พิมล ศรีวิกรม์ กับการปั้น Alexander & James Flagship Store ใจกลางกรุง
6 ปีที่แล้ว อเล็กซานเดอร์ แอนด์ เจมส์ (Alexander & James) แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชั้นนำจากอังกฤษภายใต้การบริหารงานของ บริษัท ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TCMC ได้เข้ามาตั้งฐาน เปิดแฟลกชิปสโตร์แห่งแรกในเมืองไทย
กระทั่งปีนี้ได้ปักหมุดทำเลเอกมัย ซอยสุขุมวิท 63 ยกระดับแฟลกชิปสโตร์ของแบรนด์ให้ใหญ่ขึ้น เติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้คนด้วยโซฟาคุณภาพระดับพรีเมียมกว่า 48 โมเดล พร้อมกับสินค้าประดับตกแต่งและพรมทอมือจากดีไซน์เนอร์ รวม 28 ผืน
ซึ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ คุณพิมล ศรีวิกรม์ ประธานกรรมการ บริษัท ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บอกเหตุผลว่า เพื่อจะดันแฟลกชิปสโตร์แห่งนี้ให้เป็นศูนย์กลางส่งออกเฟอร์นิเจอร์ในเอเชียภายในปี 2568
TCMC มีแบรนด์เฟอร์นิเจอร์อยู่ในมือถึง 3 แบรนด์ คือ Alstons, Ashley Manor และ Alexander & James ซึ่งหากเปรียบเทียบแบรนด์สไตล์อังกฤษทั้ง 3 แบรนด์แล้ว Alstons และ Ashley Manor เน้นการออกแบบที่เรียบง่าย แต่ Alexander & James กลับมีดีไซน์ที่โดดเด่นและมีสีสันสะดุดตา ทั้งในแง่มุมของสีสันและการเลือกใช้วัสดุหนังและผ้าได้อย่างน่าสนใจ ผสมผสานกับสไตล์อื่น ๆ ได้อย่างลงตัว
เมื่อเปิดแฟลกชิปสโตร์แห่งใหม่ได้นำแบรนด์ในเครืออย่าง RT Studio by Royal Thai และ RT Acoustic มาจัดวางผสมผสานกันเราจึงได้เห็นตัวอย่างการจัดมุมพักผ่อนมากมายบนพื้นที่อาคาร 5 ชั้นแห่งนี้
“เราเรียกตัวเองว่าเป็นสินค้า Accessible Luxury คือหรูหราแต่เข้าถึงได้ ซึ่งโซฟาและพรมของเรามีทิศทางเดียวกัน ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่ายและใช้งานได้อย่างเต็มที่”
การเปิดแฟลกชิปสโตร์แห่งใหม่ของ Alexander & James ในพื้นที่ที่ใหญ่กว่าเดิม ทำให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น โดยการตกแต่งภายในโชว์รูมแต่ละชั้นมีความหลากหลายของอารมณ์และสไตล์ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งแต่ละชั้นวางคอนเซ็ปเหมือนได้เดินทางด้วยความน่าตื่นตาตื่นใจและน่าหลงใหลในทุกๆ ชั้น เพื่อตอบโจทย์ความชื่นชอบของผู้บริโภคที่แตกต่างกัน แต่ยังคงคอนเซ็ปต์กลิ่นอายแบบฉบับอังกฤษที่นับเป็นดีเอ็นเอของแบรนด์ไว้อย่างครบครัน
นับตั้งแต่ชั้น G ที่ต้อนรับผู้คนด้วยคอนเซ็ปต์ LITTLE LEOPOLD (ลิตเติ้ล ลีโอโพลด์) ซิกเนเจอร์สไตล์ที่ใครๆ ก็หลงรัก โดยจำลอง Leopold Street แห่งลอนดอน แหล่งรวมเฟอร์นิเจอร์ชั้นนำในอังกฤษมาไว้ที่กรุงเทพฯ ชั้นนี้จัดวางงานออกแบบสุดคลาสสิค ที่รวมทั้งความนั่งสบายและงานฝีมือคราฟแมนชิพเข้าด้วยกัน แฝงด้วยลูกเล่นความเป็นโมเดิร์นที่ประกอบกันแล้วลงตัว รวมถึงมี The Design Studio ที่มีผ้าและหนังครบทุกคอลเลคชั่นเพื่อให้สามารถคัสตอมเฟอร์นิเจอร์ในสไตล์ที่ต้องการ ซึ่ง Alexander & James ให้ความสำคัญกับการใช้วัสดุที่ยั่งยืน โดยไม้ที่ใช้มาจากป่าปลูก และหนังวัวที่ใช้นั้นมาจากกระบวนการที่ไม่ทารุณสัตว์
ที่ชั้น MEZZANINE (ชั้นลอย) นำเสนอไฮไลต์ของ RT STUDIO by ROYAL THAI พรมทอมือสรรค์สร้างจากมรดกทางศิลปะไทยให้เป็นพรมที่มีความโดดเด่น ดุจดั่งงานแสดงศิลปะในบ้าน และเมื่อเดินต่อขึ้นไปที่ชั้น 2 จะพบกับความเท่แบบร่วมสมัยของ THE LOUNGE ที่นำเสนอโซฟารูปทรงคลาสสิกที่ทันสมัย ขนาดใหญ่เหมาะแก่การเข้าสังคม และแน่นอนว่าให้ความสำคัญกับผิวสัมผัสที่นุ่มสบายจากหนังและผ้าเกรดพรีเมี่ยม
สำหรับชั้น 3 THE RETREAT นำบรรยากาศกลางแจ้งเข้ามาจำลองไว้ในบ้าน โอบรับกับสีสันของธรรมชาติสไตล์ Eclectic ด้วยการผสานระหว่างผ้ากำมะหยี่และหนัง โดยเน้นโทนสีที่เข้มดิบและสีเอิร์ธโทน การมิกซ์แอนด์แมชต์เก้าอี้และสตูลวางเท้า องค์ประกอบของความเก่าแก่และความเขียวขจี พื้นที่ที่รวมผู้คนเข้ามาพักผ่อนร่วมกัน สะท้อนแนวทางการใช้ชีวิตแบบสบายๆ ตามสไตล์ที่เป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์
ชั้น 4 เป็นพื้นที่ที่เรียกว่า THE STUDIO ที่ต้องการให้คุณเอนหลังบนโซฟาที่นั่งสบายที่สุดของแบรนด์ พร้อมสัมผัสพรมคอลเลคชั่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวและซึมซับงานออกแบบที่ผสมผสานดีไซน์ที่หลากหลาย สร้างความสงบและยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ในชั้นนี้จะโชว์ผลงานของ RT STUDIO x MOOK V เป็นคอลเลคชั่นเปิดตัวของแบรนด์ RT STUDIO by ROYAL THAI และ RT ACOUSTIC โซลูชั่นของการเก็บเสียงที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพ ความสวยงาม และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจากวัตถุดิบยั่งยืน
และสุดท้าย ชั้น 5 CITY TERRACE (ซิตี้ เทอเรซ) กับแนวความคิดในการเป็นอีเว้นท์สเปซ พื้นที่สำหรับงานดีไซน์ ครีเอทีฟ ที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปีหน้า
แฟลกชิปสโตร์แห่งนี้ถูกวางให้เป็นต้นแบบของแกลอรี่สำหรับโชว์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้ลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติได้แวะเวียนมาเยี่ยมเยียน เพื่อให้ลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ ได้สัมผัสถึงความลักซ์ชัวรี่ที่มาพร้อมกับความนุ่มสบาย ดีไซน์จากอังกฤษ โดยตั้งเป้าเติบโตในเอเชียและตะวันออกกลาง รวมถึงวางแผนขยายตลาดในประเทศไปยังภูเก็ตหรือโคราช โดยตั้งเป้ารายได้ปี 2567 ไว้ที่ 130 ล้านบาท
ตามไปเยี่ยมชมงานเฟอร์นิเจอร์ของ อเล็กซานเดอร์ แอนด์ เจมส์ ที่เปรียบเหมือนงานศิลปะมาสเตอร์พีซได้ที่ซอยสุขุมวิท 63 เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00 น.- 19:00 น. สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ www.alexanderandjamessofas.com