้อยู่เป็นสัดส่วนในบริเวณเดียวกัน ทำให้ต้องลงเสาเข็มใหม่เพิ่มที่หลังบ้าน ส่วนชั้น 2 ก็ลดห้องนอนให้เหลือห้องเดียวและย้ายมุมห้องน้ำใหม่ไปอยู่ด้านหลังตรงกับแนวห้องน้ำชั้น 3 โดยทำให้ชั้นนี้เป็นพื้นที่ส่วนตัวของ น้องไบรท์ (ลูกชาย) เชื่อมต่อกันทั้งห้องหนังสือที่เจาะช่องหน้าต่างเพิ่มให้ใหม่ ส่วนนั่งเล่นที่ออกแบบคล้ายเป็นห้องลับเล็กๆ และห้องนอน สิ่งที่ต้องจัดการให้ดีก็คืองานระบบ เพราะต้องย้ายมุมและวางตำแหน่งติดตั้งใหม่ รวมถึงจัดเตรียมพื้นที่เก็บของให้เพียงพอกับความต้องการและต้องดูสวยกลมกลืนไปกับฟังก์ชันอื่นๆ ด้วย แล้วถึงมาเติมเรื่องงานดีไซน์เพื่อสร้างบรรยากาศให้บ้านต่อไป”
สร้างบรรยากาศด้วยดีไซน์และวัสดุ
หลังจากที่คุณเจได้ดูภาพตัวอย่างที่เจ้าของบ้านทั้งคู่รวบรวมตามความชอบมาให้แล้ว จึงออกแบบมาในแนวสแกนดิเนเวียที่นำโทนสีเขียวตุ่นหรือเขียวอมเทามาเพิ่มสีสันและความผ่อนคลายภายในบ้าน ตั้งแต่ผนังห้อง โถง ซึ่งเป็นทั้งมุมนั่งพักก่อนเข้าและออกจากบ้าน โดยออกแบบให้มีพื้นที่เก็บของได้เยอะ เพิ่มเสน่ห์ด้วยพื้นหินอ่อนที่จัดวางแพตเทิร์นให้ดูเป็นกราฟิกสนุกๆ
“แต่เมื่อเข้ามาสู่ส่วนนั่งเล่นกลางบ้านซึ่งเป็นมุมที่เจ้าของบ้านใช้งานตลอดทั้งวัน ก็พยายามออกแบบให้สบายที่สุดด้วยมู้ดธรรมชาติ ใช้ประโยชน์จากต้นไม้ใหญ่รอบๆ โดยเปิดมุมมองเพื่อดึงธรรมชาติเข้ามาภายใน ทำให้นั่งในบ้านแล้วไม่รู้สึกอึดอัด สร้างฟังก์ชันของมุมนั่งเล่นที่หลากหลาย ทั้งโซฟาขนาดใหญ่ที่บิลท์อินติดไปกับเสาโครงสร้างเดิม เติมช่องทางเดินด้านข้างที่สามารถวางโต๊ะเตี้ยแบบญี่ปุ่น เวลาเปิดบานเฟี้ยมกระจกออกก็สามารถนั่งห้องขาชมสวนได้ และมีมุมแพนทรี่สวยๆ สำหรับเป็นมุมกาแฟ กับโต๊ะกินข้าวและเก้าอี้ไม้ผสมหวายสานในมุมที่เปิดโล่งมองเห็นสวนได้สบายตา จึงเกิด Interact หลายๆ อย่างจากพื้นที่ส่วนกลางนี้ จะเป็นส่วนตัวก็ได้ ขยายออกไปรอบๆ ก็ได้ เวลามีปาร์ตี้ก็ใช้งานได้หลากหลาย อยู่ภายในบรรยากาศที่สดชื่นและรู้สึกถึงพลังงานบวก”
ไม่แปลกใจเลยที่คุณปร๊าดและคุณเอต่างก็ยกให้พื้นที่นี้เป็นมุมโปรดของตัวเอง เพราะทั้งคู่บอกว่า “เราชอบความโปร่งสบายที่มองเห็นธรรมชาติได้ดี รู้สึกถึงความผ่อนคลายตลอดเวลา และสามารถอยู่ได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ เพราะแต่ละมุมก็ให้ความรู้สึกต่างกัน จะนั่งโซฟาเพื่อมองไปข้างนอกหรือนั่งโซฟามองมุมในบ้าน นั่งจิบกาแฟตรงแพนทรี่แล้วมองหน้ากันเฉยๆ ก็มีความสุข เพราะบรรยากาศรอบบ้านดีเราก็รู้สึกดีตามไปด้วย”
นอกจากนี้ยังมีการลงรายละเอียดในส่วนของวัสดุตกแต่งที่มาเพิ่มอารมณ์สนุกๆ ในบ้าน เช่น ชั้นวางบิลท์อินติดผนังที่เป็นหินอ่อนสีเขียว บันได 3 ขั้นแรกที่ปูด้วยหินอ่อนคละสี ผนังห้องที่ปูด้วยกระเบื้องรูปทรงโค้งล้อรับไปกับฝ้าเพดานไม้ลอนโค้งสีขาวเหนือโต๊ะรับประทานอาหาร และพื้นทางเดินที่เป็นกระเบื้องลายหินอ่อนสีเทาคั่นด้วยเส้นทองเหลืองเพื่อแยกฟังก์ชันออกจากพื้นในส่วนนั่งเล่น ไปจนถึงพื้นหินแต่งลายและสีสันภายในห้องนอนของน้องไบร้ทบริเวณชั้น 2
บ้านแห่งความสุขของครอบครัว
เมื่อทุกความชอบในเรื่องดีไซน์ผสมกับฟังก์ชันที่ปรับให้เข้ากับวิถีชีวิตมากขึ้นจึงทำให้ทุกมุมภายในบ้านนี้มีความกลมกล่อม มองแล้วสบายตาสบายใจ แฝงความสงบและเป็นส่วนตัว จนเจ้าของบ้านถึงกับตั้งชื่อเล่นๆ ให้บ้านไว้ว่า “Happy”
“ต้องให้เครดิตคุณเจมากๆ เลย เพราะเขาใส่ใจในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะแนะนำอะไรเราก็ชอบไปหมดทั้งวัสดุตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้ ทำให้รู้สึกว่าได้อยู่ในบ้านที่สมบูรณ์แบบ ขนาดพอดีสำหรับเราสามคน มีพื้นที่ให้ใช้ชีวิตร่วมกัน และอยู่ในสายตาของกันและกัน เพราะหลังโควิด – 19 มาเราก็ไม่ค่อยชอบออกนอกบ้านเท่าไร ฝุ่นก็เยอะ บ้านที่ตอบโจทย์เราได้ครบทำให้เรามีความสุขอยู่กับบ้านได้ทั้งวัน ทำงานที่บ้านก็สะดวก พาพ่อแม่มาปาร์ตี้ที่บ้านก็ชอบทุกคน และได้ใช้ทุกมุมของบ้านให้เกิดประโยชน์คุ้มมาก ก็เลยอยากเรียกบ้านหลังนี้ว่า Happy เพราะอยู่แล้วมีความสุขจริงๆ”
เจ้าของ : คุณธัชกร – คุณสุธีรา ขุมมงคล
ออกแบบ : Huippudesign โดยคุณภูเมศร์ เตชะบรรเจิด
เรื่อง : ภัทรสิริ โชติพงศ์สันติ์
ภาพ : สิทธิศักดิ์ น้ำคำ
สไตล์ : Suanpuk