การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบ้านด้วยการทาสีห้องใหม่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เจ้าของบ้านหลายท่านนิยม นอกจากการเตรียมพื้นผิวก่อนทาและเลือกประเภทสีให้ถูกกับพื้นผิวแล้ว (เช่น ผนังปูนเก่า ผนังปูนใหม่ หรือผนังไม้) ก็ควรดูชนิด (ยี่ห้อ) ที่ไม่มีสารพิษตกค้าง ส่วนจะเพิ่มหรือลดคุณสมบัติอื่นๆ เช่น ทนต่อรอยร้าว สามารถทำความสะอาดได้ หรือทำให้ห้องดูกว้างขึ้น ก็แล้วแต่งบประมาณและความต้องการที่เสริมเข้าไปตอนหลัง
สำหรับการเลือกโทนสีให้ห้องอาจเป็นสิ่งที่เจ้าของบ้านลังเลใจว่าจะเลือกอย่างไรให้เหมาะกับห้องนั้นๆ “บ้านและสวน” ขอแนะนำแนวทางง่ายๆ 4 ข้อ ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกห้องของบ้าน ดังนี้
- ถ้าห้องไม่ใหญ่นักแนะนำว่าควรเลือกโทนสีสว่างๆ เพราะช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น เช่น สีครีม สีโอลด์โรส สีฟ้าอ่อน สีเขียวจางๆ ไปจนถึงเฉดสีน้ำตาลอ่อนก็ได้ ถ้ากลัวจะจืดชืดก็สามารถใช้โทนสีเดียวกัน แต่เฉดเข้มขึ้น ทาตัดสักผนังหนึ่งก็ช่วยให้ดูสดใสขึ้น ในอัตราสีอ่อนต่อสีเข้ม = 70 : 30 (ไม่ควรทาสีเข้มทั้งห้อง เพราะจะทำให้รู้สึกอึดอัด)
- ควรดูองค์ประกอบอื่นๆของห้องร่วมด้วย เช่น สีของเฟอร์นิเจอร์ โซฟา พรม หรือผ้าม่านที่มีอยู่เดิม เพื่อให้บรรยากาศของห้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
- สีกับแสงนั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างมาก ดังนั้นขอบอกเคล็ดลับในการเลือกสีอีกนิดว่า ก่อนไปซื้อสีที่ร้านค้า ลองสังเกตห้องคุณสักนิดว่าในเวลาที่คุณชอบอยู่ในห้องนั้นๆมีแสงมาตกกระทบมากน้อยแค่ไหน เช่น ชอบนั่งเล่นในห้องรับแขก ตอนเย็นมีแสงส่องเวลาโพล้เพล้ ก็ควรไปเลือกดูสีจากร้านค้าภายใต้แสงไฟในเวลาใกล้เคียงกัน ถ้าเลือกเวลาซื้อสีไม่ได้ ลองเผื่อเฉดให้สว่างขึ้น เพราะสีจะดูทึมขึ้นเนื่องจากแสงในเวลาเย็น
- เวลาเลือกสีจากชิ้นตัวอย่างเล็กๆ อาจหลอกตาให้ดูผิดเพี้ยนได้ ถ้าสามารถเลือกจากพื้นที่ใหญ่ได้เท่าไรก็จะยิ่งได้สีที่ใกล้เคียงความจริงมากขึ้น