ปลาในสวน
สวนที่มีน้ำเป็นองค์ประกอบ นอกจากพรรณไม้น้ำแล้ว ยังมีสัตว์น้ำที่ช่วยสร้างบรรยกาศให้กับสวนน้ำของเรามีชีวิตชีวามากขึ้น โดยก่อนที่จะเลี้ยงปลา เราต้องคำนึงถึง การวางตำแหน่งของบ่อปลาที่ดี รูปแบบของบ่อการคัดเลือกสายพันธุ์ของปลา อาหาร โรคและการดูแลรักษา แหล่งเลือกซื้อปลา การเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยปลาลงบ่อ ซึ่งควรให้ความระวังและหาข้อมูลตามประเภทและชนิดของปลาเพื่อปฏิบัติให้เหมาะสม ครั้งนี้เราจะมาแนะนำปลาที่เลี้ยงได้ในบ่อกลางแจ้งกัน
ก่อนอื่นคุณควรรู้และทำความเข้าใจก่อนว่า ปลาที่เลี้ยงในตู้กระจกแตกต่างกันกับปลาที่เลี้ยงในบ่อ เพื่อให้ง่ายต่อการเลือกปลาแต่ละประเภทมาลง เช่นปลาที่เลี้ยงในตู้จะเน้นปลาที่มีลักษณะตัวแบนด้านข้างมีรูปทรงสวยงามแปลกตา เพื่อให้เห็นการเคลื่อนไหวที่น่าเพลิดเพลิน ส่วนปลาที่เลี้ยงในบ่อ คือปลาที่ว่ายและมองเห็นจากด้านบนของผิวน้ำ จึงต้องเลือกปลาที่มีลำตัวส่วนบนกว้างหรือกลม เป็นปลาที่มีความอดทน ต่อแสงแดดที่ส่องลงมา และเป็นปลาที่ชอบอยู่บนผิวน้ำ ชอบว่ายน้ำและเคลื่อนไหว มีสีสันที่สวยงามชัดเจน ซึ่งปลาที่ได้รับความนิยมเรื่อยมานั่นคือปลาคาร์ฟนั่นเองวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับปลาคาร์ฟกัน โดยปลาคาร์ฟ ชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่า โค่ย (Koi) นิชิกิกอย (Nichikigoi) มีต้นกำเนิดมาจากปลาไนธรรมดา ซึ่งพบในแหล่งน้ำจืดต่างๆ ทั่วโลก สำหรับถิ่นกำเนิดที่แท้จริงก็คือ ประเทศอิหร่านในปัจจุบัน
ประเภทของปลาคาร์ฟ
ปัจจุบัน ได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ปลาแฟนซีคาร์ฟขึ้นใหม่ในเชิงการค้าทั้งหมด 13 สายพันธุ์หลัก โดยแบ่งแยกตามลักษณะของลวดลายและสีสันบนตัวปลา ได้แก่
1. โคฮากุ (Kohoku) เป็นปลาที่มีลายขาวและแดง เป็นสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงกันมากที่สุด ลักษณะที่ดีสีแดงจะต้องคมชัดสม่ำเสมอ และสีขาวไม่ควรมีตำหนิใดๆ
2. ไทโช ซันเก้ (Taisho Sanke) ประกอบ ด้วย 3 สีด้วยกัน คือ ขาว แดง และดำ สีดำบนตัวปลานั้นควรดำสนิท และดวงใหญ่ ไม่ควรมีสีดำบนส่วนหัว รวมทั้งไม่มีสีแดงบนครีบและหาง
3. โชวา ซันโชกุ (Showa Sanshoku) เป็น แฟนซี คาร์ฟสามสี เช่นเดียวกับไทโช ซันเก้ ที่แตกต่างกันก็คือ สีขาวและแดงจะรวมตัวอยู่บนพื้นสีดำขนาดใหญ่ และมีสีดำบริเวณเชื่อมต่อครีบ และลำตัวในลักษณะของตัว Y
4. อุจิริ โมโน (Utsuri Mono) เป็นแฟนซีคาร์ฟ ที่มีสีดำพาดผ่านบนพื้นสีอื่น โดยสีดำที่ปรากฏจะเป็นรอยปื้นยาวพาดบนตัวปลา
5. เบคโกะ (Bekko) เป็นแฟนซี คาร์ฟ ที่มีสองสี โดยมีลวดลายเป็นจุดดำแต้มอยู่บนพื้นสีต่างๆ ในขนาดที่ไม่เล็ก หรือใหญ่เกินไป
6. อาซากิ ชูซุย (Asagi Shusui) อาซากิ ชูซุย เป็นสายพันธุ์ที่ถ่ายทอดมาจากปลาไนโดยตรง จะมีเกล็ดสีฟ้าสวยเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ
7. โกโรโมะ (Koromo) เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างอาซากิกับสายพันธุ์อื่นๆ โดยจะมีเกล็ดสีน้ำเงินกระจายเด่นอยู่บนลวดลาย
8. โอกอน (Ogon) เป็นปลาที่ไม่มีลวดลาย โดยจะมีสีลำตัวสว่างไสว ปราศจากจุดด่างใดๆ
9. ฮิการิ โมโย (Hikari Moyo) เป็นปลาที่มี 2 สี หรือมากกว่า โดยจะมีอย่างน้อยหนึ่งสีที่แวววาวดุจโลหะ (Metallic)
10.ฮิการิ อุจิริ (Hikari Utsuri) เป็นปลาที่มีลายพาดสีดำเช่นเดียวกับ อุจิริ โมโน บนพื้นที่มีความแวววาวคล้ายโลหะ
11. คินกินริน (Kinginrin) เป็นปลาที่อยู่ในกลุ่มที่มีประกายเงินหรือทองอยู่บนเกล็ด โดยเกล็ดจะดูนูนเหมือนไข่มุก
12. ตันโจ (Tancho) เป็นปลาที่มีสีแดงเพียงที่เดียวอยู่บนหัว โดยอาจมีรูปทรงกลมขนาดใหญ่ หรือรูปอื่นๆก็ได้
13. คาวาริ โมโน (Kawari Mono) เป็นปลาที่ไม่มีลักษณะลวดลายที่ตายตัว ต่างจากพันธุ์อื่นๆ โดยจะมีลวดลายเกิดขึ้นใหม่ทุกปี
tip
เมื่อสังเกตเห็นน้ำในบ่อเริ่มขุ่นและมีสิ่งสกปรกมาก ต้องรีบเปลี่ยนน้ำทันที และขณะที่ถ่ายน้ำ ออก 1 ใน 3 ส่วนของบ่อจะต้องเพิ่มน้ำใหม่แทนในปริมาณเท่าเดิมโดยใช้น้ำประปาที่เก็บไว้ประมาณ 2-3 วันหลังจากที่คอรีนระเหยแล้ว อย่าใช้น้ำประปาที่รองจากก๊อกใหม่ๆ หรือน้ำประปาที่เก็บไว้นานเพราะจะเกิดอันตรายต่อปลาได้ (สนับสนุนข้อมูลโดย OPTIMUM HI PRO )
แหล่งข้อมูล
สวนน้ำ 2 สำนักพิมพ์บ้านและสวน, www.cgsc.rta.mi.th , www.koithai.com , www.vcharkarn.com , www.siamcarp.com