หากใครเคยปลูกต้น คล้า น่าจะสังเกตเห็นได้ว่าเป็นต้นไม้ระบำได้ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะในช่วงเวลากลางคืน ใบคล้าจะมีการหุบขึ้นแล้วคลายตัวในตอนเช้า ถ้าตั้งกล้องถ่ายวีดีโอจะเห็นความเคลื่อนไหวได้ชัด เหมือนกับกำลังเต้นระบำอยู่
ในส่วนของ ต้นคล้า มีหลายสกุล แต่ละสกุลก็จะมีลวดลายที่แตกต่าง ล้วนแต่สวยงามทั้งสิ้น สามารถปลูกเลี้ยงในบ้านได้ ชอบความชื้นในอากาศสูง แต่ดินไม่ชื้นแฉะระบายน้ำได้ดี แสงรำไรถึงปานกลาง ไม่ชอบลมโกรก หากสภาพอากาศไม่เหมาะใบจะม้วนอยู่ตลอดเวลา
คล้า จึงเหมือนต้นไม้พูดได้ แสดงอาการให้เห็นได้ชัดว่าต้องการสิ่งใด เป็นความมหัศจรรย์จากธรรมชาติที่ทำให้คล้าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และบางชนิดมีชื่อภาษาไทยเป็นไม้มงคลอีกด้วย
คล้า คือพรรณไม้ในวงศ์ Marantaceae มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Schumannianthus dichotomus (Roxb.) Gagnep. เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว อายุหลายปี มีลำ ต้นใต้ดินเป็นเหง้าหรือหัวเจริญเติบโตเป็นพุ่ม ใบเดี่ยว ออกเวียนรอบต้นหรือเรียงสลับรูปใบมีหลายแบบ ทั้งรูปรี รูปขอบขนาน และรูปไข่ มีลักษณะเด่นคือ โคนใบเบี้ยวด้านหนึ่ง ระหว่างแผ่นใบและก้านใบมีรอยต่อโป่งพองออกมา
ทั้งนี้ คล้า เป็นไม้ประดับมงคลยอดฮิตในสวนไม้ประดับหลายชนิดนอกจากปลูกประดับแปลงเพิ่มสีสันให้สวนได้อย่างมีเสน่ห์ชวนมองแล้ว ยังปลูกเลี้ยงง่ายและมีราคาไม่แพง ทั้งยังปลูกเป็นไม้กระถางยกมาประดับในบ้านได้อย่างน่าชม ไม่เพียงเท่านี้ ยังเป็นไม้มงคลที่มีความเชื่อว่าปลูกเพื่อความเป็นสิริมงคล เช่นเดียวกับ“คล้า”ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้ผู้ปลูกอยู่เย็นเป็นสุข แคล้วคลาดปลอดภัยจากสิ่งอันตราย และมีโชคลาภมาสู่บ้านอยู่เนืองๆ
ช่วงกลางวันหากสภาพอากาศชุ่มชื้น ได้รับแสงแดดรำ ไร แผ่นใบจะแผ่กางออก ในช่วงกลางคืนแผ่นใบจะห่อขึ้นคล้ายพนมมือ จึงมีชื่อสามัญว่า Prayer Plant คล้ายอดฮิตที่ปลูกประดับกันทั่วไปมีอยู่หลายสกุล ได้แก่สกุลคาลาเทีย (Calathea) ทีแนนเท (Ctenanthe) เกอเพอร์เทีย (Goeppertia) มาแรนทา (Maranta) และสโตรแมนเท (Stromanthe) ซึ่งมีลวดลายใบที่สวยงามแตกต่างกันไป
สำหรับในบ้านเรานิยมตั้งชื่อตามลวดลายและสีสันของใบ เช่นคล้าเสือโคร่งที่มีแผ่นใบเป็นกำ มะหยี่ มีแถบลายสีเขียวเข้มสลับเขียวอ่อนตลอดทั้งสองด้านคล้ายลายเสือโคร่ง หรือคล้ากาเหว่าที่ลักษณะใบลายเหมือนนกกาเหว่
คล้าแทบทุกสกุลจัดเป็นไม้ประดับที่ปลูกเลี้ยงง่ายชอบดินร่วนระบายนํ้าดี มีอินทรียวัตถุสูง แสงแดดรำ ไรความชื้นในอากาศสูง บางชนิดสามารถปลูกในสภาพที่มีแสงแดดครึ่งวันได้ หากปลูกในที่ที่มีแสงแดดตลอดวันใบจะเป็นรอยไหม้ไม่สวยงาม เมื่อปลูกไปนานๆ ควรหมั่นเปลี่ยนดิน ให้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยเคมีเพิ่มบ้าง ขยายพันธุ์ง่ายด้วยการแยกหน่อหรือแบ่งกอมาปลูกใหม่
บทความที่เกี่ยวข้อง
สายมูพลาดไม่ได้กับ “ 50 ต้นไม้มงคล ” ตามความเชื่อของไทย
แก้วเจ้าจอม ต้นไม้มงคลมีกลิ่นหอมให้ร่มเงา ที่ปลูกได้ทั้งในและนอกตัวบ้าน
50 ต้นไม้ยอดฮิตที่ไม่เคยตกเทรนด์
ติดตามไอเดียบ้านและสวนเพิ่มเติมได้ทาง : บ้านและสวน Baanlaesuan.com
