บ้านกลิ่นอายฝรั่งเศส สีสันสดใส ที่ออกแบบให้เป็นเหมือนบ้านตากอากาศ
บ้านกลิ่นอายฝรั่งเศส ในจังหวัดกาญจนบุรี ที่เน้นสีสันของห้องแต่ละห้องในบ้าน รวมทั้งปรับเปลี่ยนผังบ้านใหม่ให้ตอบโจทย์การใช้งานและเปิดรับแสงธรรมชาติเต็มที่ ทำให้บ้านมีบรรยากาศน่าพักผ่อนจนเจ้าของบ้านไม่อยากออกไปไหน
Design Directory : มัณฑนากร Lexoda
บ้านกลิ่นอายฝรั่งเศส ท่ามกลางธรรมชาติอันแสนงดงามของจังหวัดกาญจนบุรี ทำให้เจ้าของบ้าน คุณฟรองซัวส์ ซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศสและภรรยาชาวไทย ตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้ หลังจากฝ่ายภรรยาย้ายมาทำงานที่นี่ได้ไม่นาน จากจุดเริ่มต้นที่หาบ้านอย่างไม่ตั้งใจสู่การปรับเปลี่ยนบ้านจากรูปแบบเรียบๆให้มีกลิ่นอายแบบฝรั่งเศสที่เน้นสีสันของห้องแต่ละห้องในบ้าน รวมทั้งปรับเปลี่ยนผังบ้านใหม่ให้ตอบโจทย์การใช้งานและเปิดรับแสงธรรมชาติเต็มที่ โดย คุณเล็ก –นภาภรณ์ โพธิรัชต์ มัณฑนากร ทำหน้าที่ออกแบบตกแต่งภายในบ้านและเปลี่ยนโฉมทั้งหมด
บ้านกลิ่นอายฝรั่งเศส หลังนี้ ตั้งอยู่ในโครงการหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เจ้าของบ้านเล่าว่าตอนย้ายมาทำงานที่กาญจนบุรีใหม่ ๆ ก็ขับรถไปเที่ยวรอบ ๆ ไปร้านกาแฟบ้าง จึงผ่านหมู่บ้านนี้หลายครั้ง รู้สึกว่าที่นี่น่าอยู่ มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งโครงการนี้สร้างมาแล้ว 4-5 ปี จึงมีคนมาอยู่อาศัยเกือบเต็มแล้ว และมีบ้านว่างอยู่ประมาณ 2 หลังเท่านั้นเอง
“วันที่เข้ามาดูเราเห็นว่าบ้านน่ารักดี หลังเล็ก ๆ ชั้นเดียว แล้วก็มีสระว่ายน้ำ คือกาญจนบุรีหน้าร้อนก็ร้อนจริงจังมาก พอมีน้ำเลยทำให้บ้านดูเย็น แล้วตอนที่มาครั้งแรกเขาเปิดประตูทั้งหมด ลมพัดเข้ามาในบ้าน รู้สึกว่าบ้านอยู่สบาย จริง ๆ แล้วเราไม่ได้มีความจำเป็นต้องซื้อบ้านเลย เพราะต้องย้ายงานเกือบทุกปี แต่พอดีเราเห็นว่ามีการสร้างทางด่วนพิเศษจากกรุงเทพฯมากาญจนบุรี ซึ่งหากเสร็จเรียบร้อยจะใช้เวลาจากกรุงเทพฯมาแค่ 50 นาทีเอง ก็เลยตัดสินใจซื้อ เพราะถึงย้ายไปทำงานที่อื่นก็ยังมาได้ไม่ยาก เหมือนเป็นบ้านพักผ่อนของเราได้”
สิ่งแรกที่ทั้งคู่มองหาคือมัณฑนากร เพราะตั้งใจว่าจะปรับเปลี่ยนบ้านให้เป็นแบบที่ชอบ เพื่อให้อยู่อาศัยสบายที่สุดและมีบรรยากาศเหมือนเป็นบ้านตากอากาศ
“เราคุยกันว่าไม่อยากได้บ้านที่เข้ามาแล้วเป็นบิลท์อินแบบที่เขาจัดมาให้ ก็เลยหามัณฑนากรก่อนเลย ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อบ้าน ซึ่งเราดูจากรายการบ้านและสวนทีวีในยูทูป จนเจองานออกแบบของคุณเล็ก รู้สึกว่าตรงใจ ชอบจังเลย แต่เราไม่แน่ใจว่าเขารับทำงานต่างจังหวัดหรือเปล่า เลยส่งข้อความไปถามก่อน แล้วก็คุยรายละเอียดค่ะ พอคุณเล็กบอกว่ารับก็เลยลงตัว ถ้าอย่างนั้นก็ซื้อบ้านเลยแล้วกัน พอเรามาดูบ้านอีกครั้งสองครั้งก็ตัดสินใจเลย ประกอบกับตอนนั้นเป็นช่วงโควิด -19 ที่เราไม่ได้เดินทางไปไหน มีเวลาว่างเยอะ หลังจากทำงานก็เลยเอาเวลามาทำบ้าน” (หัวเราะ)
ปรับ ขยับ ขยาย
บ้านหลังนี้ใช้เวลาออกแบบประมาณ 2 เดือน และใช้เวลาตกแต่งอีก 3 เดือน แม้ว่าบ้านจะมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่จนเจ้าของบ้านคุยกันขำๆว่า “เราซื้อเฉพาะสระว่ายน้ำกับหลังคาหรือเปล่า” เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนจากแบบบ้านเดิมที่มี 3 ห้องนอน ให้เหลือเพียง 1 ห้องนอนตามการใช้งาน และยุบห้องน้ำจาก 4 ห้องให้เหลือเพียง 2 ห้อง เพื่อขยายขนาดพื้นที่ให้กว้างขึ้น
“ตรงครัวนี้เดิมทีเป็นห้องนอนใหญ่ ซึ่งไอเดียนี้มาจากคุณเล็กถามเราว่าจำเป็นจะต้องมีห้องนอนแขกไหม เพราะว่าตรงนี้ตอนเช้าแสงดีมาก แล้วลมก็พัดดีด้วย ทำเป็นห้องครัวไปเลยดีไหม เพราะก่อนถึงหมู่บ้านนี้มีโรงแรมอยู่แล้ว หากมีแขกมาพักก็ส่งแขกไปที่โรงแรมเลยใกล้ ๆ ซึ่งเป็นไอเดียที่ดีมาก พอคุณเล็กออกแบบตรงนี้มาให้ เราถูกใจมาก”
สำหรับห้องนอนเลือกห้องที่ติดกับสระว่ายน้ำ ทุบเชื่อมกันกับห้องนอนอีกห้องที่เหลือ ซึ่งปรับเป็นห้องแต่งตัวแบบวอล์กอินคลอเซต ยุบห้องน้ำระหว่าง 2 ห้องนี้ให้เหลือห้องเดียวเพื่อวางอ่างอาบน้ำตามความต้องการของเจ้าของบ้าน จากห้องน้ำเดิมที่เล็กมากมีแค่อ่างล้างมือ ชักโครก และเรนชาวเวอร์ เมื่อทุบขยายแล้วจึงได้ห้องน้ำสีขาวสะอาด บรรยากาศไม่ต่างจากโรงแรมหรูเลยทีเดียว ส่วนห้องน้ำอีกห้องหนึ่งทุบออกรวมกับห้องซักรีด ทำให้ส่วนซักรีดกว้างขวางใช้งานสบายขึ้น เผื่อว่าถ้าฝนตกก็สามารถยกราวตากผ้าอันใหญ่เข้ามาได้เลย
เติมสีสัน สร้างบรรยากาศบ้านสวย
เพราะเจ้าของบ้านเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือและดูรายการเกี่ยวกับการตกแต่งบ้านเป็นทุนเดิม ทำให้มีไอเดียมากมาย ซึ่งให้โจทย์กับผู้ออกแบบไปว่า “Different room, different style” ซึ่งแต่ละห้องไม่ต้องมีความเชื่อมโยงกัน ห้องทำงานดีไซน์คลาสสิกเลือกใช้โทนสีแดง ห้องนอนโทนสีอบอุ่นมีกลิ่นอายแบบโคโลเนียล
“เราไม่กลัวการใช้สี อยากได้สีเยอะ ๆ ซึ่งวิธีเลือกสีแต่ละห้อง คุณเล็กจะเลือกมาให้ประมาณ 3 สี เช่น ห้องทำงานที่เป็นห้องสมุดด้วย บอกไปว่าอยากได้สีแดง ก็จะเลือกแดงมาให้ 3 โทน ไอเดียของคุณฟรองซัวร์คืออยากได้สีแดงแบบ Ralph Laurent ตอนนั้นเสิร์ชหาแบบอ้างอิงมาดูกัน เลยได้เป็นสีแดงนี้ เป็นสีที่สดที่สุดใน 3 สีที่คุณเล็กให้มา บางคนอาจจะชอบสีขาว ๆ ก็จะตกใจว่าทำไมทาบ้านสีแดง แล้วไม่ได้แดงแค่ผนังแต่แดงตรงฝ้าด้วย จริงๆ ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะทาฝ้า จนคุณเล็กให้ไอเดียว่าทาฝ้าด้วยเลยไหม ก็เลยเอาค่ะ ซึ่งเราชอบมาก เพราะว่าพอใช้เฟอร์นิเจอร์สีน้ำตาลเข้มก็ดูโอเค ไม่ได้ดูสีเยอะขนาดนั้น”
ส่วนห้องครัว เจ้าของบ้านมีผ้าม่านแบบที่ชอบอยู่ในใจคือผ้าของจิม ทอมป์สันสีส้มลายสวย จึงตัดสินใจเลือกผนังสีน้ำเงินตัดกับสีม่าน รวมทั้งงานบิลท์อินทั้งหมดเลือกใช้สีน้ำเงิน ทำให้ภายในนี้ดูสดใส ยามเช้าที่มีแสงแดดส่องเข้ามาแสงที่ตกกระทบจึงสวยเป็นพิเศษ กลายเป็นมุมที่ใช้ทั้งรับประทานอาหารเช้าและนั่งทำงานไปด้วยในตัว
ห้องนั่งเล่นดูเป็นส่วนที่ใช้สีน้อยที่สุดเป็นสีอ่อนๆตกแต่งกรอบรูปและของสะสมต่าง ๆ มีเพียงตู้สีฟ้าเก็บตุ๊กตา Precious Moments ที่สะสมไว้
เลือกเฟอร์นิเจอร์มาใส่บ้าน
“ช่วงที่ทำบ้าน พอถึงวันเสาร์อาทิตย์เราจะไปดูเฟอร์นิเจอร์ตลอด ที่ไปบ่อยๆคือ CHANINTR ไปทุกอาทิตย์ถึงของเขาไม่ได้เปลี่ยนเลยก็ไปดูอยู่นั่นแหละ (หัวเราะ) อีกร้านหนึ่งจะเป็นร้านแนววินเทจที่เชียงใหม่ แล้วก็มีร้านของเก่าแถว ๆ รามอินทรา ร้านเหล่านี้คุณเล็กแนะนำมาหมดเลย ส่วนของตกแต่งพวกผ้าหลัก ๆ มาจากจิม ทอมป์สัน”
เจ้าของบ้านยังมีไอเดียจัดห้องแต่งตัวให้ดูเหมือนร้านขายของวินเทจในต่างประเทศ ที่มีของให้ค้นหา ของตกแต่งต่างๆ ทั้งอาร์มแชร์ โต๊ะ โคมไฟ และตู้เสื้อผ้าก็เป็นสไตล์วินเทจ ผสมเข้ากับตู้บิลท์อินและติดม่านสีแดงที่เปิดเห็นสวนภายนอก รวมทั้งยังนำชุดแต่งงานที่เต็มไปด้วยความทรงจำของเจ้าของบ้านมาตกแต่งไว้อย่างสวยเก๋ เป็นบ้านกลิ่นอายวินเทจและฝรั่งเศสที่ผสมรวมเอาตัวตนของเจ้าของบ้านมาแต่งเติมไว้อย่างอบอุ่นทุกมุม
จากเดิมที่เป็นคนกรุงเทพฯเจอรถติดมาตลอดและต้องใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ เมื่อย้ายงานมาอยู่ต่างจังหวัดก็ชอบความสะดวกสบายของการเดินทางที่ไม่ต้องเจอรถติด คุณภาพชีวิตดีกว่า
“สมมติว่าเราตื่น 7 โมงเช้า เรามีเวลาทำทุกอย่างเลย ตั้งแต่ว่ายน้ำ กินข้าว แล้วค่อยไปทำงาน ตอนกลางวันกลับมากินข้าวที่บ้านแล้วค่อยกลับไปทำงานก็ทัน
“เมื่อก่อนดูรายการบ้านและสวนทีวีที่เจ้าของบ้านหลายๆคนเขาชอบบอกว่าพอทำบ้านเสร็จแล้วไม่อยากออกไปไหนเลย ตอนนั้นก็ไม่เข้าใจนะ คนเราก็ต้องอยากเปลี่ยนบรรยากาศ ไปห้าง ไปอะไรบ้างสิ…พอทำบ้านของตัวเองเสร็จ ความรู้สึกเป็นแบบนั้นจริง ๆ คงเพราะเราโตขึ้นด้วย ก็จะไม่ติดกับการต้องไปห้าง ไปอัปเดตนู่นนี่แล้ว เรามีความสุขกับการอยู่บ้าน ทำกับข้าว ปลูกต้นไม้ ร้านกาแฟก็ไปน้อยลง จะออกไปเมื่อจำเป็นจะต้องทำอะไรสักอย่างจริง ๆ เช่น ต้องไปซื้อกับข้าว แต่เสร็จแล้วเราก็อยู่แต่ในบ้าน อ่านหนังสือ นั่งเล่น บางคนเขาออกไปร้านกาแฟเพื่อหาบรรยากาศ แต่เรามีบรรยากาศที่เราชอบอยู่ในบ้านอยู่แล้ว เลยไม่ต้องออกไปไหน” เจ้าของ บ้านกลิ่นอายฝรั่งเศส หลังนี้ กล่าวทิ้งท้าย
เจ้าของ : คุณฟรองซัวส์
ออกแบบภายใน : Lexoda โดยคุณนภาภรณ์ โพธิรัชต์
เรื่อง : วรัปศร
ภาพ : สิทธิศักดิ์ น้ำคำ
สไตล์ : SUANPUK