“Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย” เตรียมจัดใหญ่ พร้อมกันทั่วประเทศ ตอกย้ำสงกรานต์ดีงามร่วมสมัยที่สืบสานวัฒนธรรมประเพณีดีงามที่ถูกกล่าวขานจากทั่วโลกของพลัง Soft Power สู่การเป็น “มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” อันทรงคุณค่าของโลก และเป็นหมุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่จะเดินทางมาร่วมสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของวิถีความเป็นไทย เพื่อก้าวข้ามปีใหม่ไทยอย่างงดงาม ที่องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประกาศขึ้นทะเบียนให้งานสงกรานต์ในประเทศไทย เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ
Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย ปีนี้ เตรียมจัดเต็มอย่างยิ่งใหญ่จากพลังความร่วมมือของหลายภาคส่วน นำโดย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม กองทัพเรือ กรุงเทพมหานคร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พันธมิตรท่าน้ำ ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน และหัวเรือใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ภายใต้แนวคิด “เย็นฉ่ำ ชื่นใจ” เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวได้มาร่วมฉลองปีใหม่ไทยได้ “เย็นฉ่ำ ชื่นใจ” ไปกับกิจกรรมมงคล 10 ประการ พร้อมก้าวข้ามปีใหม่ไทยที่จะจัดขึ้นพร้อมกันทั้ง 4 ภาค 6 จังหวัด ทั่วประเทศไทย ได้แก่ภาคกลาง จัดที่จังหวัดกรุงเทพมหานครบน Landmark หลักที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร, วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร, วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร, วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร, วัดประยุรวงศาวาส วรวิหาร, เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์, ท่ามหาราช, ท่าสุขสยาม ณ ไอคอนสยาม ท่าศาลเจ้ากวนอู และขยายพื้นที่จัดงานไปที่คลองโอ่งอ่าง โดยมีท่ายอดพิมานเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางรถ ราง เรือ และยังมีบริการล่องเรือด่วนเจ้าพระยา ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น. ที่ให้บริการฟรีแก่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมงานที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2567 รวมไปถึง ภาคเหนือ จัดที่ จังหวัดเชียงใหม่ และ จังหวัดลำพูน ภาคใต้ จัดที่ จังหวัดภูเก็ต ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดที่ จังหวัดอุดรธานี และ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีอัตลักษณ์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละท้องที่ทั่วประเทศ
เกี่ยวกับรายละเอียดของการจัดงาน “Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย” ครั้งที่ 9 นี้ นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า“เป็นที่น่ายินดียิ่งที่ในปีนี้ พี่น้องชาวไทย ได้มีโอกาสร่วมงานประเพณีสงกรานต์กันได้อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อร่วมสืบสานประเพณีอันดีงาม และคงความเป็นอัตลักษณ์ของความดีงามก้าวข้ามปีใหม่ไทยกับความภาคภูมิใจในการจัดงาน“สงกรานต์ดีงามอย่างไทย” ของพลัง Soft Power ไทยสู่การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ โดยองค์การยูเนสโก ในนามการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ให้การสนับสนุน และส่งเสริมการจัดงาน “Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย” มาอย่างต่อเนื่อง และขอชื่นชมบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่เป็นหัวเรือหลักในการริ่เริ่มการจัดงานเพื่อสืบสานประเพณี อันดีงาม นี้มาตั้งแต่ปี 2558 รวมถึงหน่วยงานทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการดีๆ เช่นนี้มาอย่างยาวนาน จนกลายเป็นงานสงกรานต์ต้นแบบได้อย่างงดงามของการอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณีไทยนอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมอุตสหกรรมด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนในมิติต่างๆ เช่น การสร้างการมีส่วนร่วมของนักท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมการเก็บกลับรีไซเคิล การเชื่อมโยงต่อยอดเครือข่ายแห่งความยั่งยืนให้กับชุมชน ช่วยส่งเสริมให้เกิดการกระจายรายได้ สร้างงาน สร้างอาชีพ และความมั่งคั่งอย่างทั่วถึง อันจะนำไปสู่ “การเติบโตอย่างทั่วถึง อย่างสมดุล และอย่างยั่งยืน” ที่จะตอกย้ำภาพลักษณ์อันดีด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยสู่สายตานานาชาติได้อย่างยั่งยืน”
ด้าน คุณนิติกร กรัยวิเชียร ผู้อำนวยการโครงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ในนามของ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้สนับสนุนหลักการจัดงาน เผยว่า “กราบขอบพระคุณ พระเดชพระคุณ พระราชรัตนสุนทร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร และพระคุณเจ้าทุกรูป ที่เคารพอย่างยิ่ง ที่ได้ให้ความกรุณาส่งเสริมการจัดงาน “Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย” ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ 9 โดยเป็นการจัดกิจกรรมเพื่อสืบสานประเพณีดีงามของไทยในสถานที่ที่มีความสำคัญกับชาวพุทธ ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติได้เข้าวัด ทำบุญ เพื่อความเป็นสิริมงคล ต้อนรับปีใหม่ไทย ด้วย ไทยเบฟ ตระหนักถึงความสำคัญของการสืบสาน รักษา และต่อยอด มรดกอันทรงคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมของไทย ให้ยังคงความดีงามอย่างยั่งยืน และสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยสืบไป พร้อมต่อยอดความสำเร็จของการจัดงาน “Water Festival เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย” เพื่อ “บอกเล่าความเป็นไทยไปทั่วโลก” พร้อมตอกย้ำแนวคิดเรื่องการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ให้มีความยั่งยืน สอดรับกับนโยบายภาครัฐในการส่งเสริมอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว ด้วยการเชิญชวนให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริม สืบสานประเพณี และวัฒนธรรมอันเป็นมรดกของไทยไปสู่สากล
งาน “Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ …วิถีไทย” ในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “เย็นฉ่ำ ชื่นใจ” ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2567 โดยจัดขึ้นทั้งหมด 4 ภาค ใน 6 จังหวัด ได้แก่ ภาคกลาง จัดที่กรุงเทพมหานครบนแลนด์มาร์คที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ภาคเหนือ จัดที่ จังหวัดเชียงใหม่ และ จังหวัดลำพูน ภาคใต้ จัดที่ จังหวัดภูเก็ต ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดที่ จังหวัดอุดรธานี และ จังหวัดขอนแก่น เพื่อตอกย้ำสงกรานต์ร่วมสมัยที่สืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของ Soft Power สู่การเป็น “มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” อันทรงคุณค่าของโลก ที่องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNESCO ได้ประกาศขึ้นทะเบียนสงกรานต์ในประเทศไทย เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติอันสร้างความภูมิใจให้คนไทย ซึ่งความสำเร็จของการจัดงาน “Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย” ล้วนเกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เป็นพลังสำคัญของการขับเคลื่อนการจัดงานในทุกมิติ สู่การเป็นต้นแบบของแพลตฟอร์มความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม ชุมชน รวมถึงเยาวชน และพวกเราทุกคนในที่นี้ที่จะมาร่วมกัน “บอกเล่าความเป็นไทยไปทั่วโลก”
รายละเอียดการจัดงาน และไฮไลท์กิจกรรมต่างๆ นายสุรพล เศวตเศรนี ในนามประธานการจัดงาน “Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย” เผยว่า “งาน“Water Festival 2024 เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย” จัดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ 2558 ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ ที่มาเที่ยวชมงานอย่างคึกคักทุกพื้นที่ อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดียิ่งจากเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ มาโดยตลอด จนเกิดเป็นกระแส “Soft Power” ทำให้ “งานสงกรานต์ในประเทศไทย” เป็น Festival ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่จะเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสมนต์เสน่ห์อันเป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัวของเทศกาลสงกรานต์ไทย ซึ่งปีนี้จะจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “เย็นฉ่ำ ชื่นใจ” ให้นักท่องเที่ยวทุกคนได้ร่วมสนุกอย่างดีงามก้าวข้ามปีใหม่ไทยไปด้วยกัน กับกิจกรรมมากมาย อาทิ ตักบาตรทางน้ำที่จะจัดขึ้น ณ คลองโอ่งอ่าง การแห่พระพุทธรูปประจำพระอารามทางน้ำจาก 5 พระอารามหลวง ลอดอุโมงค์น้ำพระพุทธมนต์ สรงน้ำพระพุทธรูปประจำวัด ช้อปสินค้าชุมชนในตลาดโบราณ และมหรสพความบันเทิงอีกมากมาย รวมไปถึง ภาคเหนือ จัดที่ จังหวัดเชียงใหม่ และ จังหวัดลำพูนภาคใต้ จัดที่ จังหวัดภูเก็ต ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดที่ จังหวัดอุดรธานี และ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีอัตลักษณ์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละท้องที่ทั่วประเทศ
การจัดงาน “Water Festival เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย” ยังคงสานต่อกิจกรรมดีงามด้านสิ่งแวดล้อม และสังคมที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ กิจกรรมเก็บ กลับ รีไซเคิล กิจกรรม “เยาวชนเจ้าบ้าน สืบสานวัฒนธรรม” เพื่อเสริมสร้างทักษะ และฝึกฝนการเป็นเจ้าบ้านที่ดี หวงแหนในชุมชนบ้านเกิด และบอกเล่าสถานที่สำคัญ รวมถึงวิถีชีวิตของชุมชนให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่มาเที่ยวภายในงาน พร้อมลัดล่องเรียนรู้เกร็ดเรื่องราวย่านวิถีเก่า ผ่านการล่องเรือ และ เดินชม ย่านชุมชนเก่าสัมผัสมนต์เสน่ห์เรื่องเล่าของวันวานในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ร่วมพิธีสรงน้ำพระพุทธรูปมงคล และรดน้ำดำหัวตามประเพณีโบราณด้วยน้ำอบไทยตำรับชาววัง และ ดอกไม้มงคล เก็บภาพที่ระลึกสุดประทับใจกับฉายานิติกร รวมถึงการจัดเทศกาลอาหารมงคลทั้ง 4 ภาค
และอีกหนึ่งความพิเศษของงาน “Water Festival เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย” ในปีนี้คือการขยายพื้นที่จัดงานมาที่ “คลองโอ่งอ่าง” ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น Landmark การท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก ของพื้นที่การท่องเที่ยวต้นแบบในด้านการปรับปรุงภูมิทัศน์ (Landscape Improvement Project) ที่การันตีด้วยรางวัล Asian Townscape Awards จาก UN-Habitat Fukuoka ที่จะเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมาร่วมสัมผัสวิถีชีวิตย่านการค้าเก่าแก่ ผสมผสานพหุวัฒนธรรมไทย มอญ จีน อินเดีย และเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมมากมาย อาทิ พายเรือคายัคสุด Exclusive กับทริปเจาะเวลาหาอดีตสัมผัสมนต์เสน่ห์ของวิถีชุมชนริมน้ำสมัยรัชกาลที่ 1 กับเรื่องเล่าสองฟากฝั่งตั้งแต่ป้อมพระสุเมรุจนถึงสะพานวัดบพิตรพิมุข ดื่มด่ำบรรยากาศสุดชิล ชม ชิม ช้อป อิ่มอร่อยไปกับร้านอาหารเด็ดเจ้าดังมากมายตลอดสองฝังคลอง เช็คอินจุดถ่ายภาพ ที่คุณไม่ควรพลาด และขอเชิญชวนร่วมตักบาตรทางน้ำ สรงน้ำพระ และรดน้ำดำหัวผู้สูงวัยที่จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อีกด้วย
นับเป็นเทศกาลสงกรานต์ที่สืบสานประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงามที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี จากการผสานความร่วมมือทุกภาคส่วน ที่ร่วมกันขับเคลื่อนการทำงานแบบบูรณาการ ตอกย้ำภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย จากพลัง Soft Power สู่การเป็น “มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” และการเป็น Landmark การท่องเที่ยวระดับโลก ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 เมษายนนี้ พร้อมกันทั่วประเทศ ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ Facebook: Water Festival Thailand