ประเภทและการเลือกซื้อเครื่องตัดหญ้า ดูแลสนามให้ราบเรียบเสมอกัน

การตัดหญ้าให้ราบเรียบเสมอกัน ต้องอาศัย เครื่องตัดหญ้า และอุปกรณ์ต่าง ๆ มาช่วยอำนวยความสะดวกและลดระยะเวลาในการตัดหญ้า

ปัจจุบันมี เครื่องตัดหญ้า ให้เลือกหลายรูปแบบ แต่ในที่นี้จะขอกล่าวถึง เครื่องตัดหญ้า 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ เครื่องตัดหญ้าใช้น้ำมันและเครื่องตัดหญ้าใช้ไฟฟ้า

1.เครื่องตัดหญ้าใช้น้ำมัน

เรามักเห็นผู้ให้บริการรับตัดหญ้าใช้เป็นส่วนใหญ่ เหมาะกับสนามหญ้าที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง เพราะตัวเครื่องมีขนาดใหญ่รองรับการใช้งานหนักได้ดี กำลังของเครื่องยนต์ต่อเนื่องดี ตัดหญ้าที่ยาวมากได้ ไม่ต้องเข็นรถตัดหญ้าวนกลับไปกลับมา เพื่อตัดให้สั้นตามต้องการ ทำงานรวดเดียวจบ ไม่มีสายไฟเกะกะ และสามารถทำงานต่อเนื่องได้เป็นเวลานานโดยไม่มีปัญหาอะไร นอกจากนี้ ยังสามารถปรับใบมีดตามความสูงของหญ้าที่จะตัดได้หลายระดับ

2.เครื่องตัดหญ้าใช้ไฟฟ้า

สำหรับบ้านพักอาศัยในปัจจุบันซึ่งมีพื้นที่สนามหญ้าไม่มากนัก หากซื้อเครื่องตัดหญ้าแบบเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันอาจไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไร เพราะเครื่องตัดหญ้าแบบเครื่องยนต์ต้องซ่อมบำรุงและดูแลรักษาพอสมควร อีกทั้งมีราคาแพงกว่าเครื่องตัดหญ้าไฟฟ้ามากทีเดียว ดังนั้นบ้านพักอาศัยที่มีพื้นที่สนามไม่มากควรเลือกใช้เครื่องตัดหญ้าไฟฟ้าครับ เพราะดูแลซ่อมบำรุงน้อยกว่า คือใช้แล้วก็เข็นเก็บได้เลย แค่ปัดเศษหญ้าที่เกาะอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ทิ้งก่อนเก็บ เพื่อไม่ให้เลอะเทอะและไม่ให้มีความชื้นสะสมที่ใบมีด อย่าลืมถอดปลั๊กไฟก่อนหงายเครื่องตัดหญ้าขึ้นทุกครั้งนะครับ

เครื่องตัดหญ้า

เครื่องตัดหญ้าไฟฟ้ายังแบ่งได้เป็น 2 แบบ ตามชนิดมอเตอร์ คือ

2.1 มอเตอร์แบบอินดักชั่น (Induction Motor) มีส่วนประกอบเพียงตัวมอเตอร์และคาปาซิเตอร์ การหมุนของใบมีดเกิดจากสนามแม่เหล็กที่ได้รับจากโครงของมอเตอร์ โดยมีคาปาซิเตอร์ช่วยในการเริ่มหมุนของมอเตอร์

ข้อดี : ปัญหาในการซ่อมบำรุงมีน้อยมาก มอเตอร์ไม่ไหม้ง่าย ๆ และถ้าเป็นยี่ห้อดีหน่อยจะใส่ Thermo Fuse มาให้อีกต่างหาก เมื่อความร้อนสูงเกินไป เครื่องจะหยุดการทำงานโดยอัตโนมัติ พอความร้อนลดลงจนต่ำกว่าค่าที่ตั้งไว้ มอเตอร์จะกลับมาทำงานอีกครั้ง ตัวคาปาซิเตอร์ที่ต้องใช้คู่กับมอเตอร์ชนิดนี้ก็ไม่เสียง่าย แต่ถ้าเสียขึ้นมาก็ซื้อได้จากร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ หรือร้านอุปกรณ์เครื่องปรับอากาศ

ข้อด้อย : มีน้ำหนักมาก เพราะมอเตอร์มีขนาดใหญ่กว่าเครื่องตัดหญ้าที่ใช้มอเตอร์แบบยูนิเวอร์แซลในพิกัดกำลังเดียวกัน ขณะทำงาน ถ้าหญ้ายาวมากความเร็วรอบของมอเตอร์จะตกลงอย่างรวดเร็ว ทำให้บางทีต้องเดินเครื่องถอยหลังเล็กน้อย เพื่อให้ความเร็วรอบของมอเตอร์กลับมาที่ความเร็วรอบสูงที่สุดก่อนจะเดินหน้าต่อ แต่ถ้าเราตัดหญ้าบ่อย ๆ หญ้าจะไม่ยาวมาก ปัญหานี้ก็เป็นอันหมดไป

2.2 มอเตอร์แบบยูนิเวอร์แซล (Universal Motor) หรือบางยี่ห้อเรียกว่า Powerdrive มอเตอร์ชนิดนี้มีกำลังสูงกว่าแบบแรก เพราะแรงหมุนของใบมีดเกิดจากแรงผลักกันของสนามแม่เหล็กที่อยู่ระหว่างโครงมอเตอร์และแกนกลางมอเตอร์ ทำให้หมุนด้วยความเร็วสูงมาก จึงต้องมีสายพานส่งกำลัง เพื่อทดความเร็วรอบให้น้อยลง

ข้อดี : ในพิกัดกำลังเดียวกันจะมีขนาดเล็กและเบากว่ามอเตอร์แบบอินดักชั่นมาก แต่มีแรงบิดที่สูงกว่า จึงตัดหญ้าที่ยาวได้ดีกว่า ความเร็วรอบของมอเตอร์ไม่ค่อยตก เรียกว่าสามารถตัดเดินหน้าไปเรื่อย ๆ ได้เลย

ข้อด้อย : เราจะหาซื้อสายพานส่งกำลังจากมอเตอร์ไปยังใบพัดจากร้านทั่วไปไม่ได้ เพราะมักมีขนาดที่เฉพาะเจาะจงสำหรับยี่ห้อและรุ่นนั้น ๆ จึงจำเป็นที่ต้องสั่งจากตัวแทนจำหน่าย หากมีการตัดหญ้าที่ยาวมากอยู่บ่อย ๆ สายพานอาจจะฉุดใบมีดไม่ไหวจนเกิดอาการสายพานลื่น (Belt Slip) คือ การที่มอเตอร์หมุนไปได้แต่สายพานหยุดนิ่ง หรือสายพานหมุนไปพร้อมมอเตอร์แต่ใบมีดไม่หมุนตาม สายพานจะร้อนและเสื่อมสภาพเร็ว แกนใบมีดตัดหญ้าก็จะมีปัญหาไปด้วย แต่ถ้าใบมีดตัดหญ้าหมุนไม่ไปเลยเพราะหญ้าที่ยาว หรือติดกิ่งไม้ หรือสิ่งของใด ๆ แล้วเราพยายามฝืนโดยกดสวิตช์ค้างอยู่นาน มอเตอร์จะร้อนจนไหม้ได้ง่าย

มอเตอร์ทั้งสองแบบมีทั้งข้อดีและข้อด้อย โดยเราจะพิจารณาเรื่องการดูแลและซ่อมบำรุงเป็นหลัก ส่วนรูปลักษณ์ภายนอกและความพิเศษอื่น ๆ เช่น ล้อปรับระดับได้ จับถนัดมือ สวิตช์เปิด – ปิด ระบบป้องกันความปลอดภัยในเครื่อง มักเป็นจุดขายที่เซลส์แต่ละยี่ห้อเอามาโน้มน้าวให้เราคล้อยตามเวลาไปเลือกซื้อตามร้านต่าง ๆ ต้องพิจารณาเพิ่มเติมเองนะครับ

หนังสือ The Manual
เรื่อง บ้านนายช่าง
เรียบเรียง สริดา

ติดตาม บ้านและสวน