บ้านโมเดิร์นมีคอร์ตยาร์ด เพื่อหลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมรอบบ้านที่ไม่เจริญหูเจริญตานัก และยังช่วยให้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงของเวลาภายนอกด้วยแสงสว่างจากสกายไลต์ ผ่านต้นพุดจีบที่เป็นเสมือนตัวแทนของเวลาและฤดูกาลที่เปลี่ยนไปในแต่ละวัน ทำให้บ้านดูมีชีวิตชีวา เป็นธรรมชาติ
DESIGNER DIRECTORY
ออกแบบ: Archimontage Design Fields Sophisticated
ไม่ว่าใครก็คงเฉาตายหากต้องอยู่ในห้องที่ปิดกั้นไม่รู้คืนรู้วัน เพราะนอกจากนาฬิกาชีวภาพของร่างกายที่สัมพันธ์กับวันเวลาที่ปลุกให้ตื่น เตือนให้หิวแล้ว ยังทำให้รู้จักสุนทรียภาพของช่วงวันและฤดูกาล ที่ให้ความสดชื่นในยามเช้า อินกับบรรยากาศเหงาๆยามฝนพรำราวน้ำตาร่วง หรือไอเนื้ออุ่นในฤดูหนาวที่อุ่นไปถึงหัวใจ ซึ่งเป็นความงดงามของธรรมชาติที่เกิดขึ้นทุกเมื่อเชื่อวัน เพียงพินิจมองก็สัมผัสได้ เช่นเดียวกับการมองดูต้นพุดจีบที่ปลูกอยู่กลาง บ้านโมเดิร์นมีคอร์ตยาร์ด ของ คุณย้ง -วัชรพงษ์ จรัสนิรัติศัย และคุณโอ๋ – ปริยา ชัยลิมปมนตรี ซึ่งปลูกบ้านนี้เป็นเรือนหอให้เหมือนปลูกต้นไม้ที่มีชีวิต ให้ได้สัมผัสแสงแดด รับรู้กลิ่นฝนและเติบโตไปกับกาลเวลา ซึ่งเป็นไอเดียการออกแบบของ คุณไก่ – เชิงชาย เรียวเรืองแสงกุล สถาปนิกบริษัท Archimontage Design Fields Sophisticated และตกแต่งภายในโดย คุณนิ – ชินภานุ อธิชาธนบดี และคุณหยก – ภารดี เสนีวงศ์ ณ อยุธยา แห่ง Trimode Studio Co., Ltd. ที่ออกแบบผสมผสานความชอบของคนสองคนให้หลอมเป็นหนึ่งเดียวกัน
แสงแดดยามเช้าค่อยๆตกกระทบหน้าบ้านสีขาวสไตล์โมเดิร์น ปลุกบ้านให้มีชีวิตชีวารับวันใหม่อีกครั้ง บ้านสองชั้นพื้นที่ร่วม 700 ตารางเมตรหลังนี้เป็นบ้านสำหรับการสร้างชีวิตของครอบครัวของคุณย้งและคุณโอ๋ ทั้งสองเล่าให้ฟังว่า
“ก่อนสร้างบ้านนี้ได้ไปดูบ้านตามโครงการ แต่ก็ยังไม่ลงตัว จนมาได้ที่ดินตรงนี้ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านผมที่อยู่ซอยถัดไปและไม่ไกลจากบ้านของโอ๋นัก เราคุยกับคุณไก่ว่าอยากได้บ้านสไตล์โมเดิร์น มีห้องออกกำลังกาย มีห้องน้ำใหญ่พอประมาณ มีห้องเก็บรองเท้าและฝ้าเพดานสูง แต่ตอนนั้นยังไม่ค่อยเข้าใจว่าโมเดิร์นจริงๆคืออะไร พอมาศึกษาดูก็พบว่า จริงๆแล้วเราชอบแบบมินิมัลที่เรียบๆมากกว่า จึงปรับความเป็นโมเดิร์นให้เรียบง่ายขึ้น”
ภายในเปิดให้แสงส่องผ่านลงมาที่คอร์ตกลางบ้านจึงสว่างโดยไม่ต้องเปิดไฟ พอเปิดประตูให้โล่งลมก็พัดผ่านทำให้ใบต้นพุดจีบไหว คุณไก่อธิบายถึงการออกแบบว่า
“ด้วยสภาพแวดล้อมรอบบ้านที่ไม่เจริญหูเจิญตานัก จึงคิดสร้างมุมมองที่ดีภายในบ้านเอง ด้วยการสร้างพื้นที่เปิดโล่งตั้งแต่หน้าบ้านเข้าไปถึงในบ้านตามลำดับการเข้าถึง คือสนามหญ้าหน้าบ้านจะเปิดโล่งร้อยเปอร์เซ็นต์ เมื่อเดินผ่านประตูไม้เข้ามาเป็นบ่อน้ำและคอร์ตหน้าบ้าน ซึ่งเริ่มมีการปิดล้อมด้วยตัวบ้าน นับได้ว่าจุดนี้มีพื้นที่เปิดโล่ง 70 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อเข้ามาในบ้านจะมีคอร์ตกลางบ้าน ซึ่งมีความเปิดโล่งน้อยลงอีก แต่เป็นส่วนตัวมากขึ้น และส่วนนี้ก็เป็นไฮไลต์ของบ้าน ที่แม้ขณะอยู่ภายในก็ยังรับรู้การเปลี่ยนแปลงของเวลาภายนอกด้วยแสงสว่างจากสกายไลต์ ผ่านต้นพุดจีบที่เป็นเสมือนตัวแทนของเวลาและฤดูกาลที่มีการเปลี่ยนไปในแต่ละวัน แต่ละเดือน แต่ละปี ทั้งยังเป็นจุดรวมสายตาของบ้าน โดยมีผนังเหล็กสีดำเป็นฉากหลังและเป็นผนังบังตาไปในตัว ทำให้บ้านดูมีชีวิตชีวา เป็นธรรมชาติ”
การตกแต่งด้วยโทนสีขาว-ดำ และไม้ที่โชว์พื้นผิวหยาบเป็นธรรมชาติ เป็นการสร้างความลงตัวให้คนสองคนที่มาใช้ชีวิตร่วมกัน ซึ่งคุณนิและคุณหยกอธิบายว่า “เราแทนคุณย้งที่ชอบความดิบแบบเท่ๆด้วยสีดำ และคุณโอ๋ที่มีความอ่อนหวานด้วยสีขาว เพราะการใช้สีจะสามารถรับรู้ได้ง่ายที่สุด โดยผสมผสานทั้งสองสีในการตกแต่งด้วยการแบ่งพื้นที่ คือส่วนที่มีการใช้งานจะใช้สีขาวเป็นหลักและส่วนทางเดินเป็นสีดำ ทั้งยังใช้ร่วมกับสีน้ำตาลของไม้ให้เป็นตัวเชื่อมระหว่างสองสีเข้าด้วยกัน โดยใช้ไม้ฟอกสีที่ปล่อยพื้นผิวหยาบให้สัมผัสเป็นธรรมชาติ และออกแบบให้แต่ละพื้นที่มีจุดเบรกสายตา พร้อมทั้งสร้างความต่อเนื่องระหว่างพื้นที่ อย่างการแบ่งพื้นที่ด้วยการเปลี่ยนวัสดุปูพื้นและมีผนังบังตาเป็นบางส่วน ก็ทำให้รับรู้ถึงการใช้งานแต่ละห้อง แต่ยังคงดูเชื่อมต่อกันทั้งหมด”
ดอกพุดจีบผลิดอกและร่วงหล่นผ่านไปในแต่ละปี แต่ก็แสดงถึงการเติบโตเป็นต้นไม้ที่ใหญ่ขึ้น และโตไปพร้อมกับความสุขของคนในบ้านหลังนี้
เจ้าของ : คุณวัชรพงษ์ จรัสนิรัติศัย และคุณปริยา ชัยลิมปมนตรี
สถาปนิก : Archimontage Design Fields Sophisticated โดยคุณเชิงชาย เรียวเรืองแสงกุล
ตกแต่งภายใน : Trimode Studio Co., Ltd. โดยคุณชินภานุ อธิชาธนบดี และคุณภารดี เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
เรื่อง : ศรายุทธ ศรีทิพย์อาสน์
ภาพ : จิระศักดิ์ ทองหยวก, ดำรง ลี้ไวโรจน์