ซื้อบ้านมือสอง ต้องตรวจเช็คอะไรบ้าง
ซื้อบ้านมือสอง ทั้งที ควรรู้วิธีการตรวจสอบสภาพบ้านมือสองเบื้องต้นด้วย เพราะบ้านมือสองก็คือบ้านเก่าที่ผ่านการใช้งานมาก่อน จึงควรพิจารณาให้ดีเพื่อไม่ให้การซื้อบ้าน (เก่า) หลังใหม่เกิดข้อผิดพลาด
หลายสิ่งที่ทำพลาดเมื่อ ซื้อบ้านมือสอง จนทำให้เราต้องเสียใจในภายหลังกับสารพัดปัญหาที่ผู้ขายส่วนใหญ่มักปกปิดไว้ เช่น หลังคารั่ว ผนังร้าว ท่อตัน บ้านทรุดจนเป็นเหตุให้ต้องเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลากับการซ่อมแซมบ้านใหม่ แล้วยังต้องมานั่งเสียน้ำตาในความเสียดายที่เลือกบ้านผิด ช่างประจำบ้าน จึงรวบรวมข้อควรรู้เกี่ยวกับการ ซื้อบ้านมือสอง มาบอกกัน
รู้ประวัติข้อมูลบ้าน
หลังจากได้บ้านตามที่หมายตาแล้ว เราควรสอบด้วยว่าบ้านที่เราเล็งไว้เข้าข่ายหัวข้อต่อไปนี้หรือไม่
– บ้านอยู่ในพื้นที่เวนคืนเพื่อสร้างทางด่วนหรือไม่ สามารถตรวจสอบได้กับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย
– บ้านอยู่ในพื้นที่เวนคืนตัดถนนหรือไม่ ในเขตกรุงเทพฯสามารถตรวจสอบกับกรุงเทพมหานครหรือกรมโยธาธิการ กรณีต่างจังหวัดสอบถามได้จากเทศบาลจังหวัดหรือกรมทางหลวง ขึ้นอยู่กับประเภทถนนว่าเป็นทางหลวงแผ่นดิน ทางหลวงจังหวัด หรือทางหลวงท้องถิ่น
– ตรวจสอบการชำระค่าสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ว่าเจ้าของบ้านเดิมค้างชำระหรือไม่ ด้วยการนำสัญญาจะซื้อจะขายไปตรวจสอบได้ที่สำนักงานเขตประปาและสำนักงานเขตไฟฟ้าในเขตนั้นๆ
– ตรวจสอบโฉนดที่ดินว่าถูกต้องหรือไม่ ด้วยการนำสัญญาจะซื้อจะขายไปตรวจสอบได้ที่สำนักงานเขตที่ดินในเขตนั้นๆ
– ตรวจสอบว่าบ้านมีใบอนุญาตก่อสร้างหรือไม่ บ้านสร้างผิดแบบหรือผิดเงื่อนไขการขออนุญาตหรือไม่ หรือมีการต่อเติมเพิ่มจากแบบที่ขออนุญาตหรือไม่ เพราะหากเจ้าของเดิมสร้างผิดแบบที่ขออนุญาต แล้วสำนักงานเขตมาตรวจพบเมื่อเราซื้อบ้านไปแล้ว ทางเขตมีอำนาจให้เรารื้อถอนบ้านได้ และหากเจ้าของอ้างว่าไม่มีใบอนุญาตเดิมมาให้ดู เราก็สามารถถ่ายภาพบ้านหลังนั้นและนำเลขทะเบียนบ้านไปสอบถามกับหัวหน้างานโยธาเขต (กทม. ) หรือกองช่างของเขตเทศบาล ว่าบ้านหลังนี้มีการสร้างผิดแบบหรือมีคดีความอยู่หรือไม่
•อัพเดทอัตราดอกเบี้ย สินเชื่อบ้าน 2561
•รู้ไว้อย่าให้ใคร หลอกขายที่ดิน !! ความแตกต่างของเอกสารสิทธิ์ที่ดิน
การตรวจสภาพบ้านมือสอง
ระหว่างขั้นตอนการตรวจเช็คสภาพโครงสร้างบ้าน เราควรหาวิศวกรหรือสถาปนิกผู้เชี่ยวชาญมาร่วมตรวจสอบด้วยทุกครั้ง สำหรับการตรวจสอบสภาพความแข็งแรงของบ้าน ขอแบ่งเป็นหัวข้อจากภายนอกสู่ภายในบ้านตามลำดับดังนี้
1.ตรวจสภาพภายนอกบ้าน
– วิเคราะห์สภาพบริเวณรอบๆบ้านว่ามีการทรุดตัวมากน้อยแค่ไหน อาจสังเกตได้จากลานจอดรถหรือลานซักล้าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงสร้างแผ่นพื้นวางบนดิน เพื่อเช็คการทรุดตัวของสภาพดินในบริเวณนั้น
– สังเกตว่าน้ำฝนจากอาคารข้างเคียงสามารถไหลเข้ามาในบริเวณบ้านได้หรือไม่ มีต้นไม้ใหญ่ยื่นเข้ามาบังแดดหรือมีระบบรากชอนไชที่สามารถดันกำแพงบ้านเสียหายหรือไม่
– เช็คที่ตั้งของบ้านว่าอยู่ในที่ลุ่มน้ำท่วมหรือไม่ และมีระดับต่ำกว่าถนนหน้าบ้านแค่ไหน เพื่อตรวจเช็คความเสี่ยงในการเกิดปัญหาน้ำท่วมบ้าน
– ตรวจเช็คว่าอาคารข้างเคียงมีการขุดบ่อหรือสระใกล้บ้านจนอาจทำให้บ้านทรุดพังได้หรือไม่ หรือหากอาคารข้างเคียงมีการถมดินสูงกว่าระดับพื้นในบ้านมาก ก็อาจทำให้รั้วหรือตัวบ้านถูกดินจากฝั่งอาคารข้างเคียงดันจนเกิดความเสียหายได้เช่นกัน
– ตรวจเช็คหลังคาบ้านว่ามีน้ำฝนรั่วซึมเข้าบ้านหรือไม่ เริ่มจากการสังเกตฝ้าเพดานภายในบ้านว่ามีอาการบวมพอง หรือมีคราบน้ำซึมหรือไม่ แล้วทดลองฉีดน้ำบนหลังคาบริเวณนั้นเพื่อตรวจเช็คว่าหลังคายังรั่วอยู่หรือไม่
– ตรวจเช็คสภาพสีบนผนังของบ้านว่ามีร่องรอยด่างบวมเนื่องจากมีน้ำฝนหรือน้ำจากห้องน้ำไหลซึมเข้ามาในผนังหรือไม่
•ที่ดินตาบอด คืออะไรและมีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้าง มาดูกัน
2. ตรวจสอบงานระบบ
– ตรวจระบบประปาว่ามีการรั่วซึมของน้ำบริเวณผนังและใต้พื้นห้องน้ำหรือไม่ พร้อมกับทดลองปิดก๊อกน้ำในบ้านทุกจุด แล้วตรวจว่ามิเตอร์น้ำยังเดินอยู่หรือไม่ หากมิเตอร์ยังเดินอยู่อาจเป็นเพราะอุปกรณ์ในถังพักโถสุขภัณฑ์เสื่อม ให้เปลี่ยนใหม่แล้วตรวจเช็คอีกครั้ง ถ้ามิเตอร์น้ำยังเดินอยู่อีก สันนิษฐานได้ว่าระบบท่อน้ำประปาอาจจะรั่ว
•เรียนรู้ทำความเข้าใจ ระบบน้ำในบ้าน
– ตรวจเช็คระบบไฟฟ้า สังเกตสายไฟว่าเสื่อมคุณภาพหรือไม่ หากฉนวนหุ้มสายไฟฟ้ามีรอยแตกหรือกรอบควรเปลี่ยนใหม่ทั้งชุด โดยอาจเจรจาให้เจ้าของบ้านช่วยเปลี่ยนให้
•5 วิธี ตรวจสอบงาน ระบบไฟฟ้า ด้วยตัวเองง่ายๆ
3. ตรวจสภาพโครงสร้างอาคาร
– สังเกตภาพรวมของตัวบ้านว่าอยู่ในแนวดิ่งตั้งฉากกับพื้นหรือไม่ โดยเฉพาะโครงสร้างเสาและคานรับน้ำหนักบ้านจะต้องไม่แอ่นหรือเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง
– ตรวจหารอยร้าวในคานและเสา หากพบว่าเป็นรอยร้าวที่เกิดกับเนื้อคอนกรีตซึ่งเป็นโครงสร้างข้างในของเสาและคาน ไม่ใช่แค่รอยร้าวของปูนฉาบที่ผิวหน้า ควรเรียกวิศวกรผู้เชี่ยวชาญมาช่วยตรวจสอบไม่ว่าในกรณีใด เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากเสาและคานเป็นโครงสร้างหลักที่รับน้ำหนักของบ้าน
– สังเกตลักษณะรอยแตกร้าวบนพื้นภายในบ้านว่าเป็นรอยร้าวที่ส่งผลต่อความแข็งแรงของโครงสร้างอาคารหรือไม่ หากเป็นบ้านสองชั้นอาจจำเป็นต้องรื้อฝ้าเพดานเพื่อตรวจเช็คให้แน่ใจว่าท้องพื้นชั้นบนมีรอยร้าวด้วยหรือไม่ เพราะพื้นบ้านส่วนใหญ่มักจะมีวัสดุปิดผิวเพื่อตกแต่งพื้น จนอาจทำให้ไม่สามารถมองเห็นรอยร้าวบนพื้นได้ หรือหากมีรอยแตกร้าวก็อาจเป็นเพียงรอยร้าวของผิววัสดุตกแต่งพื้นเท่านั้น