บ้านอยู่สบาย ของคนสองยุคที่มีความชอบที่แตกต่างกัน แต่ก็สามารถหาตรงกลาง เพื่อให้คนทั้งสองยุคอยู่ร่วมกันได้ โดยวัสดุตกแต่งส่วนใหญ่เน้นการใช้ไม้เป็นหลัก เพื่อให้บ้านดูทันสมัยและอบอุ่น ทั้งยังเป็นที่ยอมรับของคนทั้งสองช่วงวัย เชื่อมต่อบรรยากาศดีๆด้วยธรรมชาติของสวนเขียว
การสร้างบ้านอีกหลังในพื้นที่เดียวกันเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนข้อด้อยของบ้านตาม ความต้องการของทุกคนในบ้าน แม้จะคิดต่างหรือมีความชอบที่แตกต่างกัน แต่ก็สามารถหาตรงกลาง เพื่อให้คนทั้งสองยุคอยู่ร่วมกันได้ ที่มาที่ไปของ บ้านอยู่สบาย หลังนี้เป็นอย่างไร ลองเข้าไปสัมผัสพร้อมกัน
จุดเริ่มต้น
จุดเริ่มต้นของการสร้างบ้านหลังนี้มาจากความต้องการของ คุณเต๊นท์- ภัทราวุธ จันทรังษี ที่ต้องการขยายห้องนอนให้พี่สาว จนนำมาสู่การต่อยอดทางความคิด กลายเป็นที่มาของการสร้างบ้านอีกหลังบนพื้นที่เดียวกัน
บนพื้นที่กว่า 180 ตารางเมตร ได้รับการแบ่งสัดส่วนให้พอเหมาะกับบ้านทั้งสองหลัง เดิมทีบ้านหลังแรกไม่มีพื้นที่ใช้งานร่วมกัน และยังขาดส่วนพักผ่อนของสมาชิกในบ้าน มีแต่เพียงห้องรับประทานอาหารเท่านั้นที่ทุกคนสามารถใช้งานร่วมกันได้ คนในบ้านจึงใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องนอนของตัวเอง เมื่อได้โอกาสคุณเต๊นท์ก็อยากออกแบบให้บ้านมีมุมนั่งเล่นหลายๆ มุม เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวได้มีเวลาพูดคุย และทำกิจกรรมร่วมกันมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
เชื่อมต่อสเปซ เชื่อมความสัมพันธ์
บ้านทั้งสองหลังได้รับการออกแบบให้เชื่อมต่อกันเพื่อให้เดินไปมาหาสู่กันได้สะดวก ซึ่งทุกคนในครอบครัวต่างก็เห็นด้วยกับความคิดนี้ “ระหว่างสร้างบ้านหลังนี้ ผมได้พยายามใส่ความเป็นตัวเองและใส่ตัวตนของคุณพ่อ ผสมผสานเข้าไปด้วย โดยปรับแบบไปจากเดิมเพื่อให้บ้านมีพื้นที่ใช้งานมากขึ้น อะไรที่เราชอบเราก็พยายามใส่ลงไป เช่น ออกแบบให้มีทางเดินที่เชื่อมบ้านหลังเก่าไปยังบ้านหลังใหม่ ทำบันไดให้ดูเหมือนลอยอยู่ ทำหลังคาสแล็บ และกรุผนังกระจก”
ส่วนที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือ ห้องรับประทานอาหาร แพนทรี่ และมุมนั่งเล่น ทุกส่วนออกแบบให้เชื่อมโยงกัน ส่วนชั้นบนใช้เป็นห้องนอนของพี่สาว มีห้องนั่งเล่นสำหรับพักผ่อนอยู่อีกมุมหนึ่ง เมื่อมองจากภาพรวมแล้ว บ้านหลังนี้ดูมีรูปแบบที่ทันสมัย สว่าง โปร่งโล่ง เพราะเน้นการเปิดช่องแสงและกรุผนังกระจกใสแทนผนังแบบทึบตัน นอกจากนี้ยังออกแบบบันไดบริเวณโถงกลางให้ดูเหมือนลอยอยู่กลางอากาศ จากรูปทรงอาคารที่ดูเรียบง่าย สีสัน รวมถึงวัสดุที่เลือกใช้ในการตกแต่ง ล้วนช่วยสะท้อนให้เราเห็นตัวตนของคนในบ้านได้เป็นอย่างดี
คอนเซ็ปต์การออกแบบบ้าน คือ “ธรรมชาติ”
ตัวอาคารมีบานกระจกใสรอบด้านเพื่อเปิดมุมมองให้เห็นสวนสีเขียว โดดเด่นด้วยระเบียงนั่งเล่นที่เจาะช่องให้ต้นตะแบกได้แตกกิ่งก้านและเจริญเติบโตล้อไปกับตัวบ้าน “คอนเซ็ปต์การสร้างบ้านจริงๆ เริ่มมาจากต้นตะแบกต้นนี้ สมัยที่ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ๆ ผมก็เจอต้นไม้ต้นนี้แล้ว เหมือนเราโตมาพร้อมกัน อายุก็ 30 กว่าปีแล้ว เราจะเห็นความงามของต้นตะแบกในแต่ละฤดูกาล ซึ่งมีทั้งช่วงทิ้งใบและช่วงที่ออกดอกสีม่วงเต็มต้น เมื่อเติบโตมาพร้อมกันกับบ้าน ทุกคนจึงรู้สึกผูกพันและอยากจะเข้าไปใกล้ๆ จึงทำระเบียงชั้นลอยให้ล้อมต้นตะแบกไว้ ใช้เป็นจุดเชื่อมต่อของบ้านทั้งสองหลัง”
วัสดุตกแต่งส่วนใหญ่เน้นการใช้ไม้เป็นหลัก เพื่อให้บ้านดูทันสมัยและอบอุ่น ทั้งยังเป็นที่ยอมรับของคนทั้งสองช่วงวัย “ก่อนเริ่มสร้างบ้านก็คิดไว้ว่าอยากได้บ้านสไตล์โมเดิร์นและอยากให้แสงเข้ามาเยอะๆ เพราะบ้านเดิมแสงเข้าน้อยมาก ทำให้ต้องเปิดไฟแม้ในเวลากลางวัน และด้วยความ พ่อกับแม่เกิดคนละยุคกับเรา จึงต้องมองหาจุดลงตัวระหว่างกันด้วยการนำสิ่งที่พ่อ ชอบเข้ามาไว้ในบ้าน ซึ่งสิ่งนั้นก็คือไม้นั่นเอง”
ไม้จึงถูกนำมาใช้ในหลายส่วนของบ้าน จุดเด่นๆ ก็คือผนังบริเวณโถงบันไดที่กรุแผ่นไม้หลายชนิดคละสีสันกัน จนกลายเป็นผนังไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งคุณพ่อของคุณเต๊นท์เป็นผู้เลือกและจัดวางตำแหน่งเองทั้งหมดจากความชอบ ท่านสามารถบอกได้ว่าชิ้นไหนเป็นไม้อะไร ไอเดียนี้ได้ช่วยเปลี่ยนผนังธรรมดาๆ ให้กลายเป็นงานศิลปะที่น่าภูมิใจของคุณพ่อไปโดยปริยาย
โทนสีสะท้อนตัวตน
นอกจากจะมีการนำวัสดุธรรมชาติอย่างไม้เข้ามาตกแต่งภายในบ้านแล้ว ทุกๆ ห้องยังมีการแทรกสีสันลงไปได้อย่างกลมกล่อมและสนุกสนาน จนทำให้เราสัมผัสได้ถึงตัวตนเจ้าของบ้านคนนี้ “เพื่อนๆ และอาจารย์จะรู้เลยว่านี่เป็นบ้านของผม เพราะดูเป็น ‘เต๊นท์’ มากๆ ทั้งจากสีสันที่ดูสนุกและการเล่นเส้นโค้งภายในห้อง ทั้งหมดดูแตกต่างจากนักออกแบบส่วนใหญ่ที่มักชอบใช้สีขาว เทา และดำ เพราะสามารถคุมโทนสีให้เป็นธีมเดียวกันได้ แต่ผมมองว่าห้องแต่ละห้องเราอยากให้มีมู้ดอารมณ์ที่ต่างกัน สีที่ใช้จึงหลากหลาย เพราะเมื่อใช้งานจริงๆ เราก็ใช้ได้ทีละห้อง”
พื้นที่สีเขียวแห่งความสุข
บ้านนี้มีสวนที่มีระบบนิเวศสมบูรณ์มาก มีทั้งต้นไม้ขนาดเล็กและใหญ่รายล้อมอยู่รอบตัวบ้าน จึงมีสัตว์ต่างๆอาศัยอยู่ในสวนเต็มไปหมด “คุณพ่อชอบต้นไม้มาก ชอบหาซื้อต้นไม้มาปลูกในบ้านเรื่อยๆ ผมได้บอกโจทย์นี้กับเพื่อนที่เป็นแลนด์สเคปให้ช่วยกำหนดวางแปลนสวนคร่าวๆ ทั้งโซนซอฟต์สเคปและฮาร์ดสเคป ช่วยกำหนดต้นไม้หลักๆ ให้ จากนั้นคุณพ่อก็หาพรรณไม้ที่ชอบมาปลูกตามโซนที่กำหนดไว้”
จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ต้องการขยายพื้นที่ไม่มากนัก นำมาสู่การสร้างบ้านหลังใหม่ให้ดูทันสมัยและรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ทั้งยังช่วยเชื่อมความสัมพันธ์ของสมาชิกทุกคนในครอบครัวให้ได้พบปะและทำกิจกรรมร่วมกัน เปรียบไปบ้านหลังใหม่ก็เหมือนเมล็ดพันธุ์ที่ตกจากต้นแล้วเจริญเติบโตในพื้นที่ใกล้ๆ เพื่อขยายอาณาเขต แต่ยังคงรักษาพื้นที่ความสัมพันธ์ของครอบครัวให้มีความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ตามความตั้งใจเดิมของทุกคน
เจ้าของ – ออกแบบ : คุณภัทราวุธ จันทรังษี
สถาปนิก : คุณณัฐกานต์ ถนอมทอง และคุณสุวีณพร ผ่องโสภา
ภูมิสถาปนิก : คุณธีรชัย ธรวงศ์ธวัช
เรื่อง : วิลาสินี
เรียบเรียง : June
ภาพ : จิระศักดิ์, นันทิยา
สไตล์ : ประไพวดี