ประเด็นเรื่อง ดอกเบี้ยบ้าน แพงกำลังถูกพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ หลังจากที่มีหลายคนออกมาเปิดเผยว่า ต้องผ่อนบ้านในราคาแพงชนิดดอกเบี้ยสูงจนเงินต้นไม่ลด
ทั้งนี้ ต้องบอกว่าเคสที่แชร์กันในโลกออนไลน์ มีบางส่วนที่ทำให้คนเข้าใจผิด แน่นอนว่าปัญหาเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิดและสงคราม ทำให้อัตราดอกเบี้ยบ้านในประเทศไทยราคาสูงขึ้นถึง 7% และธนาคารมีการปล่อยกู้บ้านยากกว่าเดิม เนื่องจากหนี้เสียที่มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวในโลกออนไลน์เป็นตัวอย่างของการผ่อนบ้านแบบไม่โปะเงินต้น รวมถึงไม่มีการ รีไฟแนนซ์ หรือ รีเทนชั่น จึงทำให้เสียดอกเบี้ยในอัตราที่สูง วันนี้เรามีตัวอย่างของสูตรคํานวณ ดอกเบี้ย 7 % ของบ้านราคา 5 ล้านบาท มาสรุปให้เป็นตัวอย่าง เผื่อจะทำให้หลายคนเข้าใจเรื่องนี้กันมากขึ้น
เงินต้น 5,000,000 บาท กรณีคิดอัตราดอกเบี้ยบ้าน 7% ตลอดอายุสัญญา ยอดผ่อนคิดล้านละ 7,000.- = 35,000 บาท/เดือน
กู้เงินกับธนาคาร
เดือนที่ 1 เงินต้น 5,000,000 บาท
ดอกเบี้ย 7%/ปี = 350,000 บาท
= 959 บาทต่อวัน หาร 365
= 28,767 บาทต่อเดือน คูณ 30
ผ่อน 35,000 บาทต่อเดือน
เป็นดอกเบี้ย 28,767 : ตัดเงินต้น 6,233 บาท/เดือน
เหลือเงินต้น 4,993,767 บาท
ตัวอย่างการหักดอกเบี้ยเมื่อเริ่มผ่อนบ้าน
เดือนที่ 1 เงินต้น 4,993,767 บาท
ดอกเบี้ย 7%/ปี = 349,564 บาท
958 บาทต่อวัน หาร 365
28,731 บ./ด. (คูณ 30)
ผ่อน 35,000 บาทต่อเดือน
เป็นดอกเบี้ย 28,731 บาท
ตัดเงินต้น 6,269 บาทต่อเดือน
เหลือเงินต้น 4,987,498 บาท
หากคำนวณแบบลดต้นต้นดอก ระหว่างทางไม่ได้โปะเงิน ไม่มีการ รีไฟแนนซ์ หรือ รีเทนชั่น เมื่อครบ 30 ปี ต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยทั้งหมด 2,779,244 บาท เมื่อรวมกับเงินต้นที่กู้มาซึ่งต้องชำระ 5 ล้านบาท ราคาของบ้าน 5 ล้านบาท จะขยับไปอยู่ที่ 7,779,244 บาท
หมายเหตุ การคำนวณด้านบนเป็นการคิดอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ 7% ตลอด 30 ปี รวมถึงเงินผ่อนที่คงที่ด้วยเช่นเดียวกัน
ดังนั้น สำหรับใครที่ต้องการประหยัดเงิน ไม่อยากเสียดอกเบี้ยบ้านราคาแพง มีวิธีง่ายๆสองวิธีง่ายๆคือ นอกจากการจ่ายค่าผ่อนบ้านทุกเดือน วิธีแรกคือการหาจังหวะนำเงินจ่ายโปะเงินต้นเพิ่มเข้าไปบ่อยๆ โดยจะทำให้ระยะเวลาในการผ่อนบ้านลดลง และอีกวิธีเป็นการ รีไฟแนนซ์ เปลี่ยนธนาคารเพื่อปรับอัตราดอกเบี้ยบ้านทุก 3 ปี หรือ รีเทนชั่น ขอธนาคารเดิมปรับอัตราดอกเบี้ยใหม่ทุกๆ 3 ปี ก็จะช่วยให้คุณไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยอัตราลอยตัว ซึ่งแพงกว่าดอกเบี้ยบ้านปกติ
ขอบคุณภาพจาก pixabay
บทความที่เกี่ยวข้อง
