การผสมผสานสไตล์การตกแต่งให้สวยงามและลงตัวนั้นมีปัจจัยหลายอย่างเป็นองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้วัสดุ ของตกแต่ง หรือสีสัน เมื่อเราก้าวเข้ามาในห้องนี้ บรรยากาศในสไตล์ Eclectic เน้นความทันสมัยแต่ยังมีความนุ่มนวลและละเอียดอ่อนจากของสะสมมากมายที่จัดวางอย่างสง่าสงามและมีคุณค่า ร่วมด้วยการใช้โทนสีที่ดูสะดุดตา ก็สร้างความน่าสนใจตั้งแต่แรกเห็น
พื้นที่ 78 ตารางเมตรของห้องมีขนาดไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไป คุณภาวิศ สิมะกุลธร เจ้าของบ้าน เล่าถึงเหตุผลในการเลือกคอนโดแห่งนี้ว่า “พี่หลงเสน่ห์ร่มเงาของจามจุรีที่สูงตระหง่านในโครงการ รู้สึกเหมือนได้ใช้ชีวิตใกล้ชิดกับธรรมชาติตลอดเวลา”
ในส่วนของการตกแต่งภายในก็เผยให้เห็นถึงตัวตนของเจ้าของบ้าน คุณเอ-วัฒนา โกวัฒนาภรณ์ ผู้ออกแบบ ได้ใส่ใจถึงความต้องการของคุณภาวิศในทุกรายละเอียด คุณเอทำการบ้านอย่างหนักจนได้ผลลัพธ์ที่คุณภาวิศพอใจเป็นอย่างมาก จุดแรกที่ดูสะดุดตาคงหนีไม่พ้นแพนทรี่ที่คุณเอออกแบบใน สไตล์ยุโรป ดูประณีตสวยงามและตอบสนองฟังก์ชันการใช้งานอย่างครบครัน จัดโชว์เครื่องถ้วย ชาม และแก้วอย่างน่าทนุถนอม เน้นบรรยากาศแบบปาร์ตี้เล็กๆ ฝ้าเพดานเพิ่มลูกเล่นโดยออกแบบเป็นฝ้าหลุม โดดเด่นด้วยคิ้วบัวดูทันสมัยและหรูหรา โทนสีส่วนใหญ่เป็นสีน้ำเงินตามที่เจ้าของบ้านชื่นชอบ
ถัดมาคือส่วนนั่งเล่นซึ่งคุณภาวิศมักใช้เป็นมุมอ่านหนังสือด้วย มองไปทางมุมไหนก็จะพบชั้นวางที่เต็มไปด้วยหนังสือไทยและต่างประเทศ มีตั้งแต่หนังสือนวนิยาย วรรณกรรม ประวัติศาสตร์ ชีวประวัติ ฯลฯ ที่โดดเด่นอีกอย่างก็คือวอลล์เปเปอร์กรุผนัง คุณภาวิศเล่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า
“ระหว่างเดินทางไปหาเพื่อนที่ปารีส พี่ไปเจอร้านที่ผลิตวอลล์เปเปอร์ให้แบรนด์ Hermès เลยสั่งทำลวดลายที่อยากได้ ใช้ระยะเวลาสามเดือนในการผลิต หลังจากได้วอลล์เปเปอร์มาคุณเอก็ลองเทียบสีเพื่อดึงสีมาใช้กับการตกแต่งพื้นที่ด้วย ปรากฏว่าเป็นสีอินดิโกบลูหรือสีน้ำทะเล ซึ่งมีความหมายแฝงว่าเป็นสีแรกก่อนที่ตะวันจะโผล่พ้นขอบทะเล คล้ายกับการเตรียมตัวรับวันใหม่”
นอกจากนี้เรายังหันไปเห็นชั้นวางเครื่องประดับที่ร้อยจากลูกปัดโบราณซึ่งไม่อาจประเมินค่าและอายุได้ เมื่อมองลอดผ่านประตูกระจกบานเลื่อนไปจะพบระเบียงเล็กๆ ด้านนอกที่ทำให้เราหยุดมองรูปปั้นคิวปิดที่คุณภาวิศหวงและรักมาก
เมื่อเดินตรงเข้าไปด้านในจะพบห้องนอน “ห้องนี้พี่บอกผู้ออกแบบว่าอยากได้โทนสีม่วง เพื่อแสดงถึงความอบอุ่นและผ่อนคลาย คุณเอเลือกใช้สีได้ประทับใจพี่มาก ไม่ใช่แค่สีม่วงธรรมดา ยังบ่งบอกถึงความลึกซึ้งทางความรู้สึก เพราะมันคือสีสุดท้ายในดวงตาก่อนที่จะปิดตาลงนั่นเอง”
บรรยากาศภายในห้องนอนดึงดูดให้อยากพักผ่อนด้วยเตียงเหล็กสีดำขนาดใหญ่จากแบรนด์ DM HOME ส่วนหัวเตียงนั้นเจ้าของบ้านออกแบบมาจากปลอกหมอน ซึ่งได้รับการแปลงโฉมให้กลายเป็นผ้าคลุมหัวเตียงที่มีชิ้นเดียวในโลก ทางด้านขวาจัดวางตู้ไม้บิลท์อินสีน้ำตาลสำหรับวางของสะสมและกรอบรูป ความน่าสนใจคือการออกแบบหน้ากากแอร์ให้กลมกลืนไปกับตู้ ผนังสีม่วงตัดกับกรอบบัวสีขาวดูลงตัวและมีเสน่ห์ ทั้งยังรายล้อมด้วยของสะสมหลากหลายสไตล์ เช่น ผ้าขนเฟอร์ ของเก่าโบราณ และสัตว์สตัฟฟ์ ทั้งหมดจัดวางได้อย่างสวยงามลงตัว
ต่อเนื่องไปจนถึงส่วนแต่งตัว ออกแบบเป็นชั้นวางบิลท์อินสำหรับเก็บแอ๊กเซสซอรี่ส์ กระเป๋าเดินทาง รองเท้า หมวก และราวแขวนเสื้อผ้า ระหว่างชั้นวางเผยให้เห็นรายละเอียดคล้ายเสาโรมันลวดลายอ่อนช้อยที่คุณภาวิศได้แรงบันดาลใจมาจากประเทศฝรั่งเศส ด้านในสุดคือห้องน้ำใหญ่ เน้นความเรียบแต่แฝงด้วยความหรูหรา กระเบื้องพื้นที่สั่งตัดลายพิเศษเพื่อสะท้อนบุคลิกของเจ้าของบ้าน โดยคุณเอเป็นผู้ออกแบบเองทั้งหมด ที่สำคัญต้องการให้ดูกลมกลืนไปกับพรมที่คุณภาวิศสั่งทอเป็นพิเศษ
คำพูดทิ้งท้ายของคุณภาวิศทำให้เราตั้งคำถามกับตัวเองบ้างว่า เรายังจำความรู้สึกแรกพบกับของสะสมหรือของชิ้นสำคัญได้บ้างหรือไม่ เพราะของดังกล่าวอาจเป็นจุดเริ่มต้นให้เราได้ค้นพบบ้านในฝันในแบบฉบับของตัวเองบ้างก็เป็นได้
เจ้าของ : คุณภาสิส
ออกแบบ : Balance Interior Design & Contractor Co., Ltd. โดยคุณวัฒนา โกวัฒนาภรณ์
เขียน : Noon SD.
ภาพ : ศุภกร ศรีสกุล
ผู้ช่วยช่างภาพ : ศุภานัน อนุเชิงชัย