10 พรรณไม้มงคลปลูกง่าย คู่ควรมีปลูกประดับบ้าน
ในอดีตนิยมปลูกเลี้ยง ต้นไม้มงคล ชนิดต่างๆไว้รอบบ้าน หากเป็นต้นไม้ก็จะปลูกลงดินในทิศทางที่สามารถให้ร่มเงากับตัวบ้านได้ หรือสามารถเก็บส่วนต่างๆมาบริโภคได้ง่าย ต้นไม้มงคลปลูกในบ้าน
สำหรับไม้นามมงคลที่มีขนาดเล็กก็มักจะปลูกเป็นไม้กระถางไว้หน้าบ้าน เพราะเชื่อว่าจะช่วยปกปักรักษาทุกคนในบ้านให้รอดพ้นจากสิ่งเลวร้ายและอันตรายต่างๆ การเลือกปลูก ต้นไม้มงคลปลูกในบ้าน ชนิดใดก็ตาม ควรศึกษาลักษณะวิสัยของพืชแต่ละชนิดก่อนปลูก เพื่อให้ต้นเติบโตสวยงามให้เราชื่นชมและนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่
ต้นไม้มงคลปลูกในบ้าน
1. ใบเงิน ใบทอง ใบนาก
ชื่อวิทยาศาสตร์ Graptophyllum pictum (L.) Griff.
วงศ์ ACANTHACEAE
ใบเงิน ใบทอง ใบนากมีสีสันแตกต่างกัน นิยมปลูกตามบ้านเรือน โตเร็ว สามารถปลูกเป็นพุ่มประดับตามริมถนนหรือทำรั้วได้ ถ้าตัดแต่งเตี้ยเกินไป พุ่มใบจะโปร่ง ควรตัดแต่งไม่ให้ต้นต่ำกว่า 60 เซนติเมตร เมื่อต้นมีขนาดใหญ่ใบจะไม่สวยเท่าต้นขนาดเล็ก ควรนำไปตัดกิ่งเพื่อไปปักชำต่อเพื่อปลูกใหม่ เชื่อว่าให้โชคลาภเรื่องทรัพย์สินเงินทองและความสมบูรณ์พูนสุข ใช้ประกอบในพิธีกรรมสำคัญและงานมงคลต่างๆตามประเพณีไทย
2. เงินไหลมา
ชื่อวิทยาศาสตร์ Syngonium podophyllum Schott.
วงศ์ ARACEAE
เป็นต้นไม้แผ่เลื้อย โตเร็ว สามารถปลูกในร่มได้ ปลูกเป็นต้นไม้กระถางหรือใส่แจกัน หรือปลูกเป็นต้นไม้คลุมดินในที่ร่ม ทั้งยังทนน้ำขัง หรือใช้ปลูกริมถนนได้ และให้เลื้อยต้นไม้ใบจะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก เชื่อว่าผู้ใดปลูกเลี้ยงจะร่ำรวย มีเงินใช้ไม่ขาดมือ
3. ชวนชม
ชื่อวิทยาศาสตร์ Adenium obesum (Fosk.) Roem. & Schult.
วงศ์ APOCYNACEAE
ต้นไม้อวบน้ำ โตช้า มีดอกสีสันสวยงามและมีหลายรูปแบบ ชอบแดดจัด และไม่ต้องรดน้ำบ่อย ทนแล้งดีมาก ไม่ต้องรดน้ำได้นานถึง 1 เดือน นิยมปลูกในกระถาง หรือใช้จัดสวนกรวดหรือบนระเบียง แต่ควรวางไว้ในตำแหน่งที่ห่างจากมือเด็ก หากปลูกไว้ในบ้านจะช่วยให้เป็นคนมีเสน่ห์และเป็นที่นิยมชมชอบ
4. นางกวัก
ชื่อวิทยาศาสตร์ Alocasia cucullata (Lour.) G.Don.
วงศ์ ARACEAE
มีอีกชื่อว่า นางกวักใบโพธิ์ ว่านกวักศรีมหาโพธิ์ ว่านทรหด หรือว่านเศรษฐีใบโพธิ์ จัดเป็นต้นไม้ล้มลุก อายุหลายปี มีลำต้นใต้ดินเป็นหัว ชอบดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดดครึ่งวันถึงรำไร เป็นว่านที่นิยมมาแต่ครั้งโบราณเชื่อว่าจะช่วยให้บ้านร่มเย็น เป็นสิริมงคล หากกินหัวและใบจะคงกระพันชาตรี แต่ควรระวังเพราะทุกส่วนมีสารแคลเซียมออกซาเลตที่ทำให้คัน
5. ว่านนางคุ้ม
ชื่อวิทยาสตร์ Proiphys amboinensis (L.) Herb.
วงศ์ AMARYLLIDACEAE
ต้นไม้ล้มลุก อายุหลายปี มีลำต้นใต้ดินคล้ายหัวหอม ชอบดินร่วนระบายน้ำได้ดี แสงแดดครึ่งวัน เรียกอีกชื่อว่า ผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน เชื่อว่าสามารถป้องกันอัคคีภัย หากพกหัวติดตัวพร้อมเสกคาถา จะทำให้คงกระพัน
6. โป๊ยเซียน
ชื่อวิทยาสตร์ Euphorbia milii Desmoul.
วงศ์ EUPHORBIACEAE
มีชื่อภาษาไทยว่า มงกุฏหนาม ไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นอวบน้ำ เป็นเหลี่ยมบิดงอเป็นเกลียว มีหนามแหลมติดอยู่เป็นจำนวนมากที่ลำต้น และมียางขาวทุกส่วนของลำต้น มีดอกหลายสีและหลาบรูปแบบ ชอบแดดเต็มวัน ดินร่วน ระบายน้ำดี หรือดินร่วนปนทราย และไม่ต้องการน้ำเยอะ หากปลูกจนให้ดอกครบ 8 หรือ 16 ดอก จะอยู้เย็นเป็นสุขและโชคลาภ
7. พุทธรักษา
ชื่อวิทยาศาสตร์ Canna spp. and hybrid
วงศ์ CANNACEAE
ไม้ล้มลุกอายุหลายปี เหมาะปลูกริมน้ำหรือพื้นที่ที่ชื้นแฉะ ควรหมั่นตัดแต่งหน่อเก่าหลังดอกโรยอยู่เสมอ จะได้ทรงพุ่มที่สวยงามและออกดอกตลอดปี ควรปลูกไว้รอบบ้าน เชื่อว่าจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดภยันตรายใด ๆ ควรปลูกไว้รอบบ้าน เชื่อว่าจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดภันอันตรายใดๆและยังเป็นดอกไม้ประจำวันพ่อแห่งชาติ
8. ว่านมหาลาภ
ชื่อวิทยาศาสตร์ Eucrosia bicolor Ker Gawl.
วงศ์ AMARYLLIDACEAE
ไม้พุ่ม อายุหลายปี ใต้ดินเป็นหัวคล้ายหัวหอมรูปทรงกลมแป้น ชอบแสงแดดครึ่งวัน นำ้ปานกลาง และดินร่วน นิยมปลูกเป็นไม้ประดับมาแต่โบราณ ใช้เป็นว่านเสี่ยงทายโชคลาภ ช่อดอกที่เริ่มบานตัดมาปักแจกันได้นาน 3 – 5 วัน เป็นพืชที่มีสรรพคุณช่วยถอนพิษฝีทุกชนิดและเชื่อกันว่าหากออกดอกหรือแตกกอดีผู้ปลูกจะมีโชคลาภ
9. สาลิกาลิ้นทอง
ชื่อวิทยาศาสตร์ Ficus deltoidea Jack
วงศ์ MORACEAE
หรือเรียกอีกชื่อว่า ไทรใบโพธิ์หัวกลับ ไม้ต้นกึ่งผลัดใบ ชอบแดดจัด น้ำปานกลาง ทนแล้ง ปลูกประดับสวน และทำบอนไซได้ หากใครปลูกไว้จะช่วยให้มีเสน่ห์ด้านการพูดจาและทำมาค้าขึ้น ชาวอินโดนีเซียใช้ผลเป็นสมุนไพรบรรเทาอาการปวดฟันและปวดหัว ทั้งต้นใช้เป็นยาชูกำลังสำหรับสตรี ในมาเลเซียมักใช้ใบและรากบดเป็นผงรักษาแผลรูมาทอย
10. ว่านรางเงิน
ชื่อวิทยาศาสตร์ Hippeastrum reticulatum (L’Herit) Herb.
วงศ์ AMARYLLIDACEAE
ไม้ล้มลุกอายุหลายปี มีลำต้นใต้ดินเป็นหัวกลม ดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดดตลอดวัน ความชื้นในอากาศสูง และโตช้ากว่า เชื่อกันว่าหากใครปลูกไว้หน้าบ้านจะทำให้ค้าขายดี นอกจากนี้ยังนำหัวมาตำและพอกเพื่อรักษาฝี เคล็ดขัดยอก และแผลสดได้ดี
เขียน : อุไร จิรมงคลการ
ภาพ : สำนักพิมพ์บ้านและสวน