บ้านชั้นเดียว เปิดรับลม และธรรมชาติอย่างไร้ขอบกั้น
บ้านชั้นเดียว เปิดรับลม ที่เน้นการออกแบบเชื่อมโยงทั้งบรรยากาศ มุมมอง รวมไปถึงการเปิดรับธรรมชาติเพื่ออยู่อาศัยร่วมกันแบบ Passive Living หรือคือการเปิดรับลมธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้านในเวลาส่วนใหญ่ของการใช้ชีวิต
Design Directory : สถาปนิก : S Pace Studio
บ้านชั้นเดียว เปิดรับลม หลังนี้มีชื่อว่า “บ้านกกค้อ” เป็นบ้านที่ตั้งอยู่ในอำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น เริ่มต้นจากการที่เจ้าของบ้านมีที่ดินเดิมของครอบครัวอยู่ และได้ปลูกป่าสักเอาไว้ เมื่อถึงเวลาที่ลูกๆ เริ่มเติบโตขึ้นจึงต้องการสร้างบ้านหลังใหม่เพื่อให้ทุกคนได้มีพื้นที่ของตัวเอง จุดเด่นของบ้านหลังนี้อยู่ตรงที่ดินผืนใหญ่ที่สามารถจัดวางบ้านลงบนจุดใดของที่ดินก็ได้ ซึ่งผู้ออกแบบได้เลือกที่จะวางบ้านไว้ยังจุดกึ่งกลางของที่ดิน โดยมีป่าสักเป็นเหมือนแบ็กกราวนด์อยู่ด้านหลัง และมีลานหญ้าสำหรับทำกิจกรรมอยู่ด้านหน้าของบ้าน
บ้านที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติอย่างไร้ขอบกั้น เป็นนิยามหลักของบ้านหลังนี้ จากการเชื่อมโยงทั้งบรรยากาศ มุมมอง รวมไปถึงการเปิดรับธรรมชาติเพื่ออยู่อาศัยร่วมกันแบบ Passive Living หรือคือการเปิดรับลมธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้านในเวลาส่วนใหญ่ของการใช้ชีวิตนั่นเอง ด้วยเหตุนี้เองการออกแบบเพื่อสร้างการรับลม จัดสรรพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งการสร้างร่มเงาให้บ้านจึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้บ้านหลังนี้สมบูรณ์ดังที่ตั้งใจ
บ้านชั้นเดียวที่ต่อเนื่องเป็นพื้นที่เดียวกัน
บ้านชั้นเดียว เปิดรับลม หลังนี้ออกแบบให้เป็นบ้านชั้นเดียวเพื่อให้ทุกพื้นที่สามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างลื่นไหลคล่องตัว ทั้งเผื่อในเวลาที่แก่ตัวลงก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงบ้านมากนัก สามารถเติมทางลาดหรือปรับทางสัญจรใหม่ได้เลย
พื้นที่นั่งเล่นและชานบ้านนั้นสามารถเปิดให้ต่อเนื่องเป็นพื้นที่เดียวกันได้ ในขณะที่ทางเดินหลักในบ้านนั้นก็มีประตูปิดเพื่อกั้นพื้นที่ส่วนตัวอย่างห้องนอนออกจากพื้นที่ทั้งหมดได้เช่นกัน การใช้งานในบ้านจึงถูกแบ่งออกอย่างชัดเจนด้วยภาษาทางสถาปัตยกรรมของตัวบ้าน และเพื่อให้สะดวกเวลาที่มีแขกแวะเวียนมาที่บ้านนั่นเอง
สร้างการเชื่อมโยงจากภายในสู่ภายนอก
ไม่เพียงธรรมชาติโดยรอบเท่านั้น การวางผังอาคารของบ้านหลังนี้แท้จริงแล้ววางผังเป็นรูปตัวแอล (L) ที่แยกออกเป็นปีกพื้นที่ส่วนตัว และปีกที่เป็นเหมือนพื้นที่ส่วนกลาง นั่นทำให้เกิดพื้นที่ที่ถูกโอบล้อมอยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างสองปีก และพื้นที่ส่วนนี้เองก็ได้เป็นเหมือนวิวเด่นของบ้านหลังนี้อีกด้วย จากห้องนั่งเล่น เราจะสามารถเห็นวิวดวงอาทิตย์ตกได้ เมื่อถอยออกมาสู่พื้นที่ภายนอกจะเป็นชานนั่งเล่นที่เหมือนกับเป็นพื้นที่รับแขกด้านนอกและสามารถเดินออกไปสู่ธรรมชาติภายนอกได้ในทันที ในบางโอกาสนั้น เจ้าของบ้านยังสามารถเปิดประตูเลื่อนบานใหญ่เพื่อเชื่อมห้องนั่งเล่นและชานเป็นพื้นที่เดียวกันได้อีกด้วย
องค์ประกอบทางสถาปัตยที่สร้างพื้นที่พิเศษให้บ้าน
เมื่อพิจารณาถึงทิศรับวิวของห้องนั่งเล่นที่เป็นทิศตะวันตกแล้ว บ่อยครั้งที่จะได้ยินว่าแสงแดดจากทิศตะวันตกนั้นจะทำให้บ้านร้อน แต่ไม่ใช่กับบ้านนี้อย่างแน่นอน ในการออกแบบให้มีชาน และพื้นที่ร่มเงาป้องกันแดดจากภายนอกแล้ว ยังมีอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ช่วยเติมเต็มบ้านหลังนี้ให้สมบูรณ์นั่นคือระแนงขนาดใหญ่ที่ทำหน้าที่เป็น Shading Device ให้พื้นที่ทั้งหมดของบ้านนั่นเอง
ระแนงนี้แท้จริงคือการนำวัสดุอย่างแผงอะลูมิเนียมที่มักจะถูกใช้ในการทำผนังระแนงแนวตั้งเพื่อปิดบังอุปกรณ์เช่นคอมเพรสเซอร์แอร์มาออกแบบใหม่ให้ติดตั้งแทนหลังคา นอกจากที่แผงอะลูมิเนียมนี้จะช่วยกรองแสงได้อย่างดีแล้ว ยังมีการระบายความร้อนที่ดีไม่ทำให้เกิดความร้อนสะสมในโครงสร้างอีกด้วย และเมื่อแผงหลังคานี้ได้เชื่อมปีกทั้งสองของอาคารเข้าหากัน ชานนั่งเล่นจึงเกิดเป็นพื้นที่ส่วนตัวได้มากขึ้นโดยไม่รู้สึกถูกปิดกั้นมากเกินไป
เปิดรับบรรยากาศคือกำไรของบ้านชั้นเดียว
เพราะพื้นที่ทั้งหมดของบ้านนั้นออกแบบด้วยความตั้งใจให้เป็นบ้านชั้นเดียวมาตั้งแต่แรก จึงทำให้สามารถสร้างความเชื่อมโยงสู่ธรรมชาติเป็นไปได้ในทุกจุดของบ้านได้โดยสะดวก
และนี่ก็คือบ้านที่ออกแบบให้เชื่อมโยงกับธรรมชาติด้วยรูปแบบและองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมอย่างชัดเจน เป็นงานสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ปัจจุบันได้อย่างน่าสนใจ
เจ้าของ : คุณจีรนันท์ บุญแก้ว
ออกแบบ : S Pace Studio
รับเหมาก่อสร้าง : ก.กิจรุ่งเรือง จำกัด
เรื่อง : วุฒิกร สุทธิอาภา
ภาพ : ศุภกร ศรีสกุล
สไตล์ : วรวัฒน์ ตุลยทิพย์