ต้นไม้กิ่งเปราะ และเสี่ยงแตกหักง่าย เสี่ยงสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนหรือชีวิต มีต้นอะไรบ้างไปติดตามกัน
1. ชมพูพันธ์ทิพย์ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Tabebuia rosea (Bertol) DC. ชื่อวงศ์ : BIGNONIACEA เป็นไม้ยืนต้นโตเร็ว ผลัดใบ สูง 8 – 25 เมตร เลี้ยงดูง่าย ทนโรค ทนแมลง และสภาพน้ำท่วมได้ดี ทิ้งใบหมดทั้งต้นก่อนมีดอก ดอกสีชมพู ออกดอกเป็นช่อกระจุก กิ่งอ่อนเปราะหักง่าย ต้นไม้กิ่งเปราะ
2. ปีป ชื่อวิทยาศาสตร์ : Millingtonia hortensis L.f. วงศ์ Bignoniaceae ไม้ต้นขนาดกลาง สูง 5 – 20 เมตร เรือนยอดรูปไข่ ทรงพุ่มโปร่ง เปลือกต้นสีเทาอมเหลืองแตกเป็นร่องลึก ใบประกอบแบบขนนก ดอกเริ่มบานและส่งกลิ่นหอมในช่วงเย็น และส่งกลิ่นหอมแรงในช่วงกลางคืน ออกดอกในช่วงฤดูหนาว ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดและขุดแยกหน่อที่แตกจากราก กิ่งเปราะหักง่าย
3. จามจุรี ชื่อวิทยาศาสตร์ : Albizia saman (Jacq.) Merr. วงศ์ : FABACEAE เป็นประเภทไม้ต้นขนาดใหญ่ ผลัดใบความสูง 15-20 ม. ทรงพุ่มเรือนยอดรูปร่มแผ่กว้าง กิ่งก้านขนาดใหญ่ ทรงพุ่มทึบ เป็นไม้ต้นให้ร่มเงาขนาดใหญ่ รูปทรงสวยงาม ไม่ควรใช้ในพื้นที่ขนาดเล็ก เนื่องจากทรงพุ่มแผ่กว้าง ทนน้ำท่วมขังแฉะได้ นอกจากใช้ในงานจัดสวนแล้ว ยังนิยมนำใบไปทำปุ๋ยหมักและวัสดุปลูกหรือใช้เพาะครั่งได้ เป็นต้นไม้สัญลักษณ์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มักมีปัญหาหนอนเจาะกิ่งทำให้เปราะหักง่าย
4. พญาสัตบรรณ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Alstonia scholaris (L.) R.Br. วงศ์ : Apocynaceae ไม้ต้นขนาดใหญ่ สูงถึงประมาณ 15 – 25 เมตร เจริญเติบโตได้เร็ว เหมาะกับดินร่วนปนทรายและยังทนแล้ง แต่กิ่งค่อนข้างเปราะหักง่าย รากค่อนข้างใหญ่และชอนไชไปได้ไกล ควรปลูกให้หางจากตัวบ้านประมาณ 6 – 15 เมตร และปลูกให้ห่างจากต้นอื่นประมาณ 8 เมตร
5. ตาเบเหลือง ชื่อวิทยาศาสตร์ : Roseodendron donnell-smithii (Ros.) Miranda วงศ์ : BIGNONIACEAE เป็นประเภทไม้ต้นขนาดเล็ก ผลัดใบ มีความสูง 8-10 ม. เรือนยอดรูปไข่ แตกกิ่งก้านเป็นชั้น เติบโตได้ดีในดินร่วนระบายน้ำดี ทนแล้งได้ดี ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด เปลือกแตกและผุตามธรรมชาติ ต้องพ่นยากันรา ปลูกประดับสวนทั้งแบบต้นเดียว เป็นกลุ่ม ในสนามหรือมุมอาคาร เหมาะกับสวนธรรมชาติ
6. หูกระจง ชื่อวิทยาศาสตร์ : Terminalia ivorensis Chev. วงศ์ : Combretaceae มีความสูง 15 – 20 เมตร ทรงพุ่มทรงพุ่มโปร่ง แตกกิ่งเป็นชั้น มีอัตราการเจริญเติบโตเร็วในดินทุกประเภท และน้ำปานกลาง ทนน้ำท่วมขัง แสงแดดเต็มวัน ขยายพันธุ์โดยการตอนกิ่งหรือเพาะเมล็ด ร่วงไม่ควรปลูกใกล้สระหรือบ่อน้ำ
7. แคนา ชื่อวิทยาศาสตร์ : Dolichandrone serrulata (DC.) Seem. ชื่อวงศ์ : Bignoniaceae ไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ สูงได้ถึงประมาณ 25 เมตร มีกิ่งก้านแตกย่อยออกเป็นจำนวนมาก และกิ่งค่อนข้างเปราะ เจริญเติบโตได้เร็ว ควรปลูกให้ห่างจากตัวบ้านหรือรั้ว 5 – 10 เมตร ถือเป็นต้นไม้ที่คนนิยมปลูกไว้ให้ร่มเงาและต้นแคนายังมีประโยชน์แทบทุกส่วน
8. มะยม ชื่อวิทยาศาสตร์ : Phyllanthus acidus (L.) Skeel วงศ์ : Euphorbiaceae เป็นประเภทไม้พุ่ม มีความสูงสูงได้ถึง 10 เมตร ลำต้นขรุขระ กิ่งเปราะแตกหักง่าย ชอบดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย ทนแล้งและทนน้ำท่วม ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดหรือตอนกิ่ง เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นเล็กๆ แต่ใบร่วงง่าย ต้องหมั่นเก็บกวาดอยู่เสมอ นิยมปลูกหน้าบ้านหรือทางทิศตะวันตก เพราะเชื่อว่าจะมีแต่คนนิยมชมชอบตามชื่อและช่วยป้องกันภูตผีปีศาจ
9. มะฮอกกานี ชื่อวิทยาศาสตร์ : Swietenia macrophylla King วงศ์ : Meliaceae เป็นประเภทไม้ต้นขนาดกลางถึงใหญ่ ดอกสีเหลืองอ่อนหรือเหลืองแกมเขียว ดอกบานมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ออกดอกเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน มะฮอกกานีมีอัตราการเจริญเติบโตเร็วในดินทุกสภาพ ต้องการแสงแดดตลอดวัน น้ำปานกลาง ทนแล้งได้ดี
10. กระถินณรงค์ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Acasia auriculiformis A. Cunn.ex Benth. วงศ์ : FABACEAE ไม้ต้นไม่ผลัดใบ ทรงพุ่มกลม มีกิ่งห้อยย้อย ออกดอกสีเหลืองมีกลิ่นหอม นิยมปลูกประดับในสวนที่มีที่โล่งกว้าง เช่น สวนสาธารณะ สวนป่า หรือตามริมถนน มักพบปัญหาหนอนเจาะลำต้น ทำให้กิ่งเปราะได้ง่าย จึงควรปลูกให้ห่างจากตัวบ้าน นอกจากนี้ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ก็ควรระวัง เพราะอาจแพ้ละอองเกสรได้
ภาพ : คลังภาพบ้านและสวน
บทความที่เกี่ยวข้อง
ต้นไม้บังลม ลดแรงลมพายุ
โรคพืช ที่ชอบระบาดในฤดูฝน
ติมตามไอเดียบ้านและสวนเพิ่มเติมได้ทาง : บ้านและสวน Baanlaesuan.com