บ้านไม้โมเดิร์น หลังนี้เป็นงานสุดท้าทายของสถาปนิกและช่างก่อสร้าง ทั้งการเลือกใช้วัสดุธรรมชาติแท้ๆ ของหินและไม้ ทั้งขนาดที่ใหญ่เป็นพิเศษของวัสดุ และการติดตั้งแบบเหนือชั้น เปรียบเหมือนรถสปอร์ต์ที่ขับยากแต่สนุก
Design Directory : สถาปนิก Warchitect
ความไม่ธรรมดาของ บ้านไม้โมเดิร์น หลังนี้เริ่มต้นตั้งแต่ที่ดินรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าราว 80 ตารางวา ซึ่งมีด้านหน้าแคบหันออกไปทางทิศเหนือติดกับถนน แต่ด้านลึกที่ยาวมากขนานไปกับทิศตะวันตกและตะวันออก อีกทั้งรอบข้างยังแวดล้อมไปด้วยเพื่อนบ้านในระยะประชิดติดขอบที่ดินแบบบ้านในเมือง โดยไม่มีบริบทของธรรมชาติสวยๆ รายรอบเลย
ข้อจำกัดดังกล่าวกลายเป็นความท้าทายเริ่มต้นให้ คุณวิน-ธาวิน หาญบุญเศรษฐ สถาปนิกแห่ง WARchitect เมื่อได้รับคำเชื้อเชิญจาก คุณขจี เกศจุมพล เจ้าของที่อยากสร้างบ้านพักผ่อนของตัวเอง โดยเติมโจทย์ท้าทายเพิ่มเข้าไปอีกว่าอยากได้บ้านที่สวยเหมือนงานศิลปะและสร้างด้วยวัสดุธรรมชาติแท้ๆ ให้มีความอบอุ่นอยู่สบาย
ความท้าทายของสถาปนิกกับคนสร้างบ้าน
เพื่อแก้ปัญหาบ้านบนที่ดินขนาดเล็กนี้ให้ดูแตกต่างและมีความเป็นส่วนตัว คุณวิน ผู้เป็นสถาปนิกจึงออกแบบบ้านทรงสูง 4 ชั้นพร้อมพื้นที่ใช้สอย 705 ตารางเมตร เพื่อให้มีครบทุกฟังก์ชันสำหรับทุกคนในครอบครัว
“บ้านทั่วไปมักจะออกแบบสเปซเป็นตัวแอล (L) ตัวยู (U) หรือตัวซี (C) ที่ดินตรงนี้แคบแต่ลึกผมเลยใช้ฟิน (ครีบ)เป็นตัวแบ่งสเปซ กันแดด และกั้นความเป็นส่วนตัว แล้วเลือกใช้วัสดุธรรมชาติแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ตามความต้องการของคุณขจี ตัวฟินนี้เป็นหิน Supergenti Grey แผ่นใหญ่หนักแน่นสวยงามติดตั้งด้วยการแขวนแบบแห้ง และเพิ่มความพิเศษด้วยการวางฟิน 4-5 แผ่นพาดจากหน้าบ้านไปถึงหลังบ้าน ไว้ช่วยป้องกันแนวแดดจากทิศตะวันตกและตะวันออก แล้วลดพื้นที่ระเบียงกับชายคาให้น้อยลงเพื่อช่วยประหยัดสเปซรวมถึงแก้ปัญหาระเบียงที่ไม่ได้ถูกใช้งานจริง และออกแบบสระว่ายน้ำให้ขึ้นไปอยู่ชั้น 2 เหนือที่จอดรถ เพราะชั้นล่างใช้เป็นที่จอดรถเยอะแล้ว สเปซจึงไม่อำนวย ซึ่งก็มีข้อดีตรงที่ช่วยป้องกันเรื่องความชื้นของพื้นที่ใต้สระได้ เมื่อวางตัวสระให้อยู่ระหว่างฟินแนวตั้งจึงได้มุมมองที่สูงโปร่ง ไม่ถูกบดบังด้วยรั้วเพื่อนบ้าน แถมยังได้ความเป็นส่วนตัวสูง”
ในฐานะของคนทำงานรับเหมาสร้างบ้านกับสถาปนิกต่างๆ มานานกว่า 30 ปี คุณขจีได้อธิบายเสริมในเชิงของงานช่างว่า “ที่ผ่านมา บ้านที่ผมสร้างส่วนใหญ่จะมีความใกล้เคียงกันในเชิงช่างและงบประมาณ พอทำมาถึงจุดนี้ ผมก็อยากได้ประสบการณ์และความท้าทายใหม่ๆ ในแบบที่สถาปนิกและเจ้าของบ้านส่วนใหญ่ไม่กล้าทำ ก็เลยมาลงที่บ้านของตัวเอง ซึ่งความท้าทายของช่างสำหรับบ้านนี้ก็คือการใช้หินแผ่นใหญ่และหนักมาทำเป็นครีบแนวตั้ง ไม่ยาแนว ไม่ใช้ปูนกาว แต่ใช้การยึดของขอสเตนเลส ทำให้มีร่องระหว่างแผ่นนิดๆ ผมว่าให้มิติที่น่าสนใจกว่าไปยาแนวเหมือนกระเบื้อง ทำให้หินได้โชว์ความเป็นธรรมชาติของหินอย่างเต็มที่”
เติมความนุ่มนวลด้วยงานไม้
นอกจากความหนักแน่นของครีบหินแล้ว คุณวินยังออกแบบผนังแนวขวางให้เป็นงานไม้ ด้วยแนวคิดว่า “เลือกใช้ไม้กันเกราที่คุณขจีซื้อเก็บไว้นานแล้ว เป็นไม้ที่มีความหนาถ้าเอามาเรียงเป็นผนังเลยเวลาโดนแดดก็จะซีดและแตก ผมเลยเสนอให้เอาไม้ไปขุดเป็นร่องระแนง มันก็จะเกิดเป็นเฉดขึ้น เห็นลายเสี้ยนของผิวไม้ที่ดูอบอุ่นนุ่มนวลสอดคล้องไปกับลายริ้วของแผ่นหินในแนวตั้งได้อย่างลงตัวดี และยังใช้ไม้กันเกราในส่วนของฝ้ากับพื้นในบ้าน แม้กระทั่งในห้องน้ำก็ด้วย นี่ก็เป็นหนึ่งความกล้าของเจ้าของบ้านที่เลือกใช้วัสดุธรรมชาติแท้ๆ ที่ให้ความรู้สึกสงบอย่างลุ่มลึกในแบบที่วัสดุทดแทนเลียนแบบไม่สามารถทำได้”
แนวคิดนี้ตรงกับความชอบส่วนตัวของคุณขจีได้อย่างพอดิบพอดี “เพราะผมชอบวัสดุไม้ บ้านนี้จึงใช้ไม้กันเกราเป็นหลัก ตรงผนังภายนอกนั้นทำเป็นร่องประสานเชื่อมต่อกันไป มีช่องว่างสำหรับไม้ได้ยืดหดตัว ความหนาของไม้ยังช่วยป้องกันความร้อนได้ด้วย แล้วก็ผสมกับไม้พะยูง ไม้สาธร และไม้ตะเคียนทองผืนใหญ่หายากตรงระเบียงสระว่ายน้ำ ผมว่าไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่นของบ้านได้ดี แล้วทั้งหินและไม้ก็โชว์ลวดลายดิบๆ ที่เป็นเสน่ห์ตามธรรมชาติได้ตรงใจ”
บริบทธรรมชาติที่สร้างขึ้นเอง
เมื่อภายนอกบ้านไม่มีบริบททางธรรมชาติให้ชื่นชม จึงต้องมีการสร้างธรรมชาติขึ้นเองไว้ภายในโดยแทรกตัวกระจายไปอยู่ตามมุมต่างๆ ของบ้าน ตั้งแต่บ่อปลาขนาดใหญ่พร้อมต้นหว้าแม่น้ำโขงฟอร์มสวยบริเวณหน้าบ้าน ภายในมีคอร์ตสำหรับปลูกต้นมั่งมีทรงสูงในพื้นที่เปิดโล่งจากชั้น 1-3 เพื่อช่วยระบายอากาศและให้วิวธรรมชาติที่มองเห็นได้จากเกือบทุกห้อง โดยเฉพาะผ่านผนังกระจกบริเวณโถงนั่งเล่นชั้น 1 เพราะใช้กระจกแผ่นใหญ่มาต่อกันเพื่อให้เป็นผนังสูงเกือบ 6 เมตรแบบไม่ต่อเฟรม จึงได้มุมมองที่สูงโปร่งเป็นพิเศษ เวลากลางวันจะมองเห็นแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านต้นไม้เป็นแสงเงาทาบทาลงบนพื้นและผนังในมุมต่างๆ ของบ้าน สร้างมิติของเวลาและสุนทรียภาพที่นำไปสู่ความรู้สึกผ่อนคลาย
ยังมีพื้นที่เล็กๆ อย่างระเบียงห้องนอนกับห้องน้ำหลักที่ออกแบบพื้นที่ให้สามารถปลูกต้นพญาไร้ใบแทรกเป็นแนวรั้วธรรมชาติ ซึ่งมองผ่านจากผนังกระจกภายในแล้วสร้างมุมมองที่ผ่อนคลายได้ดี รวมถึงระเบียงขนาดใหญ่บนชั้นดาดฟ้าซึ่งตกแต่งให้มีทั้งบ่อน้ำและต้นมะขามเทศด่างมาเติมความสดชื่นให้สวนระเบียงสไตล์รูฟท็อปได้ทั้งในยามกลางวันและยังชวนให้ออกมาใช้เพื่อพื้นที่สังสรรค์ในยามค่ำได้อย่างรื่นรมย์
งานศิลปะในเชิงสถาปัตยกรรม
คุณขจีมักจะเรียกงานสร้างบ้านของตัวเองว่าเป็นการ “ปลูก” บ้านเสมอ ไม่ว่าจะเป็นบ้านหลังแรก บ้านหลังนี้ หรือบ้านพักต่างจังหวัดที่เขาใหญ่ เพราะทุกครั้งเขาจะร่วมออกแบบและคุมการก่อสร้างเอง เหมือนกับได้ฝังเมล็ดพันธุ์พืชลงดิน เฝ้ารดน้ำดูแล และเห็นการเติบโตงอกงาม
“ผมชอบสร้างบ้านนะ และชอบเพิ่มความท้าทายใหม่ๆ ให้ตัวเอง ก็เลยอยากทำบ้านที่สวยเหมือนงานศิลปะในเชิงสถาปัตยกรรม และก็ต้องโฮมมี่ อบอุ่น อยู่สบายด้วย ไม่ได้ชอบให้มีของในบ้านเยอะๆ ส่วนใหญ่จึงเน้นการซ่อนตู้ในผนังและทำบานตู้ให้เรียบ ดูน้อยแต่มาก เพราะผมชอบให้บ้านดูโล่งสบายตา ความสวยของผมเป็นแบบนี้ ก็เหมือนซูเปอร์คาร์ที่ใช้ยากในตอนแรกแต่ใช้ไปก็ชินและคล่องเอง ที่จริงตอนนี้บ้านเสร็จแล้วได้มาใช้ชีวิตในบ้านก็มีความสุขดี แต่ยอมรับว่าไม่สนุกเท่ากับตอนที่กำลังทำ เพราะได้เห็นการเติบโตของบ้านในแต่ละช่วงเวลา เหมือนเรากำลังปลูกต้นไม้ของตัวเอง”
Designer’s Tips
“ผมว่าภาษานี้ชัดเจนและคมชัดที่สุด ชีวิตนี้คงไม่มีทางได้ใช้ภาษานี้ได้อย่างสุดทางครบทุกมุมเท่านี้อีกแล้ว องค์ประกอบของหิน 5-6 แผ่นจัดมาอย่างดีมาก ประกอบกับวัสดุไม้ไม่ทำสี ต่อกระจกแบบไม่มีเฟรมนอน ผมว่ามันโหดร้ายในเชิงช่างมาก แต่เพราะคุณขจีใจถึงและมีฝีมือในเชิงช่างสุดยอด ทำให้บ้านมีความงามที่สุด เหมือนเป็นโอกาสทองคำให้สถาปนิกได้ออกแบบเต็มที่ ไม่ประนีประนอม มันเหมือนรถสปอร์ตที่วิ่งแข็ง กินน้ำมัน นั่งได้สองคน แต่ขับสนุก มีความเป็นศิลปะและสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ดี”
คุณธาวิน หาญบุญเศรษฐ สถาปนิกจาก Warchitect
เจ้าของ : คุณสุพรรณี วิจิตพาวรรณ และคุณขจี เกศจุมพล
สถาปนิก : WARchitect โดยคุณธาวิน หาญบุญเศรษฐ
เรื่อง : ภัทรสิริ โชติพงศ์สันติ์
ภาพ : ศุภกร ศรีสกุล
ที่ตั้ง : กรุงเทพฯ
สไตล์ : Suntreeya